"รถเมล์เที่ยวสุดท้าย.."
เธอคนนั้นนั่งพิมพ์โทรศัพท์ไป พร้อมกับชะเง้อดูรถเมล์ที่จะมาเป็นระยะๆ ผมไม่รู้เธอมารอนานเท่าไหร่แล้ว รู้แต่ว่าเกือบเที่ยงคืนที่ผมลงรถเมล์มาเพื่อต่อรถที่ป้ายนี้...เธอก็นั่งอยู่ก่อนหน้า
ส่วนผมเองก็กำลังตัดสินใจว่าาจะเรียกแท็กซี่ต่อไปยังจุดหมายปลายทางหรือจะรอรถเมล์ที่จะกลับที่พัก ซึ่งแม้นานๆจะมาสักคันแต่ก็เป็นสายที่วิ่งรับผู้โดยสารทั้งคืน... เธอก็คงไม่ต่างจากผม
เกือบ 10 นาที มีแสงไฟบอกลักษณะเป็นรถเมล์ วิ่งพ้นโค้งมาจากไกลๆ ทั้งผมและเธอรีบลุกขึ้นยืนเพื่อจะเพ่งตาดูว่าเป็นสายที่ต้องการหรือไม่ เมื่อเห็นว่าน่าจะใช่สายที่เราต้องการโดยสาร พวกเราสองคนช่วยกันโบก แต่รถก็วิ่งด้วยความเร็วออกเลนขวาสุด แต่ก็ทันเห็นคนขับมองมาที่ป้ายโดยสารแวบหนึ่ง วินทีนั้นเหมือนวัดใจกันว่า ถ้าเขาจอดเลยป้าย พวกเราจะวิ่งไปขึ้นหรือเปล่า...
สุดท้ายรถก็เลยไป
ผมสบตากับเธอแวบหนึ่ง ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ พูดเบาๆกับตัวเองแต่ดังพอที่เธอจะได้ยิน "รอนาน แถมไม่จอดอีก.." ผมเตรียมมองหาเรียกแท็กซี่ แต่ต้องเปลี่ยนความคิด เมื่อได้ยินเสียงเธอพูดโทรศัพท์
"ลูก..นอนไปก่อนนะ ไม่ต้องรอแม่" แล้วเสียงเธอก็พูดต่อ
"ขอโทษที วันนี้แม่ต้องทำโอดึก รถเมล์ก็เลยหมด"
เสียงปลายสายคงบอกแนะนำเธอ
"นั่งแท็กซี่ก็เป็นร้อยน่ะลูก..ลูกนอนเถอะนะ"
ผมเปลี่ยนความคิดที่กำลังเรียกแท็กซี่ รอขึ้นรถเมล์เป็นเพื่อนเธอดีกว่า ยังไงผมก็ไม่ได้มีใครรอ และถึงผมจะไม่รู้ว่าปลายทางเธอคือที่ไหน แต่รับรองได้ว่าจากสารรูปของผม เธอคงไม่กล้าร่วมโดยสารรถไปกับผมแน่ แม้ว่าจะชวน
ผมไม่รู้ว่าเธอจะทำโอที แล้วได้ค่าแรงเพิ่มอีกเท่าไหร่?
แต่มันคงมีความหมายมากๆกับความเป็นอยู่ของเธอ
แล้วถ้าจะต้องเอามาเสียให้กับค่าแท็กซี่ มันคงไม่คุ้มกับที่เธออุตส่าห์ลงแรงไป
โดยเฉพาะที่ยอมต้องให้ลูกรอแม่กลับบ้าน...
คนขับรถเมล์คงไม่ได้มีฐานะต่างกับพวกเราเท่าไหร่?
แต่ทำไม...พวกคุณถึงไม่มองเห็นผู้โดยสาร ที่รอคุณอยู่บ้าง
จริงสินะ..พวกคุณอาจไม่ได้รู้เรื่องอะไร ?
ถ้าเกิดอะไรที่ไม่คาดฝัน ระหว่าที่คนๆนั้นยังกลับไม่ถึงบ้าน
ผมเชื่อว่าไม่ใช่แต่เวลากลางคืน..
แม้แต่เวลากลางวันที่คนรอรถโดยสารต้องพลาดอะไรหลายๆอย่าง
เพียงเพราะคุณอยากขับไปถึงปลายทางเร็วๆ จนลืมหน้าที่
อยากให้รถเมล์เที่ยวนั้นเป็นรถเมล์เที่ยวสุดท้าย..ที่ไม่จอดรับผู้โดยสาร
#ขสมก #ป้ายหน้าธนาคารทหารไทยจตุจักร #อยากให้คนขับรถเมล์อ่าน
ชินภัทร ตันศรีสกุล