https://www.matichonweekly.com/column/article_243179
โปรดทราบ
กองทัพเขาวางตัวผู้นำไปจนถึงเดือนกันยายน 2568 แล้ว
หมดจากพล.อ.อภิรัชต์ (2563)
เป็นพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ (2566)
ต่อด้วย พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ (2567)
และปิดท้ายด้วย พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี (2568)
เพื่อเป็นหลักประกันในความมั่นคงของประเทศ ความสงบเรียบร้อยและการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
......................
แม้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พล.อ.อภิรัชต์ที่เป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง ผบ.ทบ. ต้องเว้นวรรคทางการเมืองหลังพ้นตำแหน่ง 2 ปี ซึ่งไม่ใช่เวลานาน และจะเป็น 2 ปีที่จะสั่งสมบารมีจากตำแหน่งสำคัญที่รอรองรับอยู่หลังเกษียณ 30 กันยายน 2563
เพราะหลังจากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ก็ลงสู่สนามการเมืองได้โดยที่เป้าหมายไม่ใช่แค่การเป็น รมว.กลาโหม แทน พล.อ.ประยุทธ์ที่นั่งควบอยู่เท่านั้น
หาก พล.อ.อภิรัชต์ตัดสินใจเล่นการเมืองก็ย่อมต้องเป็นนายกรัฐมนตรี
เรียกได้ว่าจะคุมเบ็ดเสร็จทั้งการเมืองและอำนาจในกองทัพเพื่อความมั่นคง สงบเรียบร้อย และสกัดกั้นขบวนการล้มเจ้า พวกซ้ายจัด และคอมมิวนิสต์เดิมในยุคใหม่ อันเป็นเป้าหมายสำคัญของ พล.อ.อภิรัชต์ที่แสดงออกมาตลอด
เพราะในส่วนของกองทัพก็มีการวางตัวกันไว้แล้ว เมื่อ พล.อ.อภิรัชต์เกษียณในปลายปีหน้า บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผช.ผบ.ทบ. จะขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. นั่งยาวจนกันยายน 2566
และคาดว่าจะต่อด้วยบิ๊กต่อ พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพน้อยที่ 1 (ตท.23) ที่จะขยับขึ้นแม่ทัพภาค 1 ในปีหน้า และเติบโตทันเป็น ผบ.ทบ.ต่อจาก พล.อ.ณรงค์พันธ์พอดี โดยมีอายุราชการถึงกันยายน 2567
โดยมีบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการทหาร (ตท.21) ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุดคนใหม่ และนั่งยาวถึง 2566 เช่นกัน
และต่อด้วยบิ๊กอ๊อบ พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองแม่ทัพภาค 1 (ตท.24) ที่ก็จะต่อคิวขึ้นแม่ทัพภาค 1 และเป็น ผบ.ทบ.ในอนาคตได้ โดยมีอายุราชการถึงกันยายน 2568
คาดกันว่าในการแต่งตั้งโยกย้ายปลายปีหน้า ก่อน พล.อ.อภิรัชต์ เกษียณจะมีการวางตัวคนที่จะขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. แบบระยะยาวเอาไว้ให้เห็นชัดมากขึ้น
จากระดับผู้บัญชาการกองพล ไม่ว่าจะเป็น “ผบ.เนี้ยว” พล.ต.ทรงพล สาดเสาเงิน ผบ.พล.1 รอ. ‘ผบ.ตั้ง’ พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ผบ.มทบ.11
ผบ.หนุ่ย พลตรี ธราพงษ์ มะละคำ ผบ.พล.ร.2 รอ.
ที่จะต้องเป็น “นายทหารคอแดง” คือผ่านหลักสูตรการฝึก ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ทม.รอ.) และปฏิบัติตามกฎแห่งราชสวัสดิ์อย่างเคร่งครัดด้วยนั่นเอง
ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันในความมั่นคงของประเทศ ความสงบเรียบร้อยและการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
.....................
รายงานพิเศษ / แผนเบ็ดเสร็จ ยึดการเมือง ยึดกองทัพ “บิ๊กตู่-บิ๊กแดง” จับมือ ทายาทนายกฯ บนถนน “พปชร.” จับตา จัดคิว วางตัว ผบ.ทบ. “คอแดง”
https://www.matichonweekly.com/column/article_243179
Thanapol Eawsakul
.(https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2715696431830512&set=a.188049254595255&type=3&theater)
...
หลักสูตรนายทหารสัญญาบัตรหน่วยทหารรักษาพระองค์ หลักสูตรเพื่อเตรียมเป็น ผบ.ทบ.ในรัชกาลปัจจุบัน
...........
ตามที่โพสต์ก่อนหน้า
โปรดทราบ
กองทัพเขาวางตัวผู้นำไปจนถึงเดือนกันยายน 2568 แล้ว
หมดจากพล.อ.อภิรัชต์ (2563)
เป็นพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ (2566)
ต่อด้วย พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ (2567)
และปิดท้ายด้วย พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี (2568)
เพื่อเป็นหลักประกันในความมั่นคงของประเทศ ความสงบเรียบร้อยและการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2715696431830512&set=a.188049254595255&type=3&theater
ผมลองค้นข่าว
เส้นทางดาวจรัสแสง "ฉก.คอแดง" มารู้จัก "ขุนพลรักษาพระองค์" สุดเป๊ะ!
https://www.thaipost.net/main/detail/44994
พบว่าน่าสนใจเรื่องการมี 12 ขุนพลรักษาพระองค์ ที่เข้ารับการฝึกหลักสูตรนายทหารสัญญาบัตรหน่วยทหารรักษาพระองค์ระยะเวลา 3 เดือน และได้เข้าดำรงตำแหน่งสำคัญในหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ฉก.ทม.รอ.904) ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่
1. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.),
2. พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก,
3. พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1,
4. พล.อ.อ.ภูมิใจ ชัยพันธ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน (ผบ.อย.),
5. พล.ท.ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพน้อยที่ 1,
6. พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.)
