วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 02, 2561

คสช. จุดต่อ ช่วยเรียกแขกไปชุมนุม ๑๐ ก.พ. แถมม็อบอุ้มป้อม 'แป้ก'

พอสกายว้อคจุดติดแล้ว คสช.ช่วยจุดต่อ ข้อหาขัดคำสั่งหัวหน้าฯ ฉบับที่ ๓/๒๕๕๘ กำลังจะบานฉึ่ง รอดู ๑๐ กุมภานี้แล้วกัน ผลงาน ศรีวราห์ ลิ่วล้อรัฐประหาร

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ แถลงถึงการออกหมายเรียกผู้ที่ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มเรียกร้องเลือกตั้งและคัดค้านการยืดเวลาแม้เพียง ๓ เดือน ว่าผู้ถูกหมายเรียกจะต้องมารายงานตัวรับฟังข้อกล่าวหาในวันศุกร์ (นี้ที่ ๒ กุมภาพันธ์)

โดยความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งฯ ข้อ ๑๒ “กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด...เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร...หรือให้ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๖”

ทั่นรองฯ ยังกร่างคำโตด้วยว่า นอกจากที่ออกหมายไปแล้ว ๗ คนบวกอีก ๓๒ ตั้งแต่รังสิมันต์ถึงเนติวิทย์ สิรวิชญ์ถึงพัฒน์นรี สมบัติถึงวีระ สงวนถึงสุดสงวน และสุวัฒน์ถึงเดชรัตน์ ยังจะมีตามมาอีก ๖๖ คน

“ทั้งนี้ใครที่ร่วมชุมนุม แล้วทำผิดกฎหมาย ต้องดำเนินคดีทุกคน ไม่เว้นไม่ว่าจะเป็นแกนนำหรือแนวร่วมเอาหมด”


อย่างนี้ พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ บอกว่า “ช่วย เรียกแขก ให้คนมาชุมนุมเพิ่มขึ้นอีกในวันที่ ๑๐ ก.พ.โดยทั้งเจ็ดคน (ต้นเรื่อง) ไม่ต้องทำอะไรมาก

แม้นว่า โบว์ณัฏฐา มหัทธนา ไปเติมเชื้อ ช่วนเพื่อนสองสามคนทำกิจกรรมเชิงสัญญลักษณ์ เพลงชาติแห่งความเงียบยืนแสดงการประท้วงด้วยมือเปล่าท่าทางต่างๆ ปากปิดด้วยเทป เป็นเวลา ๓๐ นาฑีบริเวณหน้าห้างสยามพารากอน ซึ่งมีผู้สื่อข่าวไปห้อมล้อมถ่ายภาพและสัมภาษณ์กันเป็นจำนวนมาก

ใครได้ดูคลิปจะเห็นว่าแรกเมื่อไปถึงบริเวณสยามสแควร์ได้มีชายใส่สูทคอยประกบ และพูดต่อว่าผลักดันให้เธอออกไปจากพื้นที่ อ้างว่าเป็นสถานที่ส่วนบุคคล กีดขวางลูกค้า


นอกจากนั้นองค์กรนักศึกษาในมหาวิทยาลัยหลักๆ ต่างออกแถลงการณ์สนับสนุนกิจกรรม อยากเลือกตั้งและต้านทานการสืบทอดอำนาจของ คสช. ดังเช่นสภานิสิตจุฬาฯ แสดงความกังวลที่ทางการดำเนินคดีกับ ๓๙ นักกิจกรรม

ทั้งยืนหยัดต่อการมีส่วนร่วมของ ภาคประชาชน โดยถือว่าเป็น เกียรติภูมิจุฬาฯ อันเป็นเกียรติแห่ง การรับใช้ประชาชน


ทางด้านสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็แสดงความ กังวลเป็นอย่างยิ่ง ต่อการบังคับใช้คำสั่งที่ ๓/๒๕๕๘ ของ คสช. ขอให้ทำการ “ทบทวนบทบาทของตนเองจากการกระทำดังกล่าว”

เนื่องจากเห็นว่า “ละเมิดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง ข้อที่ ๑๙ และ ๒๐ ซึ่งประเทศไทยมีพันธะกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม”

