กระแสเรียกร้องให้ ‘พุทธ’ เป็นศาสนาประจำชาติมาถึงจุดนี้แล้ว
เราได้สงฆ์สุดโต่งแบบ ‘วิราธุ’ สำหรับเมืองไทยบ้าง นามว่า Aphichat Promjan
ก่อนอื่นต้องรู้จักวิราธุกันเสียหน่อย แกเป็นพระพม่าประเภท extremist ไล่ล่า รุกฆ่ามุสลิมโรฮิงญา
ตามรายงานของ Al Jazeera เมื่อกลางกุมภาพันธ์ ศกนี้ บอกว่าเขาเป็น ‘controversial monk’
“Ashin Wirathu. Once referred to as the “Burmese bin Laden,” he is the leader of an ultranationalist group called 969, which opposes the growth of Islam in Myanmar. He was jailed in 2003 for inciting hatred and stirring sectarian clashes and released in 2010.
(http://america.aljazeera.com/…/myanmars-buddhist-terrorism-…)
ครั้งหนึ่งได้ฉายา ‘บิน ลาเด็น พม่า’ เคยติดคุกฐานปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง และก่อกวนให้เกิดการปะทะระหว่างศาสนา ตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ ออกมาเมื่อปี ๒๕๕๓
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่ อะฉิ่น วิราธุ เป็นไอดอลของ อภิชาติ พรมจันทร์
เพราะเมื่อไม่นานนี้เอง (13hrs) อภิชาติโพสต์ข้อความชื่นชมคำพูดของวิราธุ “พระอาจารย์กล่าวได้ถูกต้องแล้ว :ใช้ชีวิตอยู่บนแผ่นดินของเรา แต่ไม่สำนึกในบุญคุณของเรา” พร้อมรูป ‘the face of Buddhist terror’
ก่อนหน้านั้นทั่นมหาเขียนถึงสามจังหวัดภาคใต้ไว้สะเด็ดยาด
"ถ้าพระใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกระเบิดหรือถูกยิงตาย ๑ รูป ด้วยน้ำมือของโจรก่อการร้ายมลายู ต้องแลกกับการไปเผามัสยิดทิ้งไป ๑ มัสยิด โดยเริ่มจากภาคเหนือลงมาเรื่อยๆ แล้วก็ขับไล่ลัทธินั้นออกไปจากพื้นที่ทุกวิถีทางจนกว่าจะไม่เหลือคนที่นับถือลัทธินั่นเลยแม้แต่คนเดียว...
แต่ถ้าชาวพุทธยังมีความกลัวหรือขี้ขลาดตาขาวอยู่ในหัวใจ ก็จงรีบยกแผนดินที่ท่านเกิดให้เขาไปครอบครองเสีย แล้วพวกท่านก็รีบอพยพไปหาแผ่นดินใหม่อาศัยซุกหัวนอนเอาเถิด หากไม่รีบไปพวกท่านอาจจะถูกบั่นคอเอาได้เหมือนกับที่ชาวพุทธในภาคใต้โดนมาแล้ว”
(http://hilight.kapook.com/view/128465)
เขียนขนาดนี้ถ้าใช้สำนวนของอัล จาซีร่า บอกได้ว่าไม่เพียง inciting hatred เท่านั้น ทั่นยัง instigating violence เสียด้วย
โอ้ แม้จ้าว นี่น่ะหรือ Buddhist monk in Thailandia ทำให้มิตรสหายหลายท่านนึกถึง กิตติวุฑโฒภิกขุ ที่เคยพูดว่า “ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป” ขึ้นมาทันใด
เว้นแต่นักวิพากษ์บางท่านเรียกว่า “พระอีเดียต” และนักกฏหมายบางรายตำหนิว่า
“ไอเดียนี้อย่าว่าแต่นักบวชในศาสนาพุทธเลย แม้แต่ฆารวาสที่นับถือพุทธก็ไม่ควรคิดอย่างนี้ เสนอไอเดียอย่างนี้มาได้ อย่าว่าแต่เป็นนักบวชเลย ความเป็นคนจะมีหรือเปล่าเหอะ” (ประเวศ ประภานุกูล)
แล้วยังมีนักวิชาการลงมือวิจารณ์อย่างห่วงใยว่า ลัทธิพุทธชาตินิยมกำลังขยายตัวอย่างน่าห่วง
“นายไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ อาจารย์ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้เขียนแสดงความคิดเห็นหัวข้อ ‘อันตรายพุทธชาตินิยม’ พร้อมตั้งข้อสังเกตกรณีที่มีพระสงฆ์เขียนข้อความลงเฟซบุ๊ก ในลักษณะยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งทางศาสนาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้”
“ผมคงไม่วิพากษ์พระมหาอภิชาติว่าท่านยังเป็นสมณะหรือไม่โดยเฉพาะการเขียนที่ใช้ภาษาก้าวร้าวรุนแรงที่ขัดกับศีลข้อที่ ๔ (มุสาวาทาเวรมณี)
แต่ผมห่วงใยจริงๆ กับการที่สำนักพระพุทธศาสนาปล่อยให้พระสงฆ์ออกมาปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังทางศาสนาในสังคมอย่างโจ่งแจ้งเปิดเผย
ซึ่งหากปล่อยไปเรื่อยๆ ความคิด ‘พุทธชาตินิยม’ จะกลายเป็นโรคระบาดในสังคมไทยจนยากเกินจะแก้ไข”
(http://news.thaipbs.or.th/content/Chainarong Sretthachau)
ในศรีลังกาและพม่าซึ่งเป็นประเทศที่ประชากรนับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาทเป็นจำนวนมาก ๗๐-๘๐ เปอร์เซ็นต์ มีกระบวนการพุทธพิฆาตมุสลิมเกิดขึ้นอย่างรุนแรงและยังกรุ่นระอุอยู่จนขณะนี้
องค์กรไล่ล่ามุสลิมในศรีลังกาชื่อว่า ‘โพธุ พละ สาลา’ (พลังอำนาจพุทธ) ส่วนในพม่าเรียกว่า ‘๙๖๙’
นิตยสารไทม์เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้วอ้างว่าสององค์กรมีวิธีปฏิบัติแบบเดียวกันในการต่อต้านมุสลิม ซ้ำยังมีการร่วมมือข้ามชาติ มีการนัดพบวางแผนร่วมกันระหว่าง กนาณะสารา หัวหน้า พพส. กับวิราธุ หัวหน้า ๙๖๙
รัฐมนตรีกลาโหมศรีลังกาซึ่งเป็นน้องของประธานาธิบดีให้การสนับสนุน พพส. อย่างออกนอกหน้า เช่นเดียวกับรัฐบาลทหารพม่าทำไม่รู้ไม่ชี้เมื่อมีการยกพวกรุมทำร้ายชาวโรฮิงญาในยะไข่ อารขัณฑ์
(http://time.com/…/how-an-extremist-buddhist-network-is-sow…/)
หลักปรัชญาแก่นของพุทธศาสนาที่ยึดทางสายกลาง ไม่โต่ง ไม่ตื้น แล้วไฉนในประเทศนิกายเถรวาท เช่นศรีลังกา พม่า และไทย จึงได้คุ้มคลั่งกับความเชื่อตื้นเขิน มุ่งกำจัด ทำร้ายฝ่ายที่แปลกแตกต่าง
ย้อนรอยวัฒนธรรมถอยหลังกลับไปเป็นหลายร้อยปี