วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 13, 2561

กฤษณาไม่มาสอนน้อง ณัฏฐาเลยสอนพี่ ฟังครูสอนเสียหน่อยนะ ‘ดี้’

อันที่จริงการแสดงความเห็นออกสื่อสังคมของนายนิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงผู้โด่งดังในนาม ดี้ ล่าสุดนี้นั้น ไม่น่าจะได้ราคาค่าควรแก่การใส่ใจมากไป

แต่เพราะความคิดแบบต้องการกลับไปหากรอบ พ่อขุนรามคำแหง อย่างเขานี่ มีคนเห็นชอบอยู่ด้วยไม่น้อยจำนวนหนึ่ง จึงได้มีครู (สองคน) อุตส่าห์สละเวลามาสั่งสอน ให้ดี้รู้ตระหนักถึงการอยู่ร่วมในสังคมมนุษย์ ที่ต้องมี จินตนาการ และ ความหวัง ต่อทางเลือกให้เหมาะควรและสมานฉันท์

ครูคนแรกที่ขอเอ่ยถึงนี่เป็นอาจารย์สอนกฎหมายแบบเน้นประชาธิปไตยมากกว่า กฎพ่อกู ของดี้ อจ.ปิยบุตร แสงกนกกุล ให้ข้อคิดต่อความเห็นของดี้ ที่บริภาษณ์ฝ่ายต่อต้านเผด็จการว่า “อยากเลือกตั้ง...ซ้ำๆ ซากๆ” นั้น

“เป็นภาพแทนความคิดของคนจำนวนไม่น้อยในสังคมไทย โดยเฉพาะคนในเมือง...คนกลุ่มนี้ถึงยอมสนับสนุนเผด็จการทหาร หันหลังให้กับการเมืองแบบรัฐสภา” และ “คสช.อยู่ได้จนทุกวันนี้เพราะมีพลัง มีความคิดทำนองนี้สนับสนุน”

ความคิดทำนองนี้ก็คือ “เขาเห็นว่าการเมืองแบบรัฐสภาถูก บิดผันไป และไม่ให้คำตอบอีกแล้ว หันไปทางไหนก็ไม่มีทางเลือก ไม่มีทางออก ภาพหลอนแบบ ๑๐ ปีกว่าตามมาหลอกหลอน อย่ากระนั้นเลย ทนอยู่กับ คสช. ดีกว่า”

ข้อสำคัญแม้คนเหล่านี้เริ่มที่จะ ทนไม่ไหว...ไม่พอใจเริ่มบ่นกันดังๆ บ้างแล้ว แต่สุดท้ายจนปัญญา “ไม่มีทางออกนี่โว้ย” เลยมุดกลับเข้าไปในครอบกะลาพ่อขุนแบบที่ดี้แสดง


อะไรบ้างที่ดี้แสดง เขาอ้างว่าเป็น คำถาม ๙ ข้อ (นี่ก็เป็นการแสดงสัญญลักษณ์ของการไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าผ่านทางตัวเลข) ซึ่งเป็นคำถามจริงๆ ไม่ถึงเก้า หรือถ้าจะเหมาเอาเป็นคำถามทั้งหมดน่าจะสิบ
ที่บอกว่าเลือกมาแล้วหลายทีไม่เห็นมีแตกต่าง นั่นก็ผิด มีการเลือกตั้งที่ผู้ชนะได้เสียงสนับสนุนถล่มทลาย แต่พลังพ่อขุนของพวกดี้ไม่ชอบก็เลยคว่ำมันเสียต่างหาก

อ้างว่ารัฐธรรมนูญทำให้เกิดเผด็จการในพรรคการเมือง นั้นขอถามกลับว่า รธน.นี้พ่อขุนของพวกคุณเขียนมันขึ้นมาไม่ใช่หรือ เอาละ คุณเอง (ที่สับสนไม่รู้จะเรียกตัวเองว่า มึงหรือ กูดี ก็เลยมั่วเป็นทั้งกูและมึง) ยอมรับว่าเผด็จการตัวนี้ หน่อมแน้มจะเด็ดขาดก็ไม่กล้าเด็ดขาด แถมยังเฟอะฟะอีกหลายเรื่อง”

