ขณะเขียนนี่ ยังไม่ได้ยินว่า คสช. มีข้อแก้ตัวอย่างไรกับงบประมาณ ๖๐๐ ล้านบาท ที่ใช้ทำพีอาร์เวทีโลกในการรณรงค์รับเลือกเป็นสมาชิกไม่ถาวรคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ แต่ผลออกมาเสียเปล่า
เมื่อคาซัคสถาน คู่แข่งเดียวสำหรับภูมิภาคเอเชีย เอาชนะไทยอย่างขาดลอยไม่เห็นฝุ่น ๑๓๘ ต่อ ๕๕ จากการลงคะแนนรอบสองของสมาชิกทั้งหมด ๑๙๓ ประเทศ ในการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นที่นิวยอร์ค เมื่อวาน
มีแต่เสียงแถกแถแก้ตัวของลิ่วล้อ คสช. (ที่ปรึกษา รมว.กลาโหม) ซึ่ง Pavin Chachavalpongpun ตรวจข้อสอบให้ช็อตต่อช็อต หน้าแตกชนิดเย็บไม่ติด
Paisal Puechmongkol “ไม่เข้าใจเรื่องการทูต สะเออะจะออกความเห็น” ว่า ๑. เป็นเรื่องรัฐบาลนักการเมืองเริ่มไว้นานแล้ว “รัฐบาลลุงตู่จ๋าแบกรับมา”
อจ.ปวิน แกตอบให้ละเอียดนิด “หากการเสนอตัวเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของ UNSC เป็นความคิดริเริ่มของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และหากรัฐบาลเจ๊ปูยังอยู่ ไทยมีสิทธิที่จะได้รับการเลือกมากกว่านี้
คาซัคสถานก็เถอะ เทียบน้ำหนักแล้ว ไทยมีภาษีดีกว่ามาก เพราะไทยเป็นทั้ง ally ของสหรัฐฯ เป็นประเทศหลักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหนึ่งในสมาชิกอาเซียน”
ข้อ ๒. ของไพศาล “รัฐบาลหัวขี้ข้าฝรั่ง หลงเชื่อฝรั่งว่าจะช่วนล็อบบี้ให้ชนะคาซัคสถาน โดยไม่รู้ว่าประเทศกลุ่มองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้เขาสนับสนุนคาซัคสถาน”
อจ.ปวิน ‘ตอก’ อีกว่า “ส่วนไอ้องค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้นั้น มีสมาชิกแค่ ๖ ประเทศ (จีน รัสเซีย คาซัคสถาน เคอกิซสถาน ทาจิกิซสถาน และอุซเบกิสถาน) ในแง่ความสำคัญในเวทีโลกแทบไม่มี...
รู้ไม่จริง อย่ามาวิเคราะห์ กระจอกว่ะ”
ความจริงก็คือประเทศระดับ ‘มหา’ ในทางการเมืองโลกฝ่ายตรงข้ามตะวันตกที่รัฐบาล คสช. ทำตัวตีสนิทเป็นมหามิตรใหม่ คือรัสเซียและจีน ต่างก็ให้การสนับสนุนคาซัคสถาน แม้นว่าองค์การฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์เสนอบทความคัดง้างข้ออ้างเรื่องสิทธิเสรีภาพของ รมว.ต่างประเทศคาซัคสถาน
“เจ้าหน้าที่ตำรวจกักขังประชาชนนับร้อยที่ชุมนุมในเรื่องสิทธิที่ดินอย่างสงบเมื่อเดือนก่อน นอกจากนี้ยังกักขังสื่อมวลชน ผู้สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชน และมีหลายกรณีที่เจ้าหน้าที่ใช้กำลัง” สภาพการณ์เลวร้ายไม่ต่างจากไทย
(http://prachatai.org/journal/2016/06/66582)
ไพศาลไม่ลดละ ตอดท้าย “อย่าด่าผิดตัวละกัน โน่น ต้องด่าพวกรัฐบาลนักการเมือง และพวกหน้าโง่แต่อวดดี”
อจ.ปวิน แกเลยต้องอธิบายเพิ่มเติม “แต่เผอิญว่า ไอ้ตอนพิจารณานี้กองทัพไทยเสือกรัฐประหาร ผมย้ำแล้วย้ำอีกว่าโอกาสที่เผด็จการจะได้เสียงข้างมากมันน้อยมาก สมาชิก UN เค้าตัดสินใจจากรัฐบาลปัจจุบัน (ซึ่งเป็นรัฐบาลเผด็จการ)
เพราะฉะนั้น อย่ามาโทษรัฐบาลชุดก่อนหน้าก่อนโน้น หัดโทษตัวเองซะบ้างครับ ดีออกส์”
อีกราย “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” Pipob Udomittipong ชี้ว่า “หายวับไปกับตาเช่นเดียวกับโครงการอื่น ๆ ในยุคคสช. (แฟร์ ๆ ก็ต้องบอกว่าเป็นกระบวนการต่อเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้วด้วย)”
มากไปกว่านั้น “ในกระบวนการ #UPR ข้าราชการไทยก็ไปโกหกเขาว่าใช้ศาลทหารกับคดีร้ายแรง ใช้พรบ.คอมกับคดีร้ายแรง
ที่ไหนได้ แค่ออกมารณรงค์ให้คนไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงอาจติดคุกสิบปี และต้องขึ้นศาลทหาร ข้าราชการไทยนั่นแหละที่เป็นปัญหา เป็นมือเป็นตีนเผด็จการมาตลอด ตกลงคุณรับเงินจากใคร?”
