ประชุมอาเซียนคราวนี้ที่เมืองทองธานี รัฐบาล
คสช.๒ ฉวยโอกาสทำพีอาร์เต็มที่ กาล่าดินเนอร์โชว์ซิมโฟนี่ ‘รส’ อาหารไทยงี้ ไหนจะ ‘ยิ้มสยาม’ ที่ ‘ไอทู้บ’ ไล่แจกอีก แล้วยังมีคล้องแขนจับมือแน่นกับ
รมว.พาณิชย์สหรัฐ
ยังดีสถานที่จัดการประชุมอยู่เมืองนนท์
ถ้าเป็นแถวรัชดา ลาดพร้าวละก็เสร็จ เพราะ “#ฝนตก
แป๊บเดียว #น้ำท่วม
แล้ว จากเมื่อก่อนต้องตกเป็นวันๆ ถึงจะท่วม (ในปริมาณน้ำฝนพอๆกัน)”
เจ้าของบัญชี @hengsuaycountry บ่น “แค่นี้ก็พอคาดการณ์ได้แล้วว่างานวิจัยที่ว่ากรุงเทพฯจะกลายเป็นเมืองจมน้ำในอีก
๓๐ ปีมันไม่ได้ไกลเกินความเป็นจริงเลย”
ถึงอย่างนั้นเห็นท่าว่าพีอาร์จะได้ผล “สำหรับประเด็นการพักสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร”
๕๗๓ รายการ โปรเฟสเซ่อโฆษก ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เก็บมาเล่าว่าประยุทธ์ขอให้สหรัฐ
“พิจารณาทบทวนอีกครั้ง” ที่นายวิลเบอร์ รอส ตอบว่า
“กรณีนี้ถือว่าเป็นมูลค่าเพียงเล็กน้อย...ยังมีระยะเวลาที่ไทยจะชี้แจง”
ใน ๖ เดือนข้างหน้า “โดยอาจจะมีการอุทธรณ์สินค้าบางรายการได้” จนสำนักข่าวบางแห่งเอาไปพาดหัวเสีย
‘เว่อ’ ว่าสหรัฐ “กลับหลัง”
หันนั่นเลย
แต่แท้จริง รมว.พาณิชย์สหรัฐแค่แย้ปว่า ไทยสนใจจะซื้อเทคโนโลยี่ทางด้านพลังงาน
และระบบรักษาความปลอดภัยในสนามบินไหมล่ะ แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ต้องดูคนไทยรอคิวซื้อ
iPhone 11 เสียก่อน ทั้งที่ ‘I-Ad’ ก่อกระแส ‘แบน’ สินค้าอเมริกัน
ชนิดที่ ‘@ToxicUnagidon’ เยาะว่า “ไหนใครว่าเศรษฐกิจไม่ดี ดัชนีไอโฟนต้องมาแล้วมั้ย” เลยได้ @stevejark สวน “ไหนบอกรักพ่อ ทำไมไม่ยึดเศรษฐกิจพอเพียงแบบที่พ่อสอน”
นอกนั้นเป็นการประชุมแยกกลุ่ม
เช่นคุยกับอินเดียบ้าง คุยกับจีนเอย ในนามของกลุ่มอาเซียน
ส่วนญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้แยกไปคุยกันเองเรื่องความร่วมมือด้านความมั่นคง
จากการคุกคามของช้างตัวใหญ่ในภูมิภาคส่วนนั้น ปัญหาเกาหลีเหนือ
สำหรับจีนนี่ ในฐานะประธานการประชุมปีนี้
เฮียตูบเค้าหวานจ๋อย “จะได้เสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ให้สูงขึ้นอีกระดับ”
เอย เพราะถือว่าจีน “เป็นเสาหลักสำคัญที่ค้ำจุนสันติภาพ เสถียรภาพ
ความเจริญรุ่งเรือง และความยั่งยืนของภูมิภาค”
อีกทั้งประกาศว่าปีหน้าเป็น
“ปีแห่งความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน-จีน” โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันภายในปีหน้า
ถึง ๑ ล้านล้าน และจะมีการลงทุนราว ๑๕๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกเหนือจากรถไฟจีนวงเงิน
๑.๗ แสนล้านที่ไทยจ้าง
อันจะเป็นปัญหางบประมาณต่อไปข้างหน้า
ในเมื่อเงินสำรองเหนียวแน่นที่รัฐบาลก่อน คสช.เข้ามาแย่งได้สร้างไว้ ถูก
คสช.ใช้เอาๆ ตลอด ๕ ปีกว่าจนชักร่อยหรอ ขนาดที่พรรคประชารัฐของ คสช.๒ โฆษณาหาเสียงไว้จะลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
๑๐% แน่นอนแล้วว่าทำไม่ได้
สรรพากรเพิ่งแจ้ง “การลดภาษีเช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้ยาก
เนื่องจากรายได้ของรัฐบาลจะหายไปถึง ๗๐,๐๐๐ ล้านบาท
และกรมสรรพากรยังไม่สามารถหารายได้อื่นมาทดแทนได้” ไม่เท่านั้นยัง “กังวลต่อการปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ตามนโยบายของพรรคพลังประชารัฐมาก
เพราะจะส่งผลกระทบกับหลายด้าน” โดยเฉพาะในขณะที่สรรพากรไม่สามารถเก็บภาษีนิติบุคคลได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
“ปัจจุบันมีคนยื่นแบบภาษีราว ๑๑ ล้านคน แต่ในจำนวนนี้มีคนเสียภาษีเพียง ๔ ล้านคน” ที่เหลือรายได้ไม่พ้นขั้นต่ำ
๒๖,๕๘๓.๓๓ บาทต่อเดือน
(https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1696190, https://workpointnews.com/2019/11/03/asean-china/ และ https://thaipublica.org/2019/11/gsp-thai-usa-workers-rights-01/)
สรุปว่าในการที่รัฐบาล คสช.๒ จัดประชุมอาเซียนครั้งนี้
สิ่งที่ไทยขายก็คือการพีอาร์ เอาอาหารล่อแล้วก็วิงวอนบ้าง เยินยอบ้าง
ลูกค้าอิ่มกลับไป ไม่รู้จะกลับมาซื้อ ‘อีอีซี’ ที่เสนอขายหรือไม่ แค่ไหน ของตายๆ ที่เห็นคือจีนมาแน่ เห็นแต่จะมา ‘โกย’ ท่าเดียว