วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 07, 2566
สรุปประเด็นร้อน #นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ กับ Gaslighting ใครเป็นใคร
Poetry of Bitch
1d·
สรุปประเด็นร้อน #นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ กับ Gaslighting
—————
นักสื่อสารวิทยาศาสตร์คืออะไร
จากโพสต์ของผู้หญิงคนหนึ่ง
แทนไท อาบัน และจิระนันท์ พิตรปรีชา
จุดยืนของ The Standard
อะไรคือ Gaslighting
แถลงการณ์จาก ‘ป๋องแป๋ง‘
—————
นักสื่อสารวิทยาศาสตร์คืออะไร
:
1- นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ (Science Communicator) คือคนที่รวบรวมความรู้ที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบมาถ่ายทอดให้คนทั่วไปฟัง ส่วนใหญ่จึงเป็นการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย เพื่อให้คนเข้าใจได้ง่ายขึ้น
—————
จากโพสต์ของผู้หญิงคนหนึ่ง
:
2- เรื่องนี้เริ่มจากเมื่อ 3 วันที่แล้ว หญิงสาวชื่อ “ปอ” (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ของสำนักข่าว The Standard โพสต์เล่าว่า มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเรียกตัวเองว่านักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้ใช้ความมีชื่อเสียง ความเป็นไอดอล และการพูดจาน่าเชื่อถือมีหลักการ เข้าหาผู้หญิงและดึงดูดเหยื่อ แล้วฉวยโอกาสคุกคามทั้งทางร่างกายและจิตใจ
3- ผู้ชายคนนี้เป็นคนฉลาด เขารู้ว่าทำแบบไหนที่กฎหมายจะเอาผิดไม่ได้ วิธีการที่ผู้ชายคนนี้ใช้คือเริ่มจากการทักไปจีบ โทรหาตอนกลางคืนทุกวัน ทั้งที่บางคนยังไม่บรรลุนิติภาวะ แล้วเริ่ม Gaslighting เช่น ควบคุม หลอกใช้ ด่าทอ ต่อว่าให้อับอาย ลดทอนศักดิ์ศรีและด้อยค่าความเป็นมนุษย์ ทำลายอัตลักษณ์ของเหยื่อให้รู้สึกไม่เหลือความเป็นคน จนบางคนถึงกับคิดฆ่าตัวตาย
4- ก่อนหน้านี้เธอเป็นคนที่รักและปกป้องเขามาตลอด เมื่อตาสว่างแล้วลองพูดคุยกับคนอื่น ๆ และเก็บข้อมูล จึงพบว่าเธอมองคนผิด หลายคนที่อยู่ในวงการวิทยาศาสตร์ต่างก็ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติของผู้ชายคนนี้ และมีผู้หญิงหลายคนตกเป็นเหยื่อของเขา รวมทั้งตัวเธอเอง
5- ผู้หญิงบางคนที่ถูกเขากระทำกลายเป็น PTSD ฝันร้ายไปตลอดชีวิต ตัวเธอเองหลังเกิดเรื่องก็เอาแต่โทษตัวเอง รู้สึกว่าเราผิด เราไร้ค่า สภาพจิตใจพังทลาย และต้องต่อสู้กับจิตใจตัวเองหนักมาก
6- ในฐานะสื่อเธอจึงอยากตั้งคำถามถึงเรื่องนี้ อยากให้องค์กรตรวจสอบพฤติกรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณของผู้ชายคนนี้ที่เรียกตัวเองว่าอาจารย์ แต่วางตัวกับลูกศิษย์ไม่เหมาะสม รวมถึงคุกคามทางเพศและจิตใจ เธออยากเห็นสังคมให้บทเรียนกับเขา
อ่านโพสต์ของคุณปอ: https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1746418652502359&id=100014027225999
—————
แทนไท อาบัน และจิระนันท์ พิตรปรีชา
:
7- โพสต์นี้ของปอมีคนแชร์มากกว่า 6 พันครั้ง และหลายคนพุ่งเป้าไปที่ “ป๋องแป๋ง อาจวรงค์” นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ชื่อดังซึ่งจัดรายการพอดแคสต์ “ใด ๆ ในโลกล้วนฟิสิกส์” ให้กับ The Standard ส่วนหนึ่งเพราะก่อนหน้านี้เคยมีข่าวทำนองนี้เกี่ยวกับเขามาก่อน
8- หนึ่งในคนที่แชร์โพสต์ของปอคือ “แทนไท ประเสริฐกุล” นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ เจ้าของช่อง Witcast (วิทย์แคสต์) ซึ่งหลายปีก่อนป๋องแป๋งก็เคยร่วมงานกับแทนไทในช่องนี้มาก่อน แต่แยกย้ายกันไปในปี 2562