แต่ประชาธิปไตยที่พวกนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ออกมายืนยงเรียกร้องกันอยู่ขณะนี้นั้น “คือเผด็จการอีกรูปแบบหนึ่งที่ห่อหุ้มแพกเกจให้ดูงดงาม” ซ้ำมุสาหาว่าการเรียกร้องของพวกเขานั้น “ไม่มีข้อเสนออะไรเลยย้ำ ไม่มีข้อเสนออะไรเลย นอกจากอยากจะมีเลือกตั้ง”


นั่นก็ผิดบรรลัยไปอีกประเด็นหนึ่งแล้ว ถ้าไม่รู้อย่าสักแต่ด่า ต้อง เรียน เสียก่อนแล้วค่อยพูดนะ ดี้ ฟังที่ครูอีกคนเธอสอนนี่สิ จะทำให้ชีวิตดี้มีค่าควรแก่การไปหาความหมายได้บ้าง

โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา เป็นครูสอนสังคมวิทยาเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม รักษาสิทธิและเสียงซึ่งกันและกัน ชวนกันมองไปข้างหน้า สู่ความเป็นอยู่ที่ดีกว่า ไม่ใช่จมปลักอยู่กับมโนคติเก่าแก่อย่างดี้

เธอคิด เธอสอน แล้วยังปฏิบัติเพื่อเปิดเส้นทางไปหาจุดหมาย ไม่ใช่ อึดอัดขัดใจ หาทางออกไม่ได้ มุดกลับรูเก่าแล้วยังแว้งเห่าพวกเพื่อนที่เขาพยายามเปิดกะลาออกไปหาโลกกว้าง

น.ส.ณัฏฐา หนึ่งใน ๗ แกนนำ คนอยากเลือกตั้งเขียนเฟชบุ๊คตอบดี้ด้วยความปราณี “พี่ดี้และเพื่อนควรพิจารณาตั้งต้นบนจุดใหม่ จุดที่เชื่อว่าชาวไทยทุกคนล้วนอยากมีอนาคตที่ดี เมื่อเชื่อได้อย่างนี้จะเห็นความเป็นไปได้อีกมากมาย

ใครอยากตั้งพรรคการเมืองใหม่หากมีไอเดียที่ดีพอ ย่อมสามารถโน้มน้าวผู้คนและระดมทุนให้มาร่วมกันสร้างความฝันนั้นได้ แต่หากทำไม่ได้ให้ประเมินตนและพิจารณาความได้เรื่องได้ราวของไอเดียตัวเอง ก่อนจะโทษทุนนิยม

จำเพาะอย่างยิ่งกับประเด็นที่ดี้ ดิ้น’ “แม้แต่รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการที่ทำให้หลายคนสิ้นหวัง ก็ไม่อาจอยู่ชั่วฟ้าดินสลาย หากคนในชาติชัดเจนในความต้องการของตนที่จะแก้ไข มนุษย์เคยพาตัวเองไปได้ไกลกว่าดวงจันทร์ จะกลัวอะไรกับการหาวิธีแก้ตัวอักษรบนกระดาษ”


เหล่านั้นที่ น.ส.ณัฏฐาอุตส่าห์พร่ำสอนนายนิติพงษ์ เธอเรียกว่า จินตนาการใหม่ความหวาดระแวงประชาธิปไตยคือความหวาดระแวงในเพื่อนร่วมชาติ” โบว์ว่า

“คนไทยใจเสาะหรือใจสู้ จะสร้างอนาคตแบบไหนให้ตัวเอง เราก็จะได้เห็นไปด้วยกัน จะไปอย่างไรต้องย้อนไปฟัง อจ.ปิยบุตรเสนอ
"เราต้องสร้าง 'ทางเลือกใหม่' ให้สำเร็จให้จงได้"

นักนิติศาสตร์ที่บางครั้งยอมรับว่าระบบกฎหมายไทยไม่ เอื้อหรือแม้แต่ตั้งอยู่บนรากฐานของความยุติธรรมในสังคม เน้นให้ “ต้องทำให้ผู้คนมี ความหวังกับการเมือง หันกลับมาในเส้นทางที่ถูกต้อง ให้พวกเขาตระหนักว่าเผด็จการทหารไม่ใช่ทางออก แต่เป็นทางตัน”

ท้ายที่สุดแล้ว “การเมืองแบบใหม่ ประชาชนสร้างได้ ความขัดแย้งกันเป็นเรื่องปกติในประชาธิปไตย และประชาชนจัดการกันเองได้