วันจันทร์, พฤศจิกายน 04, 2562

อาเซียนซัมมิต ‘ไอทู้บ’ ไล่แจก ‘ยิ้มสยาม’ เอาอาหารล่อขายพีอาร์


ประชุมอาเซียนคราวนี้ที่เมืองทองธานี รัฐบาล คสช.๒ ฉวยโอกาสทำพีอาร์เต็มที่ กาล่าดินเนอร์โชว์ซิมโฟนี่ รส อาหารไทยงี้ ไหนจะ ยิ้มสยาม ที่ ไอทู้บ ไล่แจกอีก แล้วยังมีคล้องแขนจับมือแน่นกับ รมว.พาณิชย์สหรัฐ

ยังดีสถานที่จัดการประชุมอยู่เมืองนนท์ ถ้าเป็นแถวรัชดา ลาดพร้าวละก็เสร็จ เพราะ “#ฝนตก แป๊บเดียว #น้ำท่วม แล้ว จากเมื่อก่อนต้องตกเป็นวันๆ ถึงจะท่วม (ในปริมาณน้ำฝนพอๆกัน)”
 
เจ้าของบัญชี @hengsuaycountry บ่น “แค่นี้ก็พอคาดการณ์ได้แล้วว่างานวิจัยที่ว่ากรุงเทพฯจะกลายเป็นเมืองจมน้ำในอีก ๓๐ ปีมันไม่ได้ไกลเกินความเป็นจริงเลย”

ถึงอย่างนั้นเห็นท่าว่าพีอาร์จะได้ผล “สำหรับประเด็นการพักสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร” ๕๗๓ รายการ โปรเฟสเซ่อโฆษก ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เก็บมาเล่าว่าประยุทธ์ขอให้สหรัฐ “พิจารณาทบทวนอีกครั้ง” ที่นายวิลเบอร์ รอส ตอบว่า

“กรณีนี้ถือว่าเป็นมูลค่าเพียงเล็กน้อย...ยังมีระยะเวลาที่ไทยจะชี้แจง” ใน ๖ เดือนข้างหน้า “โดยอาจจะมีการอุทธรณ์สินค้าบางรายการได้” จนสำนักข่าวบางแห่งเอาไปพาดหัวเสีย เว่อ ว่าสหรัฐ “กลับหลัง” หันนั่นเลย

แต่แท้จริง รมว.พาณิชย์สหรัฐแค่แย้ปว่า ไทยสนใจจะซื้อเทคโนโลยี่ทางด้านพลังงาน และระบบรักษาความปลอดภัยในสนามบินไหมล่ะ แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ต้องดูคนไทยรอคิวซื้อ iPhone 11 เสียก่อน ทั้งที่ ‘I-Ad’ ก่อกระแส แบน สินค้าอเมริกัน
 
ชนิดที่ ‘@ToxicUnagidon’ เยาะว่า “ไหนใครว่าเศรษฐกิจไม่ดี ดัชนีไอโฟนต้องมาแล้วมั้ย” เลยได้ @stevejark สวน “ไหนบอกรักพ่อ ทำไมไม่ยึดเศรษฐกิจพอเพียงแบบที่พ่อสอน”

นอกนั้นเป็นการประชุมแยกกลุ่ม เช่นคุยกับอินเดียบ้าง คุยกับจีนเอย ในนามของกลุ่มอาเซียน ส่วนญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้แยกไปคุยกันเองเรื่องความร่วมมือด้านความมั่นคง จากการคุกคามของช้างตัวใหญ่ในภูมิภาคส่วนนั้น ปัญหาเกาหลีเหนือ

สำหรับจีนนี่ ในฐานะประธานการประชุมปีนี้ เฮียตูบเค้าหวานจ๋อย “จะได้เสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ให้สูงขึ้นอีกระดับ” เอย เพราะถือว่าจีน “เป็นเสาหลักสำคัญที่ค้ำจุนสันติภาพ เสถียรภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และความยั่งยืนของภูมิภาค”

อีกทั้งประกาศว่าปีหน้าเป็น “ปีแห่งความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน-จีน” โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันภายในปีหน้า ถึง ๑ ล้านล้าน และจะมีการลงทุนราว ๑๕๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกเหนือจากรถไฟจีนวงเงิน ๑.๗ แสนล้านที่ไทยจ้าง

อันจะเป็นปัญหางบประมาณต่อไปข้างหน้า ในเมื่อเงินสำรองเหนียวแน่นที่รัฐบาลก่อน คสช.เข้ามาแย่งได้สร้างไว้ ถูก คสช.ใช้เอาๆ ตลอด ๕ ปีกว่าจนชักร่อยหรอ ขนาดที่พรรคประชารัฐของ คสช.๒ โฆษณาหาเสียงไว้จะลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ๑๐% แน่นอนแล้วว่าทำไม่ได้

สรรพากรเพิ่งแจ้ง “การลดภาษีเช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากรายได้ของรัฐบาลจะหายไปถึง ๗๐,๐๐๐ ล้านบาท และกรมสรรพากรยังไม่สามารถหารายได้อื่นมาทดแทนได้” ไม่เท่านั้นยัง “กังวลต่อการปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามนโยบายของพรรคพลังประชารัฐมาก

เพราะจะส่งผลกระทบกับหลายด้าน” โดยเฉพาะในขณะที่สรรพากรไม่สามารถเก็บภาษีนิติบุคคลได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย “ปัจจุบันมีคนยื่นแบบภาษีราว ๑๑ ล้านคน แต่ในจำนวนนี้มีคนเสียภาษีเพียง ๔ ล้านคน” ที่เหลือรายได้ไม่พ้นขั้นต่ำ ๒๖,๕๘๓.๓๓ บาทต่อเดือน


สรุปว่าในการที่รัฐบาล คสช.๒ จัดประชุมอาเซียนครั้งนี้ สิ่งที่ไทยขายก็คือการพีอาร์ เอาอาหารล่อแล้วก็วิงวอนบ้าง เยินยอบ้าง ลูกค้าอิ่มกลับไป ไม่รู้จะกลับมาซื้อ อีอีซี ที่เสนอขายหรือไม่ แค่ไหน ของตายๆ ที่เห็นคือจีนมาแน่ เห็นแต่จะมา โกย ท่าเดียว