วันพุธ, กุมภาพันธ์ 21, 2561

“ป้าเดือดร้อนแค่ไม่กี่วันต่อปี” จอดขวางทางใ่ส่เกียร์แค่นี้ "น่าจะรอหน่อยถ้าออกไม่ได้" อุแม่จ้าว เขาคิดกันอย่างนี้หรือ

ข้อคิดนิดหนึ่งกับกรณี #ป้าทุบรถ ประเมินเผินๆ จากข้อโต้แย้งทางสื่อสังคมแล้วเห็นท่าจะใช่ ว่าบ้านนี้เมืองนี้เป็นสังคมที่ป่วยในเรื่องจิตสำนึกพื้นฐานของการเป็นปัจเจกชนนะ

เริ่มจากทวี้ตของ อจ.กานดา นาคน้อย @kandainthai “คนทุบรถก็ต้องจ่ายค่าชดเชยไปหลังการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย คนจอดขวางทางก็โดนปรับกิ๊กก๊อก ถ้าไม่ตั้งค่าปรับสูงๆ กรณีการจอดขวางทางก็ยากจะดัดสันดานคนมักง่าย แต่คนที่ควรโดนปรับสูงสุดคือเจ้าของตลาดเถื่อนไร้ใบอนุญาต”

ต้นตอของเหตุอยู่ที่ตลาดสวนหลวง ร.๙ ในเขตประเวศ ซึ่งจัดตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านจัดสรรเสรีวิลล่า จึงแน่นอนว่าลักษณะตลาดนัดขนาดใหญ่อย่างนั้นย่อมมีความพลุกพล่าน จ้อกแจ้กจอแจ และบางครั้งอึกทึกครึกโครมเป็นธรรมดา หนักที่สุดก็คือการจอดรถขวางทางเข้าออก

ไม่เหมาะที่จะอยู่ติดกันหรือคละเคล้ากับบ้านอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัว หรือ ‘Single Home’ ต่างกับที่อยู่อาศัยชิดรวมหมู่อย่างคอนโดมิเนี่ยมและอะพ้าร์ตเม้นต์ เว้นแต่ทางการท้องที่จะมีมาตรการควบคุมได้ดีอย่างที่เป็นในย่านน้อตติ้งแฮมของนครลอนดอน หรือเป็นอยู่ทั่วไปในนครพอร์ตแลนด์ รัฐออเรกอน

นั่นย่อมรวมถึงประการสำคัญที่ประชากรปฏิบัติตามกฏระเบียบซึ่งท้องที่และบ้านเมืองกำหนด ด้วยความเข้าใจในสิทธิของบุคคล รักษาสิทธิของตนไม่ลุกล้ำสิทธิของคนอื่น รวมทั้งปัจเจกชนไม่ควรต้องทนทุกข์เพื่อความสุขสำราญของคนหมู่มากด้วย

สำนักข่าวไทยรายงานเมื่อ ๒๐ ก.พ. นางสาวบุญศรี แสงหยกตระการ เจ้าของบ้านเลขที่ 37/208 ซอยหมู่บ้านเสรีวิลล่า ตั้งโต๊ะแถลงข่าวหน้าบ้านหลังจากที่โดน สน.ประเวศแจ้งข้อหาทำลายทรัพย์ผู้อื่นและพกพาอาวุธ (ขวาน) ในที่สาธารณะ

“ยืนยันว่าเธอได้ใช้ความพยายามในการตามหาตัวเจ้าของรถเกือบ ๓๐ นาที โดยบีบแตรดังตลอดเวลา และได้โทรศัพท์แจ้ง ๑๙๑ จส.๑๐๐ ตามหาเจ้าของรถให้มาเลื่อนออกแล้ว

ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เธอตัดสินใจทุบรถ คือเมื่อเจ้าของรถมาถึงก็บอกว่าได้ยินเสียงแตรแล้วแต่ยังซื้อของไม่เสร็จ จากนั้นเจ้าของรถก็ยังไม่ยอมเลื่อนรถทันที ยังประวิงเวลาทำธุระอยู่อีกนานเกือบ ๓๐ นาที”


ฟังความจากเจ้าของรถเจ้ากรรมนายเวรบ้าง มีคนสรุปข้อโต้แย้งของ น.ส.รชนิกร เลิศวาสนา เจ้าของรถปิ๊กอัพซึ่งถูกขวานจามกระจกแตก กันชนบุบ (บางข้อ) จากโพสต์ของ Sumalee Nimnate ได้ว่า
 
ใส่เกียร์ (ทำให้ไม่สามารถผลักรถให้เลื่อนพ้นทางเหมือนที่ทำกันตามลานจอดรถได้) เพราะเป็นความเคยชินของหนู...ป้ายไม่อ่าน เพราะตัวหนังสือเยอะเกินไป...ได้ยินเสียงแตรมั๊ย ได้ยินแต่ยังซื้อของไม่เสร็จ” และ

“หนูรีบ น่าจะรอหน่อย ถ้าออกไม่ได้” รอ ๓๐ นาฑีแล้วต่ออีก ๓๐ นาฑีนี่นะ

ทางป้าเจ้าของบ้านล่ะว่าอย่างไร “ถึงปัญหาที่ต่อสู้มานานกว่า ๑๐ ปี ทั้งเรื่องเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญระหว่างการขนส่งสินค้าเข้าตลาด การจอดรถกีดขวางทางเข้าออกทำลายต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมกำแพงบ้าน

