เงียบกริบอย่างมีพิรุธทั้ง ‘เชื้อสาย’ ฮุนต้าไทยและ ‘เชื้อไม่ทิ้งแถว’
ฮุนเซ็นเขมร กรณีอุ้มหายกลางกรุงพนมเปญ ‘ต้า’
วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมสิทธิมนุษยชนลี้ภัย ทั้งที่สื่อทั่วโลกออกอาการขัดข้องกันแล้ว
ว่าปล่อยละเมิดคุณธรรมสากลได้อย่างไร
เงียบกว่า กสม. กรรมการสิทธิมนุษยชนไทย
ก็ไม่พ้น UNHCRthailand ที่กำลังเจอ #boycott อยู่ขณะนี้ เพราะดันมี ‘ปู’ ไปรยา ลันด์เบิร์ก เป็น #ทูตผู้ลี้ภัย
ที่บอกว่าเรื่องอย่างนี้ “มันเป็นสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนมาก...
และโบ้ยให้ไปติดต่อกับ #UNHCR แทน” โดยตรง (ขอบคุณคำแปลจาก Pipob Udomittipong)
คงนึกว่าหมดหน้าที่แล้วมัง ฤๅว่าเรื่องนี้ใกล้ตัวเกินไป ไม่เหมือนที่ไปเยี่ยมผู้ลี้ภัยซีเรียในจอร์แดน
ตอนที่เธอเป็น ‘พรีเซ็นเตอร์’ ใหม่ๆ
คราวนั้น “ปูร้องไห้ไปกับพวกเขา” และ “แทบทุกคนไม่อยากออกจาก
#ซีเรีย แต่มีความจำเป็น
เพราะสถานการณ์สู้รบบีบบังคับ...ครอบครัวอยู่อย่างไม่ปลอดภัยแล้วเลยต้องออกมา”
จริงอย่างที่พิภพว่า “เผด็จการมันไม่ปลอดภัยสำหรับ #ผู้ลี้ภัย
ร้อยกว่าคนจาก #ไทย พวกเขาจึงต้องหนีออกไป #ลาว #กัมพูชา ฯลฯ
ถูกอุ้มหายฆ่าตายไปเกือบสิบคนแล้ว มันไม่ได้เป็นสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนมากเกินกว่าสงครามในซีเรียหรอกครับ”
นัยว่าปูเห็นเป็นเรื่องการเมืองมั้ง
ด้วยความพยายาม “จะเป็นคนไทยที่ทำให้ทุกคนภูมิใจ...ตามพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่
๙” เธอลงลักษณ์อักษรไว้หลังจากที่ไป “เยี่ยมคารวะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี ในฐานะทูตสันถวไมตรีของ UNHCR”
เสียดายถ้าปูไม่ได้เห็นที่ Piyabutr Saengkanokkul ทวี้ตไว้ “ไม่การเมือง (apolitical) ก็คือการเมือง
(political) แบบหนึ่ง คือการเมืองแห่งการกีดกัน ตั้งข้อรังเกียจการเมือง
และเลือกรับ เลือกทำเฉพาะการเมืองที่ตนต้องการ”
ไม่งั้นจะไม่งงงันกับความ “highly
sensitive and complicated” ของสถานการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชน ชนิดหยามหน้ารัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้องเช่นไทยและกัมพูชาอย่างนี้
จนทำให้องค์กรที่เธอ represented เป็นตัวแทน โดนอ่วมไปด้วย
ทว่าความนิ่งของ #UNHCR อาจจะเพราะหลบหลีกทัวร์ลงก็ได้
ในเมื่อมีการเปิดแผล “UNHCR ประเทศไทย มีปรูไปรยางี้
มีวอวชิระเมธีงี้” @kampha (ka) "สลิ่มไปถึงโลกหน้า
เสื่อมไปถึงปรโลก” นั่น แม้แต่ที่เป็นทางการเคยประกาศตัวตนไว้แล้ว
October 18, 2016 สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแถลงไว้
“ได้ทราบเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็น ‘ที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง’
จากบุคคลที่อ้างตนว่าลี้ภัย ที่ประเทศฝรั่งเศส...ขอประณามทุกความคิดเห็นของบุคคลดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับการสวรรคต...”
