วันเสาร์, พฤศจิกายน 07, 2563

อีกมุมที่สะท้อนภาพฝันดัดจริตของชนชั้นกลางกรุงเทพ พวกเกษตรกรหน้าจอคอม ชื่นใจกับโฆษณาขายฝันไปวันๆ - บทสรุป เกษตรกรมือใหม่ " 4 เดือน กับกำไร 100 บาท บนพื้นที่สองไร่ กับการปลูกข้าวโพดแบบเกษตรวิถีไทย"



Yanapon Chaiwootti
October 25 at 6:01 AM ·
บทสรุป เกษตรกรมือใหม่
" 4 เดือน กับกำไร 100 บาท บนพื้นที่สองไร่ กับการปลูกข้าวโพดแบบเกษตรวิถีไทย"
ใครดูโฆษณา บ. ประกัน แล้วจะกลับมาบ้านทำการเกษตร คิดให้ดี ดี
ยาวนะครับ แต่อยากให้ตั้งใจอ่าน และ ถ้ามันจะมีประโยชน์ต่อเกษตรกรคนอื่น ก็ยินดีครับ
ผมเป็นหนึ่งผู้ได้รับผลกระทบจากโควิท-19 ต้องไร้งานแบบไม่ทันตั้งตัว จึงกลับมาอยู่บ้าน ด้วยความหวังว่า จะกลับมาเรียนรู้และทำงานในวิถีเกษตร เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว
นับจากเดือนเมษายน 2563 ผมพยายามหาสูตรที่ลงตัว กับโจทย์ " เกษตรไทย ต้องอยู่รอดให้ได้ " ด้วยการมองหากลยุทธทุกอย่าง ที่จะทำให้ตัวเองอยู่รอดด้วยวิถีเกษตรให้ได้ มองหาทุกหนทางในแนวทางด้านเกษตร
- เลี้ยงไส้เดือน
- ปลูก อะโวคาโด
- ปลุก พืขสมุนไพรทำเครื่องแกง
- ปลูกกล้วยไม้
- ขายมะม่วง ผลไม้ต่าง ๆ
- ปลูกถั่วงอก
- ปลูกผักบุ้ง
สุดท้าย บนพื้นที่ 2 ไร่ครึ่งริมบ้าน ผมจึง " ทดลอง " วิถีเกษตรไทย แบบ เกษตรอุตสาหกรรม ด้วยอยากรู้ว่า ทำไม เกษตรกรไทย ยังไม่อาจลืมตาอ้าปากได้ โดยพืชที่ผมเลือกปลูกคือ " ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ " ด้วยคุณสมบัติ ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และ ได้ราคา
ผมปลูกข้าวโพด บนพื้นที่ 2 ไร่ ครึ่ง ในวันที่ 22 มิถุยายน โดยไม่เกี่ยงทุนของสายพันธุ์ และทำทุกอย่างตามที่ วิถีเกษตร เขาบอกให้ทำ และ ที่ องค์การด้านการเกษตรทั้งหลายเขาส่งเสริม และวันนี้ คือวันที่ผมกำลังจะได้รับผลตอบแทน แห่งความสู้อดทน เฝ้ารอ ผลผลิตที่ สู้อุตส่าห์ ลงทุน ลงแรง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่จะนำมาดูแลครอบครัวต่อไป
22 มิถุนายน 2563 ผมลงทุนด้วยเงินจำนวน 10,500 บาท
25 ตุลาคม 2563 ผมขายข้าวโพดเสร็จแล้ว ได้เงินจำนวน 10600 บาท
สรุป ตลอดระยะเวลา 4 เดือน ผืนดินสองไร่ของผม ทำกำไรได้เพียง 100 บาท ในระยะเวลา 4 เดือน
คิดแบบ ควาย ๆ ร้าย ๆ เจ็บ ๆ
ผมเอาเงินจำนวน 100 บาท หารด้วย เวลาทำงาน 4 เดือน
มันทำรายได้ให้ผมเพียง 12.50 บาท ต่อไร่ ต่อหนึ่งเดือน
และเมื่อตีเป็นรายได้รายวัน ผมทำรายได่้ ได้เพียงแค่ 0.41 บาท เท่านั้น
ขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำเพื่อความอยู่รอด คือ เราต้องมีรายได้ประมาณ 200 บาทต่อวัน
นั่นหมายความว่า ผมต้องทำไงก็ได้ ที่จะต้องทำไร่ ทำสวน เพื่อให้ได้เงินอีก 199.56 บาท เพื่อจะมีรายได้ทางการเกษตร เทียบเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำต่อวัน
และนี่คือสถานการณ์จริง เล่นจริง เจ็บจริง ของพี่น้องเกษตรกรไทย มากกว่า ล้านคน ที่กำลังต้องเช็ดน้ำตาตัวเอง กับ ราคาของน้ำพักน้ำแรงที่ตัวเอง สู้อุตส่าห์ ทุ่มทุน ทุ่มแรงลงไป หวังว่าจะมีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัวของตัวเอง
ระหว่างชีวิตแนว " เกษตรทดลอง " ที่เล่นจริง เจ็บจริง ผมได้เข้าไปร่วมงาน คัดเลือกตัว เกษตรกรยุคใหม่ประจำอำเภอ
และเชื่อไหมครับ คำแนะนำ ของบรรดา เหล่าผู้มีความรู้ด้านการเกษตรเหล่านั้น แนะนำให้ปลูกข้าวกลางดินทราย ปลูกข้าวโพดสร้างรายได้ โดยใช้ความฝันที่เรียกว่า เกษตรทฤษฎีใหม่ ซึ่งผมทดลองด้วยตัวเองแล้ว มันทำได้ครับ