กระทั่งสโมสรคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ก็ยังออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ “ยกเลิกการดำเนินคดีกับนักศึกษาและนักกิจกรรมทั้ง ๓๙ คน รวมถึงยกเลิกการตรวจสอบผุ้ร่วมกิจกรรมอีก ๖๖ คนด้วย”
อย่างไรก้ดีมีรายงานเพิ่มเติมว่า “เมื่อเวลา ๒๓.๔๐ น. ไม่สามารถเข้าถึงแถลงการณ์ของสภานักศึกษา มธ. ผ่านทางหน้าเฟชบุ๊คแฟนเพจของสภานักศึกษาฯ ศูนย์รังสิตได้


เหล่านี้สะท้อนถึงการตื่นรู้ของประชาชน ผ่านทางพลังนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ที่ออกมาคัดค้านการปกครองโดยเผด็จการ และทัดทานการยืดเวลายึดครองอำนาจของ คสช. อย่างกว้างขวาง

ในขณะที่ทาง คสช. ก็พยายามกลับไปใช้อำนาจเบ็ดเสร็จต่างๆ ที่จะกดดันภาคประชาชนให้สงบราบคาบต่อไป โดยหาสำเหนียกรู้คิดแต่นิดไม่ว่า ความอดทนอดกลั้นของประชาชนเปราะบางลงไปทุกทีแล้ว

มิใยที่จะมีการ (ไม่) จัดตั้งให้กลุ่มชนบางส่วนจำนวนน้อย ออกมาแสดงอาการดิ้นรนสนับสนุนผู้นำ คสช.บางคน โดยหารู้ไม่ว่านั่นเป็นความเขลาที่ส่งผลร้ายต่อบุคคลที่ตนหมายมั่นว่าจะสามารถเชิดชูให้พ้นจากข้อครหาได้

กรณีม็อบ ปากน้ำ-สระแก้วออกมาเดินให้ท้ายพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่หน้ากลาโหม โดยมี “พลเอกรุ่งโรจน์ จำรัสโรมรัน ผช.รมต.กลาโหมและ เพื่อน ตท.๖ มารับดอกไม้ให้กำลังใจแทน” นั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความสิทธิมนุษยชน ให้ความเห็นว่า
“กระทำของประชาชนกลุ่มดังกล่าวเป็นความผิดต่อกฎหมายชุมนุมสาธารณะ มาตรา ๗ วรรคแรก” เช่นเดียวกับกลุ่มประชาชนที่ไปชุมนุมแสดงออกว่าต้องการให้มีการเลือกตั้งในปี ๒๕๖๑ นี้ ที่ตำรวจลิ่วล้อ คสช. ขย้ำคอไปแล้วเช่นกัน


ซึ่งท้ายที่สุด ทั่นรองฯ ศรีวราห์ ก็ต้องยอมรับว่าการที่มีมวลชนราว ๔๐ คนไปยืนชูป้ายและมอบพุ่มดอกไม้สนับสนุนพล.อ.ประวิตร ก็ “ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามมาตรา ๔” อยู่ดี

“จึงสั่งการให้ตำรวจ สน.พระราชวัง ร้องทุกข์กล่าวโทษและดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดแล้ว”


มีบางคนบอกว่าพวกข้าทาสบริวารออกมาเชียร์เจ้านายโดยรู้เท่าไม่ถึงการ ไม่เพียงทำให้เจ้านายหน้าม้าน แต่ทำให้ลูกน้อง (ใน สตช.) ขาขวิดไปเหมือนกัน

แล้วก็ อ้อ เรื่องเจ้านาย การเปิดสาธารณะให้ประชากรโลกไซเบอร์ไปลงคะแนน ไล่รองหัวหน้า คสช. ฝ่ายความมั่นคง อันเนื่องมาแต่มีนาฬิกาเพื่อนให้ยืมใส่มากมายทั้งมูลค่าและจำนวนนั้นน่ะ ขณะนี้รายชื่อปาเข้าไป ๔ หมื่น ๕ พันแล้ว ยังวิ่งอยู่ไม่ยั้ง
ดูท่าจะไล่ให้ทันโพลไทยพีบีเอสที่ใช้เวลา ๒๔ ชั่วโมง คะแนนมาเกือบสองแสน แบ่งเป็นแสนแปดกับแปดพัน ๙๖ กับ ๔ เปอร์เซ็นต์ บอกให้พี่ป้อมไปเถ๊อะ