วันจันทร์, มีนาคม 06, 2560
ตื่นเถิดพระคุณเจ้า.! พรบ.ยึดทรัพย์วัด ทำหมันศาสนา อยู่หน้าประตูวัดแล้วครับท่าน
ตื่นเถิดพระคุณเจ้า.! พรบ.ยึดทรัพย์วัด ทำหมันศาสนา อยู่หน้าประตูวัดแล้วครับท่าน
เวป Talk Secret Blogspot
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เตรียมยื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ศ.พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสมเด็จพระสังฆราช เพื่อเสนอร่าง
พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดการทรัพย์สินของวัดและพระภิกษุ
และร่าง พ.ร.บ. สภาพุทธบริษัท
โดยมีสาระสำคัญคือ
1. วัดที่เข้าเกณฑ์จะต้องมีระบบการจัดทำบัญชีทรัพย์สิน มีผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาตรับรอง
แล้วส่งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยแพร่ให้พุทธศาสนิกชนรับทราบ
2. ทรัพย์สินของวัดหมายความรวมถึงทรัพย์สินของมูลนิธิ หรือองค์การที่จัดตั้งขึ้นโดยวัดหรือเกี่ยวเนื่องกับวัด ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
3. ส่วนทรัพย์สินของพระภิกษุที่ได้มาระหว่างที่อยู่ในสมณเพศ ให้ถือเป็นทรัพย์สินของวัดที่พระภิกษุนั้นสังกัดอยู่
4. ให้พระภิกษุใช้จ่ายทรัพย์สินดังกล่าวได้ตามความจำเป็น เพื่อการดำรงสมณเพศเพื่อประโยชน์แก่วัด
และศาสนกิจเท่านั้น
5. พระภิกษุจะต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินที่อยู่ในการดูแลของตน ให้คณะกรรมการจัดการทรัพย์สินของวัด
ที่สังกัดอยู่ทราบทุกปี
ส่วนสาระสำคัญของร่าง
พ.ร.บ.สภาพุทธบริษัทแห่งชาติ
คือ การตั้งองค์กรขึ้นมาทำหน้าที่ตีความพระธรรมวินัย ให้เป็นไปตามหลักธรรมวินัย รวมทั้งรวบรวมและเผยแพร่พระธรรมวินัย ที่เป็นคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ถูกต้องให้แก่พุทธศาสนิกชน
สภาพุทธบริษัท ประกอบด้วยสมาชิกจำนวนไม่เกิน 36 คน ซึ่งมาจากการแต่งตั้งและสรรหา.!
ถ้าหาก สนช.เห็นด้วย
กับร่างที่ว่านี้..
สภาพวัด และฐานะของพระสงฆ์ จะเปลี่ยนไปวัดจะร้างมากขึ้นพระสงฆ์ที่น้อยอยู่แล้ว จะน้อยลงอีก และน่าห่วงว่า พ.ร.บ.นี้จะขัดพระราชศรัทธา หลักการและเหตุผลที่นายไพบูลย์ อ้างในการเสนอร่าง พ.ร.บ.นี้ ฟังได้ในเหตุที่เกิดในปัจจุบัน และกับบางวัดในเมืองหลวง
แต่ถ้าไปดูชนบท พ.ร.บ.แบบไหนก็ไม่มีความหมาย บางจังหวัดในภาคเหนือต้องให้สามเณรมาเป็นสมภาร (ชั่วคราว) ญาติโยมต้องผลัดเปลี่ยนกันไปนอนเฝ้าวัดเพราะไม่มีใครบวช
ส่วนที่ว่าพระโอนทรัพย์สินที่ได้มาในขณะที่บวชอยู่ในสมณเพศ จำหน่ายหรือทำพินัยกรรมยกให้บุคคลอื่นได้มีสักกี่ราย เห็นแต่สมภารบางวัดขนไปแจกจ่ายวัดและโรงเรียนในชนบท ถามสมภารวัดหลวงพ่อโอภาสี บางมดดูก็ได้
ถ้าพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นี้แบบชาวบ้าน มองไม่เห็นว่า พ.ร.บ.จะมีคุณต่อพระศาสนาและพระสงฆ์ ดูง่ายๆ ถ้า พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับ งบประมาณที่รัฐบาลจัดถวายสมเด็จพระสังฆราชปีละหลายสิบล้านบาทจะหมดไป
เจ้าอาวาสที่เป็นพระสังฆาธิการ และเป็นเจ้าพนักงานโดยตำแหน่งหน้าที่ตั้งแต่พระหลวงตาจนถึงสมเด็จพระสังฆราชที่ได้ รับพระราชทานนิตยภัต ที่หลวงจัดถวายทุกเดือนซึ่งตกทอดมาหลายรัชกาลแล้วจะต้องหยุด เพราะ พ.ร.บ.นี้ ไม่ส่งเสริมพระราชศรัทธาของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อสถาบันพระสงฆ์
เมื่อพระหนุ่มเณรน้อยที่เรียนบาลีเก่งได้รับพระราชทานทุนเล่าเรียนหลวงก็รับไม่ได้ เพราะขัดกับ พ.ร.บ.ฉบับนี้
น่าสงสารวัดสวยๆ งามๆ ที่โบราณสร้างไว้ จะไม่มีพระอยู่วัฒนธรรม ประเพณีชาวพุทธค่อยๆ หดหายไป สังคมที่เกื้อกูลกันระหว่างพระและชาวบ้าน (คือ ทำบุญตักบาตร ทอดกฐินผ้าป่า) ก็หมดเพราะพระสงฆ์ไม่มีเฝ้าวัด
ส่วนการบูรณปฏิสังขรณ์วัด (ที่ยังมีพระอยู่) อาจหยุดชะงัก เพราะสมภารที่รับภาระบริหารวัดหมดอำนาจ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่กรรมการที่จะตั้งขึ้นมา วัดอาจทรุดโทรมมากขึ้น
ขอสรุปว่า พ.ร.บ.ที่ไพบูลย์เสนอมาไม่ส่งเสริมพระราชศรัทธา ทำลายวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของชาวพุทธอย่างแน่นอน เอวังฯ
โดย สมาน สุคโต
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.radioparliament.net
#USdhamma