" ถ้าท่านมีเงินเดือนเข้าบัญชีในฐานะเกษตรจังหวัดเป็นประจำทุกเดือน "
คำถามที่ผมอยากถามในเวลานี้คือ ผู้รับผิดชอบด้านการพัฒนาด้านการเกษตรของไทย คือ
" คุณปล่อยให้เกษตรกรไทย ต้องเผชิญภาวะวิกฤตแบบนี้ได้ยังไง คุณยังคงส่งเสริมรูปแบบเกษตรในรูปเดิม ๆ ที่คุณมาถ่ายรูปแล้วก็จากไป ว่าคุณสร้างผลงานให้เกษตรกรมีงานทำแล้ว ทั้งที่มันไม่สร้างรายได้เพียงแค่ 0.41 บาท ต่อไร ต่อวัน คุณว่าเงินรายได้เพียงเท่านี้ มันทำให้ ชีวิตของเกษตรกรดีขึ้นบ้างไหม ?????
เลิกส่งเสริม วิถีเกษตรกร ตามเอกสารสวยหรูซักที ถ้าคุณยังไม่เคย " เหนื่อยจริง เจ็บจริง " แบบนี้
พี่น้องเกษตรกร อย่าติดกับดักร้าย ๆ แบบนี้อีก
ย้ำครับ อะไรที่ "ง่าย ไว ดูแลไม่มาก " มัน " ไม่เคยได้ราคา " เหมือนคำโฆษณาหลอกลวง
ผมเองเตรียมทางไว้ให้ตัวเองแล้ว และหลังจากนี้ อะไรก็ตามที่เป็นการส่งเสริมจากหน่วยงานราชการ ผมเลือกที่จะหันหลังให้ เพราะผมรู้แล้วว่า ความยั่งยืนในภาคการเกษตรคืออะไร
อีก 6 เดือนหลังจากนี้ ผมมีคำตอบให้คุณ
Update 1
ปีนี้ที่ลำพูน รับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกร ในราคากิโลละ 5.00-5.60 ครับ ที่ผมขาย นี่ได้ราคาดีกว่าใครแล้ว
Update 2
ขอบพระคุณสำหรับทุกคำแนะนำครับ มีทั้งคำด่า คำชม คำตำหนิ คำถากถาง และ กำลังใจจากเพื่อน ๆ มากมาย ใครก็ตามที่รอดูต้นทุน ผมคงไม่สามารถชี้แจงได้ทั้งหมด แต่จะนั่งเคาะมาลงใน Update ตัวต่อไปให้ครับ ขอเร่งทำงานของตัวเองก่อน
Update 3
สำหรับใครก็ตาม บอกว่า ให้ปลูก แบบนั้น แบบนี้ ผมขออนุญาตใส่ INPUT เข้าไปในโจทย์ จากสิ่งที่ผมเห็นมาครับ
- โลกทุกวันนี้ ขับเคลื่อนด้วยภาคธุรกิจ หมายถึง ทุกวันนี้ ต้องใช้เงินใจการจับจ่าย การที่แนะนำว่า ปลูกแบบนี้ซิ ได้เงินแน่นอน คำถามคือ ไอ้ก่อนจะได้เงินน่ะ จะให้เกษตรกรอยู่กันยังไง กี่ปากท้องที่รออยู่ที่บ้าน แถมหนี้ธนาคารอีก ลองเคาะโมเดลที่มันเป็นไปได้ออกมาให้ทีครับ คงไม่สามารถให้เกษตรกรอิ่มทิพย์ ตลอด 35-40 ก่อนที่ผลผลิตจะออกนะครับ
- และคงไม่มีเกษตรกรคนไหน ที่คิดจะปลูกอะไร ได้โม่คิดถึงเรื่องของการตลาด ชาวบ้านระวังจะตาย ปลูกแล้วจะขายได้ไหม ขายที่ไหน แล้วใครจะซื้อ ถ้าคิดจะส่งเสริมชาวบ้านให่้มีรายได้และมีงานทำอย่างยั่งยืน องค์ประกอบทุกอย่างมันต้องลงตัว
- ผมปลูกผักกินเองครับ ปลูกผักขายด้วย แต่สิ่งที่เป็นความจริงคือ ผักพื้นบ้านขั้นพื้นฐาน ชาวบ้านแถวนี้ปลูกกินกันเองหมด ตลาดรับซื้อที่ใกล้ที่สุดของตำบลเราคือ 100 กิโล การที่จะแบกผักจำนวนไม่มากไปขาย ค่าขนส่ง และการรับซื้อ คือ คำถามที่ต้องตอบครับ
นี่คือ INPUT ที่ต้องโยนเข้าไปในระบบ มันคือตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจมากมาย กว่าผมจะหาพืชพันธุ์และระบบที่ลงตัว ต้องใช้เวลาร่วม 5 เดือน ( ก็อีตอนผมว่างจากปลูกข้าวโพดนั่นแหละ )
- Update 4
ขอบพระคุณหลายท่านที่ add มาเป็นเพื่อยนครับ แต่ตอนนี้ ผมไม่สามารถกดรับเพื่อนเพ่ิมได้แล้ว จึงต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ ไม่ได้หยิ่งอะไรนะครับ

https://www.facebook.com/truelythailand/posts/3256941657738012
...
ศาสดา
1h ·
อีกมุมที่สะท้อนภาพฝันดัดจริตของชนชั้นกลางกรุงเทพ
พวกเกษตรกรหน้าจอคอม ชื่นใจกับโฆษณาขายฝันไปวันๆ
แล้วมโนว่าชาวบ้านจงสมถะ อย่าทะเยอทะยาน ทำน้อยก็มั่งมีได้