ลูกเรือประมง-หลุมศพคนไทย
เกลื่อนเกาะอินโดนีเซีย
---------
ยังมีลูกเรือประมงไทยถูก"ปล่อยเกาะ"
อยู่ในอินโดนีเซียอีกหลายคน
พวกเขาคือ "เหยื่อ"ของการค้าทาส-ค้ามนุษย์
ถูกหลอกขึ้นไปทำงานบนเรือประมง
แม้แต่เด็กในสถานสงเคราะห์
ทีมมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน
หรือแอลพีเอ็น ลงพื้นที่เกาะตวล
พบความโหดร้ายมากมายที่มนุษย์ทำต่อมนุษย์
เสียชีวิตก็โยนศพกันลงบ่อน้ำ
บางคนหลบหนีซ่อนตัวอยู่ในป่า
บางคนถูกกดขี่จนเสียสติ
ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้
(https://transbordernews.in.th/home/?p=23956 )
เมื่อปีที่แล้วผมมีโอกาสตามทีมแอลพีเอ็น
ได้เห็นหลุมฝังศพคนไทยมากมายบนเกาะอัมบล
ได้คุยกับคนไทยที่ยังตกค้างอยู่ที่นั่น
พวกเขาไม่มีเอกสารหรือบัตรประชาชนคนไทย
แต่เขาคือคนไทยที่มีหลักแหล่งในไทย
หากทางการสืบเสาะก็จะพบความจริง
ผ่านไป 1 ปีสถานการณ์ก็ยังเหมือนเดิม
แตกต่างหน่อยตรงที่มีคนไทยที่รอความหวัง
ว่าจะได้กลับแผ่นดินแม่
แต่ยังตกค้างอยู่บนเกาะห่างไกลในแดนอิเหนา
เสียชีวิตเพิ่มอย่างเดียวดาย
กลายเป็นศพไร้ญาติในต่างแดน
เพิ่มจำนวนหลุมฝังศพอันไร้เสียงสวดมนต์
-----------
ขอบคุณภาพจากทีมงานแอลพีเอ็นและ Holl Ptong
HUMANRIGHTS: LPN เปิดปฏิบัติการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมลูกเรือประมงที่ติดอยู่ที่ เกาะตวล อินโดนีเซีย พบคนไทย เมียนมา ลาว ตกค้าง บางรายรอความหวังกลับบ้าน มากว่า 20 ปี เสียชีวิตไปแล้ว
มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน หรือ LPN เปิดปฏิบัติการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมลูกเรือประมงที่ติดอยู่ที่ เกาะตวล ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่าง วันที่ 28 ต.ค.-3 พ.ย.62
น.ส.ปฏิมา ตั้งปรัชญากูล ผู้จัดการมูลนิธิ LPN เปิดเผยว่า การมาครั้งนี้ LPN พบว่า ลูกเรือประมงในเกาะตวล ถูกพามาตั้งแต่อายุไม่ถึง 15 ปี พวกเขายังไม่ทำบัตรประชาชน ทำให้ขาดโอกาสในการช่วยเหลือให้เดินทางกลับบ้าน ซึ่งมีลูกเรือคนไทย ถูกพามาจากหมอชิต จำนวน 8 คนที่ ทาง ตม.ตวล ได้ให้ข้อมูลกับLPN และพบว่ามีลูกเรือชาวเมียนมา รอความช่วยเหลือกลับบ้านอีก 44 คน
“คนเหล่านี้เป็นเหยื่อจากการทำประมงที่ขาดความรับผิดชอบ เราควรต้องรีบเยียวยาพวกเขาไม่ใช่หรือ อย่างน้อยควรรับกลับบ้าน และพิสูจน์ให้รู้ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ปล่อยให้เขาทุกข์ ทรมานถูกปล่อยเกาะอยู่อย่างนี้ บางคนอยากกลับเมืองไทย ถึงขนาดใช้ไม้ไผ่เตรียมต่อแพล่องกลับ แต่เขาเสียชีวิตซะก่อน บางคนต้องเสียสติและหลบๆซ่อนๆอยู่ในป่า บางคนอยู่กับชาวอินโดนีเซียตามมีตามเกิด บางคนแต่งงานกับชาวอินโดนีเซียจนได้บัตรประชาชน” น.ส.ปฎิมา กล่าว
ผู้ประสานงานมูลนิธิแอลพีเอ็น กล่าวว่า เกาะตวลเป็นพื้นที่หนึ่งที่ลูกเรือประมงไทยมาเสียชีวิตจำนวนมาก โดยมีบ่อน้ำแห่งหนึ่งเป็นเหมือนสุสาน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าบ่อร้อยศพ เพราะเมื่อ 10 ปีก่อนสมัยที่มีลูกเรือถูกหลอกมาทำประมงจำนวนมาก เมื่อลูกเรือประมงไทยเสียชีวิตก็มักน้ำศพมาทิ้งที่นี่
