วันเสาร์, มีนาคม 25, 2560

การเก็บเงินภาษีที่ละม้ายคล้ายการยึดทรัพย์





รู้หละ ทำไมสรรพากรไม่ตะแบงดันจะเก็บภาษีย้อนหลังชินคอร์ปให้ได้ เหมือนที่ สตง. กระสันต์ และ ปชป. ช่วยดัน

สรรพากรเขารู้กันกับสรรพสามิต ต้องฟังอธิบดีสรรพสามิตพูดวันนี้ (๒๕ มีนา) จึงถึงบางอ้อ ว่า “การเก็บภาษีในช่วง ๖ เดือนแรกของปีงบประมาณ ๒๕๖๐ เกินกว่าเป้า ๑,๐๐๐ ล้านบาท

เฉพาะในเดือน มี.ค. เพียงเดือนเดียวก็จัดเก็บรายได้เกินกว่าเป้าหมายแล้ว ๔,๐๐๐ ล้านบาท เพราะการบริโภคเบียร์และเครื่องดื่มต่างๆ ขยายตัวตามฤดูกาล”


(http://www.posttoday.com/biz/gov/486853)

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ แจ้งว่ากฎหมายสรรพสามิตใหม่ประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อ ๒๐ มีนา และจะมีผลบังคับตอนกลางเดือนกันยานี้ “เป็นการรวบรวมกฎหมาย ๗ ฉบับเข้าไว้ด้วยกัน” ว่าด้วยพิกัดอัตราทั้งยาสูบและสุรา รวมทั้งการจัดสรรเงิน ‘ภาษีบาป’ สรรพสามิตทั้งสองอย่าง

ทั่นอธิบดีชี้แจงด้วยว่าอัตราภาษีใหม่กำหนดเพดานไว้สูงล่วงหน้าสำหรับอีก ๒๐ ปีข้างหน้า แต่ว่าอัตราจริงที่ใช้ในปัจจุบันจะเป็นไปตามกฎหมายลูกที่จะต้องออกใหม่อีก ๘๐ ฉบับ แต่ข้อสำคัญ

“จะอ้างอิงจากภาระภาษีที่จัดเก็บอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการ”

(http://money.sanook.com/472489/)

นานๆ จะได้ยินคนของรัฐบาล คสช. พูดเข้าหู ถูกคอสักครั้งอย่างนี้ แม้จะบอกว่า ภาษีบุหรี่จัดเก็บในอัตราเดิมซึ่งสูงสุดอยู่แล้วที่ ๙๐% ส่วน “กรณีสินค้าสุรา ใช้ราคาขายส่งช่วงสุดท้าย เป็นราคาขายปลีกแนะนำ”

และกำหนดเวลาในการประเมินภาษีที่ให้ไว้สองปีก็คงเดิม แต่เพิ่มเติมเป็นขยายได้อีก ๓ ปี รวมเป็น ๕ ปี

อย่างนี้เรียกว่าภาษีก้าวหน้าได้มั้ง ต่างกับ สตง. จี้แล้วจี้อีกจะให้สรรพากรเก็บย้อนหลังภาษีชินคอร์ปให้ได้ ครั้นเมื่อสรรพากรไม่ยอมเต้นตาม ก็หันไปไล่บี้นักการเมืองบ้าง อ้างว่ามี ๖๐ คนน่าจะร่ำรวยผิดปกติต้องเรียกมาขอดภาษี




นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร พาซื่อทำหนังสือถาม ปปช.ก่อน ปรากฏว่า ปปช.ตอบกลับมา ไม่มีสักคนใน ๖๐ คนที่ร่ำรวยผิดปกติ ถ้าจะหาเรื่องให้ได้ก็มีแค่ ๑๑ คนพอเข้าข่าย สตง. ถึงได้เงียบไป คงเพราะไม่เข้าเป้า

(http://thaipublica.org/2017/03/oag-5/…)

หากแต่ตัวแทนจองล้างยังไม่หมด วานนี้ (๒๕ มีนา) อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ เอาบ้าง เตะตัดแข้งฝ่ายตรงข้ามตามถนัด อ้าง

“หลักฐานใหม่ที่เป็นคำพิพากษาและคำสั่งศาลถึง ๓ ศาล คือ ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง




ที่ระบุว่าการเรียกเก็บเงินภาษีตามประมวลรัษฎากรจากการขายหุ้นนั้น ต้องเก็บแยกจากกรณีการยึดอายัดทรัพย์ ซึ่งถือเป็นคนละส่วนกันกับ ศาลภาษีอากรกลาง และศาลอาญา...

ชี้กรมสรรพากรสามารถเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปได้ ยันเป็นเงินคนละส่วนกับยึดทรัพย์”

(http://www.posttoday.com/politic/486793)

เอ้า สงสัยจะมาผิดวันเสียละมัง บางเรื่องอาจดีกว่าไม่มาถ้ามาช้า แต่นี่ไม่แค่ย้อนหลัง แต่ว่า ‘ล้าหลัง’ ค้างเติ่งเลยละ กระซิบให้หากกลัวจะตกขบวนละก็ต้องเล่นให้ถูกเรื่อง

ตอนนี้ต้องเล่นคาดเข้มขัดนิรภัย แล้วถ่ายคลิปเอง เหมือนลุงตู่