...
...
...
ส่งคนบุกข่มขู่นักศึกษาถึงบ้าน ‘ให้เลิกยุ่งการเมือง’ หลังจัดแฟลชม็อบไล่ลุงตู่
กลางดึก เมื่อสองคืนก่อน แกนนำนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ถูกบุกบ้านกลางดึก พร้อมแจ้งว่า “ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ให้เลิกยุ่งเรื่องการเมืองซะ” หลังเป็นสมาชิกสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย และ เคยเข้าร่วมแฟลชม็อบต้านรัฐบาลและขับไล่นายกรัฐมนตรี
เหตุการอุกอาจดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในชุมชนละแวกบ้านของนักศึกษาดังกล่าว เพื่อค้นหาตัวพร้อมข่มขู่ให้เลิกยุ่งการเมืองซะ ขณะที่นักศึกษาเปิดเผยว่า “ถ้าหากเราไม่สู้ต่อก็กลายเป็นว่าเขาก็จะปกครองเราได้ง่ายขึ้นโดยใช้ความกลัวเข้ามาครอบงำเรา ยืนยันว่าจะขอต่อสู้เรื่องนี้ต่อไปแม้จะถูกคุกคามก็ตาม เพราะตนรู้สึกเป็นห่วงอนาคตของตัวเอง ของน้องสาว และอนาคตถ้าผมมีลูกก็คงเป็นห่วงอนาคตของลูกหลานที่จะต้องทุกข์ทนจากการกระทำของรัฐบาลในยุคนี้”
ล่าสุดนักศึกษารวมตัวผูกผ้าขาว ต่อต้านการอุ้มหายประชาชนและผู้หมิ่นสถาบัน แต่กลับพบว่าทุกที่
ที่นักศึกษาไปทำกิจกรรม จะมีตำรวจตามมาจับและขัดขวางการแสดงออกโดยชอบธรรมของประชาชนเสมอ สะท้อนการคุกคามจากรัฐบาลที่ไม่เคยลดลาวาศอก สะท้อนไปถึง mindset ของผู้ปกครองประเทศ ที่ไม่เปิดพื้นที่ให้คนเห็นต่าง ไม่เคยยอมรับว่าในห้องเดียวกันมันมีช้างอยู่สองตัว หรืออาจเพียงแค่กลัวว่า ช้างอีกตัวจะใหญ่กว่าช้างของตัวเอง
>>> 6 ปี คุกคามประชาชน
6 ปี ภายใต้ ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีประชาชนอย่างน้อย 592 คน ถูกติดตามคุกคามถึงบ้านหรือถูกข่มขู่คุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐ โดยบางรายมีเจ้าหน้าที่ไปพบและติดตามรวมหลายสิบครั้งตลอด 5 ปีที่ คสช. อยู่ในอำนาจ ขณะที่ในช่วง หลัง คสช. ยุติบทบาท คือตั้งแต่ 17 กรกฎาคม 2562 – 30 เมษายน 2563 มีประชาชนอย่างน้อย 191 ราย ถูกติดตามคุกคามถึงบ้าน หรือถูกเจ้าหน้าที่พยายามติดตามข่มขู่ผ่านช่องทางต่างๆ บางส่วนเป็นผู้เคยทำกิจกรรมเคลื่อนไหวและถูกติดตามมาตั้งแต่ยุค คสช. แต่บางส่วนไม่เคยถูกติดตามมาก่อนหน้านี้ เช่น นักศึกษาผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นครั้งแรก โดยที่แนวโน้มของหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ซึ่งเข้าติดตามตัวประชาชน ยังเปลี่ยนจากเจ้าหน้าที่ทหารมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำท้องที่มากขึ้น แต่ยังมีรายงานกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารไปพบ “บุคคลที่อยู่ในรายชื่อเฝ้าระวัง” ถึงที่บ้านเพื่อห้ามปรามไม่ให้เคลื่อนไหวอยู่เช่นกัน
ในช่วงกิจกรรมวิ่งไล่ลุง มีรายงานเจ้าหน้าที่รัฐไปพบหรือติดตามตัวประชาชนในจังหวัดต่างๆ อย่างน้อย 62 ราย ขณะที่ในช่วงแฟลชม็อบ มีรายงานกรณีนักเรียน-นิสิตนักศึกษาถูกเจ้าหน้าที่ติดตามข่มขู่คุกคาม อย่างน้อย 22 ราย นอกจากสิทธิเสรีภาพที่ถูกคุกคาม ประชาชนบางรายผู้ถูกเจ้าหน้าที่ติดตาม ยังได้รับผลกระทบในชีวิตอย่างหนักอีกด้วย เช่น กรณีอดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ จังหวัดลำปาง ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่เข้าติดตามถึงบ้านเพื่อสอบสวนอีกด้วย
ที่มา : https://prachatai.com/journal/2020/06/88091