น.ส.ปฎิมากล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับร่วมมือจากสถานทูตและสถานกงสุลไทยในจาการ์ตา และได้รับการอำนวยความสะดวกจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม. )ของเกาะอัมบล และเกาะตวล โดยตม.เกาะตวลได้ให้ข้อมูลในการติดตามแรงงานประมงทั้งของไทยและพม่าอีก 44 คน ซึ่งสภาพเลวร้ายคือการลักพาตัวเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีมาทำงานบนเรือในอินโดนีเซีย และเด็กบางคนได้เห็นการถูกฆ่าในเรือจึงหนีเอาชีวิตรอดมาอยู่ที่เกาะตวล ซึ่งทั้งหมดได้ข้อมูลจากลูกเรือประมงไทยที่ยังตกค้างอยู่ที่เกาะตวล
“เมื่อเราเข้าไปสัมภาษณ์ลูกเรือไทยที่ตกค้างบางคน เขาบอกว่าความทรงจำค่อนข้างเลือนรางเพราะเดินทางมาตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 15 ปี เวลานี้ผ่านมาแล้วนับสิบปี ช่วงแรกของการหนีขึ้นเกาะต้องขุดหาหัวมันกิน เพราะต้องแอบซ่อนอยู่ในป่า
นายสมัคร ทัพธานี ผู้ประสานงานมูลนิธิแอลพีเอ็น กล่าวว่าได้รับข้อมูลว่า 1 ในเหยื่อที่เป็นลูกเรือประมงคือนายวิเชียร ทรัพย์ประเสริฐ ซึ่งเป็นอดีตเด็กในสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น โดยสมัยเด็กนายวิเชียรถูกพ่อแม่ทิ้งและถูกรับตัวเข้าไปอยู่ในสถานสงเคราะห์ในจังหวัดนนทบุรี และถูกส่งต่อไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์ในขอนแก่น ต่อมาเมื่ออายุ 18 ปีนายวิเชียรขอออกมาทำงานข้างนอก และถูกหลอกให้ขึ้นเรือประมงไปทำงานในน่านน้ำอินโดนีเซีย
“นายวิเชียรถูกบังคับให้ทำงานอยู่บนเรือหลายปี จนหนีออกมาได้และชาวบ้านช่วยเหลือ ตอนนี้อยู่ที่กรุงจาการ์ต้า ก่อนหน้าที่พวกเราจะลงพื้นที่ ผมได้ประสานไปยังสถานสงเคราะห์ซึ่งท่านผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ได้ยืนยันว่านายวิเชียรเคยอยู่ที่สถานสงเคราะห์ในขอนแก่นจริง” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวว่า ทั้งนี้ทีม LPN ยังได้เดินทางไปยังหลุมฝังศพชายไทยคนหนึ่งชื่อนายสมยน อายุราว 40 ปี ซึ่งเป็นชาวนครราชสีมา โดยนายสมยน ถูกหลอกให้ทำงานบนเรือประมงตั้งแต่อายุ 15 ปี และถูกบังคับให้ทำงานด้วยการใช้ความรุนแรง จนหนีขึ้นฝั่งและขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในหมู่บ้าน Ohoitel แม้ไม่มีใครรู้จักเขามาก่อน แต่นายสายน ได้ช่วยชาวบ้านทำสวนเพื่อแลกกับอาหาร
“นายสมยน เป็นคนไม่มีพิษมีภัย ขยันขันแข็ง เป็นคนซื่อ แต่ที่น่าเป็นห่วง คืออาการหวาดระแวงการถูกตามล่าตลอดเวลา เมื่อตอนที่ทางการไทยส่งเรือไปรับคนงานไทย นายสมยนไม่สามารถขึ้นเรือได้เพราะไม่มีหลักฐานแสดงตัวตน เนื่องจากเขาออกจากประเทศไทยมานาน แม้จะได้พบกับทีมเฉพาะกิจของทางการไทยแล้ว เขารอความหวังที่จะได้กลับบ้าน แต่ท้ายสุดก็มาเสียชีวิตอย่างอ้างว้าง”นายสมัคร กล่าว
LPN พบด้วยว่า นายสมยน มีประวัติเคยเรียนที่ ร.ร.บ้านหนองปรือ นครราชสีมา ถูนำตัวลงเรือประมงตั้งแต่อายุไม่ถึง 15 ปี เขาหนีอยู่ในป่า 8 ปี และอยู่กับชาวอินโด 7 ปี จนเสียชีวิต เมื่อปี 2017
เขาพยายามหาทางกลับบ้าน ด้วยการตัดไม่ไผ่มาต่อเป็นแพเพื่อพายกลับประเทศไทย
ก่อนนายสมยนจะเสียชีวิต เขาเดินไม่ได้ ต้องคลานอยู่ในส่วนผัก ได้รับการดูแลจากลูกเรือประมงชาวลาว จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต นายสมยน อยากกลับบ้าน แต่เป็นเป็นเรื่องยาก จึงได้แต่บอกเพื่อนว่า
“ฉันคงทิ้งชีวิตไว้ที่นี่”
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #ลูกเรือประมง #อินโดนีเซีย #ชะตากรรมลูกเรือประมง