พวกรับงานพิพากษาเหล่านี้จะตัดสินด้วยธง ไม่ต้องดูข้อเท็จจริง ในมิติแห่งสิทธิมนุษยชน ไม่ต้องใช้ตรรกะแห่งความสมเหตุสมผล ไม่ต้องแม้แต่ใช้รอยหยักในสมองในกระบวนการคิดคำนวณผลได้ผลเสีย ใช้การอ้างเหตุเหลวไหลให้เข้าธงไว้เท่านั้น
ตัวอย่างรายล่าสุดได้แก่นายณัฐนันท์ ดุจดำเกิง ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีชุมนุมคนอยากเลือกตั้ง UN62 ที่มีผู้ถูกกล่าวหา ๑๘ คน โดนฟ้องร้องข้อหาหลักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๖ และ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ
คดีโบร่ำโบราณตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ ในโอกาสครบ ๔ ปีการรัฐประหาร มีการชุมนุมที่ มธ.ท่าพระจันทร์ แล้วออกเดินขบวนจะไปทำเนียบรัฐบาล แต่ถูกสกัดเสียก่อนที่หน้าอาคารสหประชาชาติ อัยการฟ้องเมื่อปี ๖๒ จนป่านนี้ยังนัดสืบพยานไม่เสร็จ
การนัดสืบพยานเมื่อ ๑๘ เมษา ๖๗ อัยการโจทก์ขอเลื่อนมาเป็นวันที่ ๑๕-๑๖ สิงหา แต่ก่อนจะถึงวันนัด ทางผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนได้ทำหนังสือสอบถามไปยังสภาทนายสองครั้ง เรื่องที่ อานนท์ นำภา ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทนายว่าความแก่จำเลย ๔ ราย
สภาทนายตอบศาลว่าอานนท์ยังไม่ได้ถูกลงโทษในเรื่องมารยาทของทนายความแต่อย่างใด คดีที่เขาถูกกล่าวหาก็ยังไม่ถึงที่สุด ถือว่าเขายังปฏิบัติหน้าที่ทนายความได้ แม้จะเป็นผู้ถูกคุมขังคดี ม.๑๑๒ ที่ถูกปฏิเสธการประกันตัวมาแล้วเกือบสิบครั้ง
ศาลก็ยังไม่ลดละความพยายามจะเขี่ยอานนท์ออกจากการเป็นทนายว่าความ ซึ่งเขาได้ปฏิบัติหน้าที่นี้มาแล้วหลายครั้งในชุดนักโทษและโซ่ตรวน ศาลอาญาได้มีหนังสือไปยังกรมราชทัณฑ์สอบถามอีกว่า อานนท์จะสามารถว่าความได้หรือ
ราชทัณฑ์ตอบกลับว่าไม่มีกฏระเบียบใดๆ ห้ามนักโทษและผู้ถูกคุมขังเป็นทนายว่าความแก้ต่างให้กับจำเลยอื่นๆ ได้ แต่ก็มีช่องโหว่นิดนึงให้ราชทัณฑ์ตั้งข้อสังเกตุว่า มีข้อบังคับสภาทนายว่าด้วยมารยาทในการแต่งกายของทนายความ
ในวันนัดสืบพยานเมื่อ ๑๕ สิงหา ศาลจับเอาประเด็นนี้ไปออกคำสั่งแจ้งจำเลย ๔ คนในคดี ‘ยูเอ็น ๖๒’ ให้หาทนายใหม่ อ้างว่าการว่าความชุดนักโทษของทนายอานนท์ไม่เหมาะสม ขัดต่อระเบียบเรื่องมารยาทในการแต่งกายของทนาย
อานนท์เองก็ยืนยันต่อศาลว่าตนทำมาแล้วหลายครั้ง สภาทนายมีหนังสือรับรองมาแล้ว แต่ผู้พิพากษาดึงดันจะต้องกลับไปถามความเห็นจากราชทัณฑ์ใหม่อีก เรียกว่าจะเอาให้ได้อย่างใจ จึงได้มีการเลื่อนสืบพยานไปวันที่ ๘ ตุลาใหม่อีกครั้ง
ฮ่วย
(https://tlhr2014.com/archives/69189)