รวมถึงปัญหาการลักลอบใช้ไฟฟ้า จนทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่นบาท ซึ่งทั้งหมดมีการฟ้องร้องไปยังศาลปกครองแล้ว ๓ คดี ซึ่งคดีที่หนึ่งและสองมีคำสั่งให้คุ้มครองแล้ว” ก็ยังเกิดเหตุละเมิดคำสั่งศาลอยู่เป็นนิจสิน

แล้วเขตประเวศผู้รับผิดชอบต่อปัญหาทั้งหมดว่าไง นายธนสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผอ.เขตประเวศชี้แจงว่า “ที่ดินที่มีการก่อสร้างตลาดนั้นเป็นของเอกชน ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีคำสั่งของศสาลปกครองกลาง...
ให้เจ้าของตลาดนัดไม่ก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญที่เกิดจากการจัดตั้งตลาดแก่เจ้าของบ้าน ทางเขตระบุว่า ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเจ้าของตลาดก็ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเช่นกัน”


ที่จริงปัญหาประเด็นการฟ้องกลับ (หรือ ‘counter sues’ ในอเมริกา) นี่ไม่น่าจะปล่อยให้เกิดความเดือดร้อนคาราคาซัง ก่อนจะสั่งคุ้มครองควรต้องพิจารณาเสียก่อนว่าใครเดือดร้อนบ้าง แล้วออกคำสั่งใหม่คุ้มครองสิทธิและความสะดวกในชีวิตประจำวันไว้ด้วย

แต่จากการให้สัมภาษณ์ของ ผอ.เขตประเวศตอนหนึ่งบอกว่า ตลาดนี้เปิดเฉพาะตอนเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ และมีกฏห้ามจอดรถตั้งแต่ ๖ โมงถึง ๑๐ โมง “ป้าเดือดร้อนแค่ไม่กี่วันต่อปี” ก็เลยมีคนโต้ด้วยคณิตศาสตร์คร่าวๆ

ปีนึงมี ๕๒ สัปดาห์ สัปดาห์นึงมีเสาร์อาทิตย์สองวัน ๕๒ x ๒ = ๑๐๔ แล้วปีนึงมี ๓๖๕ วัน เท่ากับป้าต้องทนตลาดเฮงซวยนี้เป็นเวลาประมาณ ๑/๓ ของปี เดือดร้อนไม่กี่วันนน อีผอ. เขตบ้าาาาาาา” (修復者37@シエニアー @TTRX37)

แล้วถ้าเป็นความเดือดร้อนเวลาคนในบ้านเจ็บไข้ได้ป่วยล่ะ ป้าเล่าว่า “มีเพียงมารดาที่ป่วย จึงต้องนำตัวไปพักรักษาที่โรงพยาบาล เพราะกังวลว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันจะไม่สามารถนำส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา”

ส่วนที่มีกระแสข่าวทางโลกโซเชียลว่าบิดาป่วยเคยออกจากบ้านไม่ได้ จนต้องเสียชีวิตนั้นไม่ใช่บ้านนี้ แต่เพื่อนบ้านใกล้ๆ ก็ยังไม่วายมีหัวหมอเอาไปโพสต์ที่เว็บพันทิพ “ขอเตือนสติคนไทยสักหน่อยนึง คนจะเสียชีวิต ต่อให้ไม่มีรถจอดขวาง ถนนโล่ง ก็เสียชีวิตได้ค่ะ”
 
อุแม่จ้าว เขาคิดกันอย่างนี้หรือ ลงท้ายโพสต์ด้วยว่า “ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องใส่ใจเลยค่ะ” ยังไม่หมด เด็ดกว่านี้มีอีก มีนักค้นคว้าออนไลน์ไปขุดหาชื่อใครเป็นเจ้าของตลาดบ้าง ผู้ใช้นาม อิศรา พบว่า

มีชื่อนางสาวพัชรี เจียรวนนท์ ถูกสำนักงานเขตประเวศแจ้งความเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๔ “ฐานใช้อาคารก่อนได้รับใบรับรองการก่อสร้าง” ซึ่ง @Itsara_Th เจ้าของโพสต์รายนี้ยัง “ค้นไปเรื่อยๆ” เจอทีเด็ดว่า “พัชรี เจียรวนนท์ ได้แต่งงานกับนายวัฒนา เมืองสุข”
เลยทำให้ Noch Hautavanija @NochPH ไม่สามารถเก็บกดได้อีกต่อไป ต่อยอดให้อีกนิด “ทำไมเรื่องอะไรเลวๆ อะไรที่มันละเมิดกฎหมาย มันต้องเกี่ยวพันกับคนของเครือข่ายทักษิณ และพรรคเพื่อไทยไปซะตลอด”

โอมายก๊อด กรูจะบ้าตาย คุณนายอิศราไม่ยักค้นต่ออีกนิดที่สำนักข่าวอิศราบ่งไว้ในรายงานเมื่อ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๕ ด้วยว่า “ภรรยานอกสมรสของนายวัฒนาเป็นหลานเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งเครือซี.พี.” คู่ซี้ ประชารัฐ ของ คสช. เดี๋ยวนี้

(https://www.isranews.org/main-investigative/15828-2012-08-18-08-17-02.html)