9- แทนไทแชร์โพสต์ของปอและเขียนแคปชั่นว่า หลายคนเคยถามเขาว่าทำไมจึงไม่กลับไปร่วมงานกับนักสื่อสารวิทยาศาสตร์คนนี้อีก ทั้งที่ครั้งหนึ่งเคยสนิทกันมาก หนึ่งในเหตุผลหลักก็คือเรื่องทำนองนี้ตามที่น้องปอเล่า และอยากส่งต่อให้น้อง ๆ ที่หลงปลื้มเขาอยู่ได้รับรู้กันเยอะ ๆ
10- อีกคนที่แชร์โพสต์นี้คือ “อาบัน” ซึ่งเป็นแฟนของแทนไทและเป็นผู้ร่วมจัดรายการของ Witcast ด้วย อาบันเล่าว่าน้องปอเคยถูกปั่นหัวด้วยคำว่ารัก ถูกเอารัดเอาเปรียบ ควบคุม ทำร้ายด้วยวาจาและจิตใจเพื่อให้ยอมศิโรราบ ยอมทำงานให้ คอยแก้ปัญหาให้ แถมยังถูกหลอกด้วยการคบซ้อนอีกหลายซ้อน น้องปอผ่านเรื่องที่หนักหน่วง ถูกทำให้เจ็บปวดเจียนตาย แต่ยังฟื้นลุกขึ้นมาได้อย่างเข้มแข็ง และเธอตัดสินใจออกมาพูดเพราะไม่ต้องการเห็นใครถูกปั่นหัวอีก
11- อาบันบอกว่า วันนี้น้องปอมีหน้าที่การงานที่ดี มีสังคมใหม่ มีความสุขในชีวิต ไม่ใช่เด็กอายุ 20 ที่จะโดนหลอกได้อีกต่อไป ทำให้อีกฝ่ายวิปลาสที่ควบคุมน้องไม่ได้เหมือนเดิม จึงใช้วิธีด่าทอ ยุยง กดทับให้คลางแคลงใจว่าเธอมีความสามารถพอสำหรับงานที่ The Standard หรือไม่
12- ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 พบว่าอาบันเคยโพสต์ถึงเรื่องนี้มาแล้ว โดยอาบันเล่าว่าเหตุผลที่ขอให้บุคคลนี้ลาออกจาก Witcast ในตอนนั้นก็เพราะเรื่องของจริยธรรมและจรรยาบรรณ โดยพบว่าเขา abuse แฟนคลับ เอาเปรียบและกล่อมจิตเด็ก ๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นหญิง เพื่อจะได้ใช้งานฟรี แล้วค่อยกดย่ำความมั่นใจว่าไม่เอาไหน ไม่สวย อ้วน โง่ Gaslight จนซึมเศร้าแล้วจึงเขี่ยทิ้ง โดยเขาใช้แพทเทิร์นแบบเดียวกัน มีผู้หญิงถูกกระทำหลายคน บางคนต้องไปพบจิตแพทย์
13- อาบันยังพูดถึงพฤติกรรมอื่น ๆ ของเขา เช่น ใช้จิตวิทยาข่มเพื่อนร่วมงาน หนีรายการไปเดต จีบแฟนของแฟนคลับ บล็อกคนที่คอมเมนต์แย้งเขาในเพจ Witcast อาบันมารู้ตอนที่แฟนคลับคนหนึ่งทักไปถามในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าบล็อกเขาทำไม เธอจึงเข้าไปดูและพบว่ามีคนถูกบล็อกกว่า 30 คน ล้วนเป็นแฟนคลับคุณภาพทั้งนั้น เมื่อเธอถามเขาว่าบล็อกทำไม เขาตอบว่า “แค่น่ารำคาญ”
14- “จิระนันท์ พิตรปรีชา” กวีซีไรต์ซึ่งเป็นแม่ของแทนไท ก็ออกมาโพสต์ให้กำลังใจผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อ และบอกว่าคนวงในรู้พฤติกรรมของคนนี้มานานแล้ว
15- จิระนันท์บอกว่าเธอได้เห็นด้านมืดของคนคนนี้สมัยที่เดินเข้าออกบ้านในฐานะเพื่อนสนิทของลูกชาย เขาฉวยโอกาสฉกข้อมูลขอทุนทำรายการ แล้วแอบเอาไปเขียนโครงการขอรับทุนสนับสนุนคนเดียว ตอนที่ลูกรู้ว่าถูกเพื่อนหักหลังถึงกับน้ำตาคลอ แต่ไม่ปริปากบอกใคร ได้แต่ตัดใจให้อภัยและตัดสัมพันธ์ไป
อ่านโพสต์ของจิระนันท์: https://www.facebook.com/chiranan.pitpreecha/posts/10161652180321180
—————
จุดยืนของ The Standard
:
16- เมื่อเรื่องนี้เผยแพร่ออกไปก็มีอีกหลายคนออกมาแสดงตัวว่าเคยถูกกระทำคล้าย ๆ กัน เช่น เข้าหาแฟนคลับและลูกศิษย์ในลักษณะจีบ แตะเนื้อต้องตัว ใช้ให้ทำงานฟรี ให้เขียนบทความแล้วเอาไปลงเหมือนเขาเขียนเอง ถ้าไม่พอใจจะด่าทอรุนแรง พูดจาให้รู้สึกแย่กับตัวเอง
