ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC มีคำถามเดียวว่า "ประเทศไทยยังมี Competitive Advantage อะไรที่นักลงทุนเลือกที่จะมาลงทุน เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน
คือที่เห็นโฆษณาของรัฐบาลนั้นมันคือ "เป้าประสงค์ของแผนครับ" แผนนั้นเราตั้งเป้าอย่างไรก็ได้ เช่น จะเป็นมหาอำนาจโน่น นี่ นั้น ส่วนจะทำได้หรือไม่ได้นั้นมันคนละเรื่องกับเป้าประสงค์เลย
ผมเคยถาม รอง ผอ.องค์กรที่รับผิดชอบ EEC ด้วยคำถามข้างบนครับ เขาตอบเพียงว่า คงมีคนมาลงทุนแหละ ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่เคลียร์ได้เลย ว่าทำไมนักลงทุนถึงเลือกจะมาไทย ไม่ไปเวียดนาม พม่า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เรามี "ข้อได้เปรียบอะไร" คนถึงจะมาลงทุนที่ EEC
ค่าแรงเราแพง การเมืองเราไม่มีเสถียรภาพ เรายังไม่สามารถเจรจาการค้า กับต่างประเทศได้อย่างเต็มรูปแบบ เรายังไม่มีแผนการใดๆ แก้ปัญหาพวกเนี้
ดังนั้นเป้าหมาย EEC ก็ไม่ต่างจาก เป้าหมายของ ดร.สมคิดเรื่อง เมืองหลัก 5 แห่งตามแนวชายแดน ที่ตอนนี้เงียบไปแล้ว ไม่มีใครไปลงทุนแต่อย่างใด
การวางแผนใดๆ ที่ไม่คำนึงถึงตัวแปรภายใน ตัวแปรภายนอกที่เป็นข้อจำกัด มันก็ไม่ต่างจากการโปรประกันดา
ปัญหา "ความเชื่อมั่น" จะแก้ไขอย่างไร การประกาศ แสดงเจตนารมณ์จะเลื่อนเลือกตั้งจนไม่มีคนเชื่อถือในคำสัญญานั้นมันมีผลต่อความเชื่อมั่นทั้งหมด แล้ว ใครจะกล้ามาลงทุน EEC
ญี่ปุ่นก็เซย์ Good Bye รถไฟความเร็วสูงไปแล้ว จีนก็ไม่เคยขยับจริงๆ สักที มีแต่ตั้งท่า ยุโรป/อเมริกาไม่ต้องพูดถึง
แล้วเราจะให้ใครมาลงทุน EEC ครับ เห็นตั้งเป้าหมายอุตสาหกรรม Hitech มากมายหลายสาขา ฟังแล้วเคลิ้มว่ามันจะเป็นจริง แต่ "ใคร" จะมาลงทุนในอุตสหกรรมที่เขียนเป้าเอาไว้ครับ
ปล. ผมยอมรับว่า สุวิทย์ เมษิณษีย์ นี่เขาเก่งทำ Graphic ในการ Present แนวคิดของพวกเขา ทำได้ดี แต่การประชาสัมพันธ์ก็คือประชาสัมพันธ์ หากปัจจัยมหภาคมันไปไม่ได้ คุณไม่ได้อยู่ในยุคทักษิณ ชินวัตร ที่นักลงทุนให้ความเชื่อถือ มันก็ไม่สามารถบรรลุเป้าประสงค์ได้
Thai Ariyaskun
...
Niwech Ng ไม่ต้องถามถึงนักลงทุนจากต่างประเทศ หรอก ถามแค่นักลงทุนไทยนี่แหละครับ โดยเฉพาะ พวกติ่ง สลิ่มและ คสช. ว่าทุกวันนี้ กล้าควักกระเป๋าลงทุน ในประเทศหรือไม่ ผมเห็น แห่กันไปลงทุนรอบๆ. แถวประเทศเพื่อนบ้านเรากันเป็นแถว