วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 19, 2561

อีกแระพี่ป้อมลุยหิมะสู้หนาว แต่ชาวบ้านเทพาค้านถ่านหินโดนร้อน

สองภาพที่มันย้อนแย้งต่อกันอย่างสิ้นดี

ภาพแรก -ในกรุงเทพฯ ชาวบ้านจาก อ.เทพา สงขลา และ จ.กระบี่ จำนวนไม่น้อยกว่า ๑๕๐ คนมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโครงการสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงถ่านหิน ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๖๗ คนทำการอดอาหารประท้วงเป็นลมกันไปเกือบสิบคน

เมื่อ ๑๖ กุมภาฯ พ.ต.ต.อรรถวิท เรืองโภควิทย์ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ยื่นคำร้องถึงศาลแพ่งให้สั่งยุติการชุมนุม อ้างฝ่าฝืนกฎหมาย “เพราะผู้ชุมนุมพักหลับนอนและปักหลักอยู่บนทางเท้า เป็นการกีดขวางและก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนบริเวณดังกล่าว”

โดยระบุให้แกนนำสองคนไปรับฟังการไต่สวนที่ศาลแพ่งในวันที่ ๒๐ ก.พ. นี้ โดยเจ้าหน้าที่ สน.นางเลิ้งต้องการให้ผู้ชุมนุมย้ายสถานที่จากหน้าที่ทำการสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินกลาง ไปยังบริเวณทางเท้าริมคลองผดุงกรุงเกษม หน้าวัดโสมนัส เขตป้อมปราบฯ

ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปีที่แล้วมีการเดินขบวนเพื่อเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างการเดินสายลงภาคใต้ของหัวหน้า คสช. ผู้ร่วมกิจกรรม เทใจให้เทพา ๑๖ คนถูกควบคุมตัวและดำเนินคดี

เหตุผลหลักในการคัดค้านก่อสร้างโรงไฟฟ้าเทพานี้ ผู้ชุมนุมชี้ว่า “กระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของโครงการไม่ได้มาตรฐาน ทั้งยังมีผลประโยชน์ทับซ้อน มีการเอื้อประโยชน์ในการซื้อขายที่ดินของคนบางกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ”

“อีกทั้งการเลือกพื้นที่ก่อสร้างก็ไม่เหมาะสม เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลที่มีประมงพื้นบ้านทำมาหากินอยู่นับหมื่นคน หากเดินหน้าก่อสร้างจะทำให้ประชาชนกว่า ๒๐๐ หลังคาเรือนต้องย้ายออกจากพื้นที่”

“นายอัครเดช ฉากจินดา ผู้ประสานงานปกป้องอันดามันจากถ่านหินกล่าวว่า แม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นท่าทีจากรัฐบาลที่จะดำเนินการตามข้อเรียกร้องมากนัก แต่การอดอาหารก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ และเป็นการต่อสู้กับตัวเองด้วย เพราะรัฐบาลได้ปิดช่องทางการเคลื่อนไหวต่างๆ ด้วยกฎหมาย”

ข้อสำคัญ การที่ทางการประกาศเลื่อนโครงการโรงไฟฟ้าออกไปอีก ๓ เดือนเพื่อชะลอเวลาไม่ได้แก้ปัญหา เนื่องจากภาครัฐยังคงเตรียมการขอใช้ที่ดินสาธารณะและเวนคืนที่ดินราว ๓ พันไร่อยู่ต่อไป

การยกขบวนมาประท้วงต่อในกรุงเทพฯ เข้าวันที่แปดในครั้งนี้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงว่า “อย่าเอาการอดอาหารมาทำให้สังคมเกิดความรู้สึกลังเล หรือขัดแย้ง” 

และให้ความเห็นว่า “หากจะเรียกร้องให้ยกเลิก คำตอบในปัจจุบันคือ เป็นไปไม่ได้”


มาดูอีกภาพที่เป็นไปได้และเป็นไปแล้ว จากโพสต์ของ Wassana Nanuam (added 4 new photos) “บิ๊กป้อมจัดเต็ม สู้ความหนาว ลุยหิมะ สวมบทประธาน กก.โอลิมปิคไทย บินเยี่ยมนักกีฬาไทยแข่งกีฬาโอลิมปิก ฤดูหนาวที่เกาหลีใต้”
นั่นละพี่ใหญ่รองหัวหน้า คสช. รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ผู้อื้อฉาวด้วยนาฬิกาหรูราคาเรือนละเหยียบล้าน ๒๕ เรือนเพื่อนให้ยืมสวมเป็นสิบปี ที่ ปปช.ตรวจสอบแล้วแต่ไม่ไปถึงไหน เพราะล่าสุดยังรอ ทั่นส่งคำตอบข้อสอบถามครั้งที่สามกลับไป

ยิ่งขณะนี้ทั่นมีภารกิจยิ่งใหญ่ต้องไปเปียงชาง ลุยหิมะสู้หนาว “พร้อมรับประทานอาหารร่วมกับนักกีฬาไทย ที่ในครั้งนี้ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันสกี

งานนี้มีน้องรักทั้งบิ๊กน้อย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาฯ ราชตฤณมัยฯ และพล.อ.รณชัย มัญชุสุนทรกุล จากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ร่วมคณะด้วย” (Cr-ข่าวสด)”

หวังว่าจะไม่ซ้ำรอยอย่างทริปฮาวายนั่นนะ จัดเลี้ยงฟู่ฟ่า นั่งเครื่องชั้นหนึ่งชิมรสคาเวียร์จิบชองปาญ ต่อไปประเทศไทยอาจจะยิ่งใหญ่ได้จัดแข่งกีฬาฤดูหนาวกับเขาบ้าง

เรื่องนักกีฬาคงไม่มีปัญหายืมตัวคนเชื้อชาติไทยที่อาศัยในต่างประเทศมาลงแข่งในนามได้ อย่างที่เกาหลีใต้ก็ทำในปีนี้ แต่สถานที่นี่สิท่าจะยาก ผลิตหิมะที่ดอยอ่างขางคงไม่ไหว ไปยืมสถานที่จากเปียงยางละกัน