วันจันทร์, มิถุนายน 27, 2559

ขอพวกเราอย่านิ่งเฉยต่อการใช้อำนาจของเผด็จการ... ปฏิกริยาการเรียกร้องกดดันไปที่ คสช ต่อกรณีจับนักศึกษาเข้าคุก ในปีนี้ เบาบางกว่าปีที่แล้วมาก พูดถึงกันน้อย ออกแอคชั่นกันน้อย



.....

วันนี้ เมื่อปีที่แล้ว นักศึกษานักกิจกรรม 14 คนถูกจับเข้าคุก ผมจึงเขียนข้อความในเฟสบุ๊คเกี่ยวกับนายรังสิมันต์ โรม เพราะ ผมคุ้นเคยกับเขามากที่สุดในบรรดาคนที่ถูกจับ

มาปีนี้ นักศึกษา 7 คนถูกจับเข้าคุกอีก จากการแจกเอกสารณรงค์ Vote No ซึ่ง หนึ่งในเจ็ดนั้น มีนายรังสิมันต์ โรม อยู่ด้วย เช่นเดียวกับปีที่แล้ว

ทั้งปีนี้และปีที่แล้ว นักศึกษา นักกิจกรรม ถูกอำนาจรัฐอุ้มจับเข้าคุกอย่างป่าเถื่อนเหมือนเดิม แต่มีสิ่งที่แตกต่างอยู่เหมือนกัน ซึ่งผมเห็นว่ามีนัยสำคัญและส่งผลกระทบต่อนักศึกษาที่ต้องเข้าคุก และการออกเสียงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมนี้

ปฏิกริยาการเรียกร้องกดดันไปที่ คสช ต่อกรณีจับนักศึกษาเข้าคุก ในปีนี้ เบาบางกว่าปีที่แล้วมาก พูดถึงกันน้อย ออกแอคชั่นกันน้อน

ผมคิดว่าอาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น

พึ่งเกิดขึ้นได้ไม่กี่วัน ยังตระเตรียมงานกันอยู่

คนเริ่มชินชากับการใช้อำนาจของ คสช

สื่อร่วมกันไม่เสนอข่าว ไม่ทำให้เป็นประเด็นร้อน ไม่นำไปซักถาม คสช กกต กรธ

มีฟุตบอลยูโร และข่าว Brexit มากลบ

เป็นต้น

ผมกังวลใจว่า หากเราไม่สามารถยกระดับการเรียกร้องกดดันได้เท่ากับปีที่แล้ว ทั้ง 7 คนอาจโดนขังต่อไปเรื่อยๆ ผลัดแรก 12 วัน และอาจตามมาด้วยผลัดสอง ผลัดสาม...

หรือ หากมีเหตุการณ์สำคัญอย่างยิ่งเกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ พวกเขาทั้ง 7 ก็อาจถูกลืม หรือถูกทำให้ลืม และติดคุกยาวได้

อย่างที่เราทราบกันดี ครั้งก่อน เมื่อผ่านไป 13 วัน ทั้ง 14 คนก็ถูกปล่อยออกมาโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ และไม่ใช่การประกันตัวด้วย มันเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่ใช่มาจากการกดดันอย่างต่อเนื่องเข้มข้น แล้วจะมาจากอะไรได้อีก

การที่นักศึกษาเสียสละเข้าคุก คงไม่ได้ทำไปด้วยความคึกคะนองตามประสาวัยรุ่น แต่พวกเขาตรึกตรองมาแล้วว่า พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด และต้องการให้การติดคุกของเขานั้น กระตุ้นเตือนให้คนทั่วไปได้รู้ และลงมือทำงานต่อจากพวกเขา

ข้อหาที่พวกเขาโดนในปีนี้ ว่ากันตามตรง มันแย่ ห่วย และอ่อนกว่าปีที่แล้วมาก แต่กลับมีปฏิกริยาตอบโต้น้อยมาก

คนไปแจกเอกสารรณรงค์ ในบรรยากาศการรณรงค์ออกเสียงประชามติ กลับถูกจับเข้าคุก

อีกฝ่าย รณรงค์ได้เต็มที่ นอกจากไม่ถูกจับ ไม่มีคดีความแล้ว บางครั้งยังมีอำนาจรัฐอำนวยความสะดวกให้อีกด้วย

เราคงไม่ต้องคาดหวังให้ฝ่ายรับร่างฯ เห็นอกเห็นใจหรอก

แต่ถ้าฝ่ายไม่รับร่างรัฐธรรมนูญด้วยกัน กลับออกมาแสดงออกน้อยกว่าปีที่แล้ว น้อยกว่าที่ควรจะเป็น แบบนี้ ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าเสียใจอย่างยิ่งว่า สุดท้าย... ก็ได้เท่านี้

ผมคิดว่า ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ การให้กำลังใจกันในเฟสบุ๊คอย่างเดียว คงไม่พอ การโพสตามเพจ NDM เพจพลเมืองโต้กลับ เพจผู้สื่อข่าวอิสระต่างๆ ว่า "ให้กำลังใจนักศึกษา" "ให้กำลังใจน้องๆลูกๆหลานๆ" "สู้สู้" "สุดยอด นี่แหละคนรุ่นใหม่" ฯลฯ แค่นี้ คงไม่เพียงพออีกแล้ว

ผมขอความกรุณาทุกท่าน ถ้าพอจะสะดวกใจ กาย เวลา ช่วยกันออกมาร่วมกิจกรรมรณรงค์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น โดยดูการประชาสัมพันธ์ได้ตามเพจต่างๆ

ผมเอง ก็รู้สึกผิดและอาจพูดอะไรได้ไม่มากนัก เพราะตัวผม ตอนนี้ ก็อยู่ในช่วงลามาทำวิจัยที่ฝรั่งเศส ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ แต่ก็จะทำทุกอย่างเท่าที่ตอนนี้ทำได้

การทำให้ผู้คนชินชา เฉยเมย กับการใช้อำนาจของเผด็จการ เป็นกลยุทธของเผด็จการอย่างหนึ่ง

ขอทุกท่าน ได้โปรดอย่าท้อ อย่าชิน กับการใช้อำนาจในลักษณะนี้เลยครับ

จาก FB

Piyabutr Saengkanokkul

....

ความเห็นจากมิตรสหายท่านหนึ่ง...

ขอพวกเราอย่านิ่งเฉยต่อการใช้อำนาจของเผด็จการ ถ้าเราไม่ต่อสู้ร่วมกับคนรุ่นใหม่ และเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเขาเหล่านี้ ต่อไป ใครจะออกมาสู้อีก