17- หลายคนเรียกร้องไปยัง The Standard ให้พิจารณาเรื่องนี้เพราะมีผู้เสียหายหลายคน ต่อมา The Standard ก็ออกแถลงการณ์ว่า ได้สอบถามข้อเท็จจริงเป็นการภายในแล้ว ได้ข้อสรุปว่าให้ยุติรายการ “ใด ๆ ในโลกล้วนฟิสิกส์” ทันที และยุติการร่วมงานกับบุคคลดังกล่าว รวมทั้งระงับเนื้อหาที่เขามีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด
18- “ฟาง รัฐโรจน์“ ซึ่งเป็นผู้ร่วมจัดรายการ “ใด ๆ ในโลกล้วนฟิสิกส์” ก็ประกาศจุดยืนว่า ขอยุติการทำรายการนี้ทันที เพราะสำหรับเธอแล้ว คุณค่าในการทำงานและคุณค่าในการดำเนินชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้
19- ในขณะเดียวกัน สื่อต่าง ๆ ที่เคยสัมภาษณ์หรือร่วมงานกับป๋องแป๋งก็พากันลบเนื้อหาหมด เช่น นิตยสาร National Geographic, พอดแคสต์ช่อง Farose
—————
อะไรคือ Gaslighting
:
20- ต่อมา The Standard ได้โพสต์บทความเรื่อง “Gaslighting ปั่นหัวด้อยค่าเพื่อบงการ ไทยยังไม่มีกฎหมายเอาผิด“
อ่านบทความของ The Standard: https://thestandard.co/gaslighting/
21- สำหรับคำว่า Gaslight มีที่มาจากบทละครที่เขียนขึ้นเมื่อปี 1938 ต่อมาในปี 1944 ฮอลลีวู้ดเอามาสร้างเป็นหนังเรื่อง Gaslight เล่าเรื่องสามีที่วางแผนปั่นหัวและควบคุมภรรยา ทำให้เธอคิดว่าตัวเองเสียสติ หนึ่งในวิธีที่เขาใช้ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรื่อง คือการแอบหรี่ไฟตะเกียงแก๊ส เมื่อภรรยาสงสัยว่าทำไมบ้านมืดลง สามีก็บอกว่าเธอคิดไปเอง บ้านยังสว่างเท่าเดิม
22- ต่อมาคำว่า Gaslight จึงถูกนำมาใช้อธิบายพฤติกรรมการปั่นหัว สร้างอำนาจขึ้นมาครอบงำ เพื่อทำให้อีกฝ่ายสับสนว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ จนเกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนผิด ไม่ดีพอ ไม่มีคุณค่า และต้องพึ่งพาเขา โดยพฤติกรรม Gaslight ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ความสัมพันธ์ที่เป็นคู่รักเท่านั้น แต่สามารถเกิดได้กับทุกความสัมพันธ์ รวมถึงสังคมการทำงาน
—————
แถลงการณ์จากป๋องแป๋ง
:
23- ล่าสุดป๋องแป๋งได้โพสต์ชี้แจงเรื่องนี้ โดยเขายอมรับว่าเป็นคนพูดจาไม่ดี เวลาด่าทอใครมักใช้คำพูดรุนแรง ทำให้คนฟังรู้สึกแย่ รู้สึกถูกลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และถูกทำลายตัวตน ซึ่งวันนี้สิ่งที่เขาทำได้สะท้อนกลับมาหาตัวเองแล้ว
24- ป๋องแป๋งขอโทษคนที่เขาเคยพูดจาทำร้ายจิตใจ ขอโทษเพื่อนร่วมงานทั้งในอดีตและปัจจุบัน ขอโทษน้องผู้หญิงคนนั้นและอีกหลายคนที่ถูกคำพูดของเขาทำร้าย และขอโทษสังคมที่เคยตั้งความหวังไว้กับเขา แต่ก็ถูกเขาทำลายความหวัง
25- อย่างไรก็ตาม ป๋องแป๋งยืนยันว่าเขาไม่เคยมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ ลวนลาม หรือข่มขืนกระทำชำเรา แต่ยอมรับว่าเคยใช้คำพูดไม่เหมาะสม หรือมีพฤติกรรมที่ชวนให้เข้าใจว่าเขากำลังจีบ แต่เขายืนยันว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก
26- ป๋องแป๋งบอกว่าถึงแม้ตอนนี้เขาต้องสูญเสียงานที่รัก สูญเสียคนใกล้ตัวหลายคนที่รับมันไม่ได้ และสูญเสียโอกาสหลายอย่างในชีวิต แต่เทียบไม่ได้กับสิ่งที่คนเหล่านั้นเคยสูญเสียเพราะคำพูดของเขา
27- ต่อไปนี้เป้าหมายในชีวิตของเขา คือการปรับปรุงคำพูดและแนวความคิดให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้มีใครถูกทำร้ายจิตใจด้วยคำพูดของเขาอีก
อ่านโพสต์ของป๋องแป๋ง: https://www.facebook.com/ardwarong/posts/913225086828460