ทั้งนี้เพราะช่วงรณรงค์ก่อนการลงคะแนน องค์การสิทธิมนุษยชนสากลแห่งหนึ่งชื่อ Forum Asia ซึ่งมีสำนักงานกลางอยู่ในสวิทเซอร์แลนด์ ได้มีหนังสือถึงที่ประชุมฯ ขอให้พิจารณาการเสนอตัวของไทยอย่างระมัดระวัง
เนื่องจากภายใต้การปกครองของคณะทหาร คสช. ปรากฏมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นอย่างกว้างขวาง
“สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนไทยก็ถูกจำกัดภายใต้อำนาจของกองทัพ เสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบก็ถูกปิดกั้นภายใต้คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๓/๒๕๕๘ ซึ่งห้ามการชุมนุมเกิน ๕ คน นอกจากนี้ยังให้อำนาจจับกุมแก่เจ้าหน้าที่ของกองทัพตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๑๓/๒๕๕๙
และเพียงสัปดาห์ก่อนเท่านั้น ก็มีนักศึกษาและนักกิจกรรมแรงงาน ๑๓ ราย ถูกจับกุมโดยอ้าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ มาตรา ๖๑ ซึ่งทำให้การพูดคุยสาธารณะหรือการแจกจ่ายข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องร่างรัฐธรรมนูญไม่สามารถทำได้ และถ้าผู้ถูกจับกุมเหล่านี้ถูกตัดสินว่าทำผิดอาจต้องได้รับโทษจำคุกถึง ๑๐ ปี”
(Thailand: There Should Be No seat at the UN Security Council for a Non-Democratic Country with a Troubling Rights Record, 27 June 2016 7:34 pm http://www.forum-asia.org/?p=21099)
การที่ ไพศาล พืชมงคล พยายามผ่อนความเสียหาย ‘damages control’ ให้แก่ คสช. ด้วยการผลักความผิดไปให้รัฐบาลก่อนๆ จึง ‘กระจอก’ อย่างที่ อจ.ปวินว่าจริงๆ
ยังมีเกล็ดข่าวจาก น.ส.พ.บางกอกโพสต์ น่าเอ่ยถึงด้วยว่า ระหว่างกระบวนการลงคะแนนเสียงรอบหนึ่งกับรอบสอง มีการแจกของชำร่วยจากประเทศที่เข้ารับเลือกตั้งแก่ตัวแทนประเทศสมาชิกทั้งหมด
(http://www.bangkokpost.com/…/…/thailand-defeated-in-unsc-bid)
เนเธอร์แลนด์ที่คะแนนสูสีกับอิตาลี่ แจกดอกทูลิปและรองเท้าไม้ขนาดจิ๋ว ขณะที่อิตาลี่แจกช้อคโกแล็ต ‘บากี’
ส่วนไทยแจกภาพพระพุทธเจ้า “ของขวัญเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลอะไรเท่าไหร่” ข่าวบางกอกโพสต์อ้าง
มีคนแปลกใจทำไม คสช. ไม่เอาพระบรมสาทิสลักษณ์ไปแจก ทั้งๆ ที่รายงานข่าวในประเทศก่อนหน้านี้มั่นใจกันว่าชนะแน่
ฤๅที่จริงแล้วรู้ตัวว่าไม่มีหวัง แต่ก็ยังโฆษณาในทางตรงข้าม