วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 07, 2566

ครูรุ่นใหม่สะเทือนใจ ‘ครูชัยยศ’ ถูกปลดพ้นราชการ เพราะเซ็นรับงบข้าวกลางวันประถมฯ แต่ให้เด็กมัธยมฯ ที่ยากไร้กินด้วย ต้องมาขายโรตีเลี้ยงชีพ


ชัยวุฒิ สุวรรณโณ
6h ·

" ครูชัยยศได้ทุ่มเทชีวิตสอนหนังสือเด็กนักเรียนพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร เด็กนักเรียนในพื้นที่ อ.อมก๋อย มานาน 26 ปี เคยได้รับรางวัลครูดีเด่นมา 10 รางวัล รางวัลที่ภาคภูมิใจที่สุด คือ รางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อปี 2553 ได้เงินรางวัล 2 หมื่นบาท ก็นำมาซื้ออุปกรณ์เรียนรู้ศิลปะ และทำโครงการให้นักเรียน
ตั้งแต่ปี 2540 ได้พานักเรียนขายของและโรตีตามงานในอำเภออมก๋อย และหาทุนการศึกษาจากที่อื่น เพื่อช่วยเหลือลูกศิษย์ได้เรียนต่อ บางรายจบพยาบาล รับราชการเป็นครู และศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น รวม 42 คน
ที่สำคัญ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ยังเคยสัมภาษณ์ครูชัยยศ ในคอลัมน์ ‘ครูฮีโร่’ ด้วย "
ครูรุ่นใหม่สะเทือนใจ ‘ครูชัยยศ’ ถูกปลดพ้นราชการ เพราะเซ็นรับงบข้าวกลางวันประถมฯ แต่ให้เด็กมัธยมฯ ที่ยากไร้กินด้วย ต้องมาขายโรตีเลี้ยงชีพ
นายชัยยศ สุขต้อ ครูชำนาญการพิเศษ (คศ.3) โรงเรียนยางเปา อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด กรณีเป็นกรรมการตรวจรับพัสดุอาหารกลางวันนักเรียน ที่อดีตผู้บริหารสถานศึกษาฯ ระบุว่า เป็นการบริหารจัดการอาหารกลางวันเด็ก จากเด็กอนุบาลและประถมศึกษา ให้เด็กระดับมัธยมศึกษาได้กินด้วย เพราะส่วนใหญ่เป็นนักเรียนกินนอน ครอบครัวยากจน
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา มีรายงานว่ามีผู้ถูกดำเนินคดีจัดซื้ออาหารกลางวันเด็กนักเรียนโรงเรียนยางเปา มาตั้งแต่ปี 2562 จำนวน 4 คน ป.ป.ช. ชี้ความผิดและถูกปลดออกไปแล้ว มี ผอ. และครูอีก 2 คน ซึ่งมีครูชัยยศรวมอยู่ด้วย ส่วนครูอีกคนหนึ่งย้ายไปอยู่พื้นที่ สพป.4 อยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาความผิด
โรงเรียนยางเปาเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ประถมฯ และมัธยมฯ ตอนต้น ซึ่งปกติภาครัฐได้จัดงบประมาณค่าอาหารกลางวันให้เฉพาะเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลและประถมฯ เท่านั้น ทำให้เด็กชั้น ม.ต้น ไม่ได้รับงบประมาณก้อนดังกล่าว
อีกทั้งเด็กนักเรียน ม.ต้น กลุ่มนี้ ไม่ได้อยู่กับผู้ปกครอง และส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ไม่มีแม้กระทั่งเงินมาโรงเรียน ทางโรงเรียนจึงได้มีการบริหารจัดการงบประมาณ และจัดซื้อวัตถุดิบอาหารกลางวัน เพื่อให้เด็กนักเรียนกินนอนที่เรียนชั้น ม.ต้น ด้วยภาวะงบประมาณที่มีจำกัด จนมีคนร้องเรียนกับ ป.ป.ช. และมีการชี้มูลความผิดในที่สุด
ปัจจุบันครูชัยยศผันตัวไปขายโรตีที่บ้าน ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เคยทำสมัยรับราชการ โดยครูจะพาเด็ก ๆ ที่ยากจนไปช่วยกันขายโรตี เพื่อหาทุนการศึกษา
เฟซบุ๊กเพจ ‘วันนั้นเมื่อฉันสอน’ ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1.6 แสนคน ได้โพสต์เรื่องราวของครูชัยยศ พร้อมข้อความว่า “จบแล้วนะครับ กับกรณีครูที่ตรวจรับอาหารกลางวัน แม้ลูกศิษย์ที่เคยเรียนจะยื่นทัดทานอย่างไร แต่ผลสุดท้ายลงเอยโดยการถูกปลดออกจากราชการ”
โดยทางเพจยังระบุว่า คำว่าโรงเรียนขยายโอกาส คือ โรงเรียนที่เด็กไม่มีทางเลือก ยากจน และขาดโอกาส ทำให้คนเป็นครูอดไม่ได้ที่จะเห็นลูกศิษย์ทนหิว คนหนึ่งกิน อีกคนไม่ได้กิน ไม่มีนิยามใดบนโลกที่บอกว่า เมื่อขึ้น ม.1 ความยากจนจะหมดพ้นไป จึงต้องกระทำไปแบบนั้น
งบเท่าเดิม คนมากขึ้น ย่อมกระทบต่อปริมาณและคุณภาพ เป็นมูลเหตุให้ผู้ปกครองบางคนไม่พอใจและร้องเรียน แทนที่จะชื่นชมว่างบประมาณเท่านี้แต่สามารถเลี้ยงคนได้มากกว่าที่ให้ กลับหาทางเล่นงาน
ผลสุดท้าย ไม่ว่าจะทำคุณงามความดีมาขนาดไหน ได้รางวัลอะไร ส่งนักเรียนเรียนต่อถึงปริญญาตรี อุทิศเวลาทั้งชีวิตเพื่อสั่งสอนเด็ก แต่เส้นทางราชการก็ต้องสิ้นสุดลง ไม่มีใครช่วยเหลือได้ ไม่มีอะไรปกป้อง
ผู้ชายคนหนึ่งที่ใช้เงินตัวเองส่งเสียลูกศิษย์ บ่มเพาะและสั่งสอนจนเรียนจบได้ดีมีการมีงาน มั่นใจอย่างแน่แท้ว่าเขาไม่ได้มีผลประโยชน์จากอาหารกลางวันนี้ แต่ต้องมาจบเส้นทางราชการลง เพราะมีชื่อเป็นกรรมการตรวจรับทั้งที่เขาไม่เคยได้รับผลประโยชน์อันใดจากมัน
ด้วยคำตัดสินที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่มีสถานอื่นใดนอกจากออกจากราชการเท่านั้น ครูชัยยศยอมรับว่าไม่ได้มีความรู้มากมายในเรื่องพัสดุ เพราะเป็นครูผู้สอน ตนไม่ได้ประโยชน์ แต่กลับถูกลงทัณฑ์อย่างสาหัส ไม่มีรอมชอม และถูกตราหน้าว่าผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ฝากถึงผู้ที่ผ่านไปผ่านมาทางอมก๋อย ช่วยอุดหนุนโรตีของครูชัยยศ เพราะนั่นคืออาชีพเดียวที่ครูหลงเหลืออยู่
ที่มา : มติชน
.....