อันคำ ‘สลิ่ม’ ที่คำผกาเอ่ยไว้ มันเป็นอะไรแบบไปรยาละหรือ ชักสงสัย
นั่นคือจะออกแนวเดินตาม ‘Farang’ ไม่รู้ดำขาวต่างกันไหม
มันเบลอๆ ปนกันไปเสียละ ดูจากตัวอย่างบุคคลแนวนั้นที่ไป ‘จวก’ และ ‘อัด’
อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนไทย
“ชาวอเมริกาถูกตำรวจทหารรัฐบาลทำร้ายเสือกไม่สน แต่นี่เหตุเกิดในกัมพูชาเสือกมาแหกปาก” ปราโมทย์
สัจจาวัฒนา ซัดไม่ยั้งต่อการที่ อังคณา นีละไพจิตร “แนะรัฐบาลเร่งคลี่คลายคดี ‘วันเฉลิม’ ถูกอุ้ม
ก่อนตกเป็นผู้ต้องสงสัยมีส่วนรู้เห็น”
เจ้าตัวพ้อ “#ทำงานปกป้องสิทธิมนุษยชนต้องเข้มแข็งปานไหน การให้ความเห็นว่า #เป็นหน้าที่ของรัฐทั้งไทยและกัมพูชา ที่ต้องร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง...พูดแค่นี้
ออกมาถล่มกันทั้งเหลืองทั้งแดงเลยฮะ” พวกแดงน่าจะนึกว่าเธอยังเป็นกรรมการอยู่
ด้านเหลืองนั้นก่นว่า “Get
money from Buk Moew” (Vilaivan Nina Ogilby) บ้าง
“ป้านี่แกมีทีมเผาบ้านเผาเมืองตัวเองหนุนรึไง” (Piyawan Tunak) และที่สุดของซ่าหริ่มต้อง Thawatchai Suphadaeng ว่า
“อีห่าราก
ผัวตายในยุคไอ้แม้วยังไม่รู้ใครอุ้มฆ่า
ทียังนี้ชอบเสือก ตายในเขมรประเทศไทยเกี่ยวตรงไหนวะ” ไม่รู้เหรอกรณีสามีเธอนั้น ทุกหลักฐานพุ่งไปที่ทหารแต่ทำอะไรไม่ได้
และเรื่องตายในเขมรเกี่ยวแน่เพราะคนตายเป็นไทย
ขาดไม่ได้ก็ไปถึงนักร้องนักแสดง มักชอบเป็นเส้นฝอยหลายสีใส่กระทิ
คนหนึ่งที่โดนเหมือนกันเพราะลักลั่น เดี๋ยวเทอดรัชกาลที่ ๙ เดี๋ยวทูนจ๊อร์จ ฟลอยด์
แต่แขวะพวกที่ติดแฮ้สแท็ก #saveวันเฉลิม
ก็เลยได้โอดว่าโดนลูกหลง ทั้งที่แค่ #บ่นเพื่อน เรื่องเต้ พนมเปญ
แต่คราวนี้ ‘แก้ม’
ได้ดังเพราะมีคนเพิ่งรู้จักนักร้องรายนี้เยอะ
หลายคนบนทวี้ตภพถามไถ่นี่ใครวะ ไม่รู้กันมาก่อนว่าเธอเป็นนักร้องเสียงดีพอใช้
ลีลาใช้ได้ ร้องลูกทุ่งดี เร็วๆ นี้ได้ร้องเพลงฝรั่ง ‘Into the unknown’ งานตุ๊กตาทองออสการ์ที่ฮอลลีหวูด
วิชญาณี
เปียกลิ่น แค่เป็นหนึ่งในพวกนักร้องนานาชาตินับสิบที่ได้รับเชิญไปผสานเสียง เพลงที่ได้รับจัดเข้าชิงรางวัลประเภท
‘เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี
๒๐๒๐’ จากหนัง ‘Frozen 2’ เนื่องจากเธอเป็นเสียงพากย์ภาษาไทยในบท
‘เอลซ่า’
บางทีการทำตัว
‘สลิ่ม’ ยุคนี้อาจเป็นพีอาร์ได้ผลสำหรับพวกที่คลำหาทางของตัวเองยังไม่เจอก็เป็นได้
พวกนักร้องนักแสดง และนักการเมือง (อย่าง ‘เอ๋’ ปารีณา) ถึงได้ชอบทำกันนัก เหมือนว่ายิ่งด่ายิ่งซาบซ่า