7. พล.ต.สุวิทย์ เกตุศรี ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ม.2 รอง),
8. พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์ รองแม่ทัพภาคที่ 1,
9. พล.ต.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง รองแม่ทัพภาคที่ 1,
10. พล.ต.เอกรัตน์ ช้างแก้ว รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (รอง ผบ.รร.จปร.),
11. พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11),
12. พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์(ผบ.พล.ร.2รอ.)ต่างถูกจับตามอง และมีชื่อเข้าสู่ไลน์ในตำแหน่งสำคัญ
จะเห็นได้ว่า ว่าที่ ผบ.ทบ.ทั้ง 3 คนได้เข้าอบรมหลักสูตรนายทหารสัญญาบัตรหน่วยทหารรักษาพระองค์ (ขณะที่อีก 9 คนก็อาจจะมีลุ้นถ้า 3 คนแรกพลาด)
ส่วนราลละเอียดนั้น ผู้ที่เข้ารับการฝึกหลักสูตรนายทหารสัญญาบัตรหน่วยทหารรักษาพระองค์ 904 ทาง ฉก.จะไปคัดตัวจากหน่วยรักษาพระองค์ทั่วประเทศ ประมาณ 30 กองพัน ไม่นับรวมกรมทหารราบที่ 1 ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) และกรมทหารราบที่ 11 ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.11 ทม.รอ.) ที่ตัดไปรวมกับ พล.1 รอ.ที่เป็นหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 (ทม.รอ.904) ไปแล้ว
ซึ่ง 30 กว่ากองพัน จะคัดจากนายทหารหลักที่จบจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (รร.จปร.) และทหารที่เลื่อนฐานะส่วนหนึ่งกองพันละ 20 นาย โดยนายทหารหลักจะต้องเข้ารับการฝึกพื้นฐาน 2 เดือน และฝึกปฏิบัติ 1 เดือน ที่โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ วังทวีวัฒนา นอกจากนั้นยังคัดจากนายสิบกองพันละ 50 นาย พลทหารกองพันละ 50 นาย เริ่มฝึกครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ส.ค.2560 จบรุ่นแรกจำนวน 150 นาย
สำหรับทหารจาก ฉก. เมื่อไปลงในตำแหน่งต่างๆ จะต้องปฏิบัติตัวด้วยความมีวินัยทุกกระเบียดนิ้ว เสื้อผ้าเครื่องแบบ ทรงผมขาวสามด้าน การทำความเคารพ การวางตัวเมื่ออยู่ที่สาธารณะ พฤติกรรมส่วนตัวต้องไม่เป็นที่เสื่อมเสีย
สัญลักษณ์อีกประการคือ เมื่อใส่เครื่องแบบแล้วจะต้องใส่เสื้อยืด “คอแดง” ไว้ข้างใน จนกลายเป็นเรียกทหาร ฉก. และทหารที่อยู่ในหน่วย ทม.รอ.904 โดยตรงว่า “ทหารคอแดง” ซึ่งเมื่อมองจากภายนอกจะรับรู้ได้ว่ามีคุณลักษณะพิเศษ ทั้งบุคลิก การวางตัว เครื่องหมาย เข็มติดหน้าอก ที่แตกต่างจากทหารประจำการที่อยู่ในหน่วยปกติทั่วไป สำหรับเสื้อยืดคอแดงจะใช้สวมใส่ในการฝึกหลักสูตรภาคสนาม และจะใช้ใส่ไว้ข้างในเมื่อต้องใส่เครื่องแบบทหาร
สำหรับว่าที่ ผบ.ทบ.นั้น
พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ เป็นรอง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย ซึ่งในปีหน้า พล.ท.ณรงค์พันธ์จะขึ้นเป็น ผบ.ทบ. โดยทั้ง 2 คนยังเป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904
ขณะที่ พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งแม้จะเป็นทหารเสือราชินี แต่เมื่อเข้ามาเป็น “คอแดง” แล้วถือว่ามีความพร้อมในการก้าวขึ้นเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 (อัตราพลโท) เช่นเดียวกับสายบูรพาพยัคฆ์ที่เข้ารับการฝึกหลักสูตร 3 สัปดาห์มาแล้ว และได้รับบัตรม่วงไว้ติดหน้าอก ได้แก่ พล.ต.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง รองแม่ทัพภาคที่ 1 ที่เส้นทางน่าจะสดใส และ พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11) ที่จะกลับไปคุมกำลังด้านตะวันออก ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ.
พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) ได้ขยับเข้าไลน์รองแม่ทัพภาคที่ 1
ส่วนนายทหารระดับนายพันที่มีชื่อในการอบรมได้แก่ พ.อ.ทรงพล สาดเสาเงิน รอง ผบ.พล.1 รอ.ที่จะขยับขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. และ พ.อ.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. ที่เข้ากรุงมาเป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11(ผบ.มทบ.11) นั้นก็ใส่เป็นว่าที่ ผบ.ทบ. ในอรนาคตได้เลน
หลักสูตรนายทหารสัญญาบัตรทหารรักษาพระองค์ 904 จึงเหมือนเป็นด่านฝึกทดสอบนายทหารที่จะเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญให้มีความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ ทัศนคติ ตรงตามกรอบที่วางไว้ ซึ่งทหารทุกนายต้องมีการฝึกทบทวน และต้องเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรอื่นๆ เช่น จิตอาสา ทหารมหาดเล็ก เป็นต้น ให้มีเป๊ะในทุกๆ ด้าน!!.
Thanapol Eawsakul
(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/2715769951823160)