ม็อบรายวัน ๓ พิจิกา มาจนได้ ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ผู้ชุมนุมไม่มากเท่าไรแต่นักข่าวเยอะกว่าธรรมดา น่าจะเพราะประเด็น ‘พอร์นฮับ’ ไม่รู้เลยว่าที่ไหนในโลกมีแบบนี้บ้าง #savepornhub แต่ที่ไทยนี้เรื่องใหญ่พอดู ในเมื่อมันไปเกี่ยวกับคลิปวันเกิดคุณฟูฟูเข้าให้
คนในคลิปถูกอัปเปหิไปนานแล้ว จนเดี๋ยวนี้เลิกโกนหัวนุ่งห่มขาวแล้วมั้ง แต่คลิปเกิดดังในพอร์นฮับ ทำให้ รมว.ดิจิทัล ต้องรีบแถลงปฏิเสธทันใด ไม่จริ๊งไม่จริง สั่งปิดทั้งเว็บในไทย (เกือบสองร้อยยูอาร์แอล) ไม่ใช่เพราะคลิปเป่าเทียนวันเกิด นุ่งลิงตัวเดียว
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ บอกว่าไม่ได้ปิดเองแต่ศาลสั่งมา หลังจากที่พ่อแม่เด็กร้องเรียนว่าเป็นเว็บที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม (โป๊และเพศสัมพันธ์) จึงแจ้งไปยัง “เครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ตทุกรายรวม ๒๗ รายทั่วประเทศให้ปิดการมองเห็น”
แต่ไม่ใช่ประชากรทุกคนจะเห็นด้วยและยอมรับการบังคัลจิตใจเรื่องนี้โดยดุษฎี โดยเฉพาะในหมู่แอ็คติวิสต์ประชาธิปไตย (ยกเว้น ‘โบว์’ ณัฏฐา มหัทธนา ไว้คน) กลับเห็นว่าเรื่องอย่างนี้มีไว้ผ่อนคลายกำหนัดในที่ลับบนจอโทรศัพท์และแท้ปเล็ตส่วนตัว
“เห็นว่านัยของการปิดเว็บไซต์คือการจำกัดเสรีภาพของประชาชน ด้วยความเอาแต่ใจและไร้สาระ เพราะเยาวชนสมัยนี้เขาฉลาดอยู่แล้ว ยิ่งไปกดทับเขายิ่งทำให้อยากรู้อยากเห็น” ผู้ชุมนุมที่แจ้งวัฒนะคนหนึ่งเผยความเห็นกับว้อยซ์ทีวี
“ผู้ชุมนุมอีกคนไม่เห็นด้วยกับการบล็อค...วันนี้ที่ต้องออกมาเพราะเป็นเรื่องของเราเองที่ต้องคำนึงสิทธิเสรีภาพของเรา” เพราะรัฐบาลนี้ปิดเว็บไซ้ท์ที่ไม่ถูกใจจนเคยตัว “กลางเดือนตุลาคม ๖๓ ปิดเว็บไซต์ Change.org ที่ใช้ในการลงชื่อเพื่อการเปลี่ยนแปลง” ไปแล้ว
อย่างไรก็ดีมีการ ‘crashed’ แทรกซ้อนการชุมนุมโดยบุรุษคนหนึ่ง ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปกลางวง เพื่อชูรูปในหลวง ร.๙ สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีเหลืองมินเนี่ยน แต่ภายในเป็นเสื้อยืดสกรีนข้อความ ‘ไล่ตู่’ ตะโกนว่า “ประยุทธ์ออกไป” พร้อมแจ้งว่าตนปกป้องสถาบันฯ
ชายคนนี้ยังบอกด้วยว่า “เห็นด้วยกับข้อเรียกร้อง ๓ ข้อของคณะราษฎร ย้ำว่า ‘ปฏิรูป’ ได้แต่ ‘ล้มล้าง’ ไม่ได้” ก็ได้รับตำตอบจากแกนนำคนหนึ่งว่า “ไม่มีใครล้มล้างสถาบัน สิ่งที่เราล้มล้างมีอย่างเดียวคือการล้มล้างการรัฐประหาร”
ผู้ชุมนุมจะชี้แจงแสดงเจตนาของพวกตนอย่างไร ตำรวจไม่เคยฟัง วานนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติม อีก ๑๗ ราย จากการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงเมื่อ ๑๙-๒๐ กันยายน นอกเหนือจากข้อหาบ่อนทำลายตาม ม.๑๑๖ ต่อแกนนำจำนวน ๗ คนแล้ว
“อีกคดีหนึ่งคือ กรณีการฝังหมุดคณะราษฎร ๒๕๖๓ ในช่วงเช้าวันที่ ๒๐ ก.ย.” ซึ่งมีทั้ง กทม.และกรมศิลปากรเป็นผู้ร้อง” ทั้งที่ยังไม่ปรากฏหมายเรียกไปถึงตัว ผู้ร่วมกระทำการฝังหมุด ๑๒ คน เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาเองต่อการที่ตำรวจเหวี่ยงแหและคลุมถุงเช่นนี้ ปรากฏว่ามีผู้อยู่ในรายชื่อถูกแจ้งข้อหา ๒ คนโดนหมายเรียก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ไปร่วมการชุมนุม คือ นายวสันต์ เสดสิทธิ์ และนายสุวิชชา พิทังกร อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น และเป็นสมาชิกกลุ่มดาวดิน
อย่างนี้จะเรียกได้ไหมว่าเป็นการตั้งธงหาเรื่อง เอาคดีปักหลังพวกนักกิจกรรมรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยถ่ายเดียว แต่กับการชุมนุมของเสื้อเหลืองเพื่อต่อต้านฝ่ายประชาธิปไตยที่รามคำแหง มีการทำร้ายนักเรียน ผ่านมากว่า ๑๐ วันตำรวจจัดการดำเนินคดีเหมือนกัน แต่พบผู้ต้องหาเพียงคนเดียว
ก็สมควรแล้วละที่พวกเยาวชน “หลังจากการรับทราบข้อกล่าวหา กลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้บางส่วนยังได้ทำกิจกรรมเผาพริกเกลือที่หน้า สน.ชนะสงคราม พร้อมกับสวดมนต์ให้ประยุทธ์ไปดี ออกไปจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเสียที”
(https://tlhr2014.com/?p=22716&fbclid=IwAR14qftGLVv0I8oWPuP5VoYWJwbXDXV2tztFlc3xfiHmgsh_uzuzzLhn6ng, https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10164598836170551CO%2CP-R, https://www.sanook.com/news/8288246/ และ https://www.voicetv.co.th/read/fCudgERc2)