วันพฤหัสบดี, มีนาคม 30, 2560

ทายาทกระทิงแดง เลื่อนนัดอ้างอยู่อังกฤษ อสส.ยันไม่ได้ซุกสำนวน ขู่เบี้ยวรอบหน้าเจอหมายจับ ชมคลิป LIVE!!! นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวความคืบหน้าคดี 'บอส วรยุทธ' ทายาทกระทิงแดง ขับรถชนดาบตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555




https://www.facebook.com/weeranan.voicetv/videos/10210913571387243/

ooo

ทายาทกระทิงแดง เลื่อนนัดอ้างอยู่อังกฤษ อสส.ยันไม่ได้ซุกสำนวน ขู่เบี้ยวรอบหน้าเจอหมายจับ





30 มีนาคม 2560
ที่มา ข่าวสดออนไลน์

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 มีนาคม ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดแถลงข่าว ความคืบหน้าคดี นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ขับรถยนต์หรูพุ่งชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่จราจร สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 กันยายน 55 ว่าในวันนี้ทางพนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ได้แจ้งให้ผู้ต้องหามาพบพนักงานอัยการใน แต่เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้มอบอำนาจให้ทนายความมาขอเลื่อนคดีกับพนักงานอัยการ โดย อ้างว่าติดภารกิจที่ประเทศอังกฤษ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา กรุงเทพใต้ ได้อนุญาตให้เลื่อนไปวันที่ 27 เมษายน 60

โดยนายประยุทธ เล่าที่มาของคดีนี้ว่า เดิมคดีนี้ นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ขณะนั้น ได้เคยมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาแล้ว หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง ซึ่งครั้งหลังสุดก็ได้ร้องขอความเป็นธรรมโดยให้สอบพยานอีกหลายปาก แต่พนักงานอัยการได้สั่งยุติหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาและแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งฟ้องเดิมที่สั่งฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและหลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือตามสมควรและแจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที พร้อมกับมีหนังสือแจ้งให้นายวรยุทธ มาพบพนักงานอัยการ เพื่อทราบคำสั่งและส่งฟ้องในวันที่ 25 เมษายน 59





ปรากฏว่าเมื่อพนักงานอัยการได้แจ้งไปยังผู้ต้องหาแล้ว วันที่ 12 เมษายน 59 ผู้ต้องหาได้มอบอำนาจให้ทนายความมายื่นหนังสือกับพนักงานอัยการขอเลื่อนคดี อ้างว่าติดธุระอยู่ต่างประเทศ พนักงานอัยการผู้รับผิดชอบการดำเนินคดีจึงอนุญาตให้เลื่อนไปวันที่ 25 พฤษภาคม 59 พร้อมกับกำชับให้ผู้ต้องหามาพบพนักงานอัยการตามกำหนดนัด แต่พอครั้นถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2559 ปรากฏว่าผู้ต้องหาไม่มาพบพนักงานอัยการ พนักงานอัยการจึงมีหนังสือแจ้งไปที่พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้ไปดำเนินการติดตามเอาตัวผู้ต้องหาเพื่อส่งฟ้องต่อศาล

พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อก็ได้แจ้งผลการติดตามตัวผู้ต้องหาว่า ผู้ต้องหาได้ขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานอัยการออกไปก่อนเนื่องจากได้ไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม ปากผู้ชำนาญการพิเศษในประเด็นเรื่องความเร็วของรถ


In this Nov. 26, 2016, photo provided by XPB Images, Vorayuth “Boss” Yoovidhya, second left, whose grandfather co-founded energy drink company Red Bull, walks with his mother Daranee, second right, at the Formula 1 Grand Prix in Abu Dhabi. Vorayuth is accused of killing a Thai police officer in a hit-and-run in 2012, yet he still has not appeared to face charges. (XPB Images via AP)


ซึ่งทางพนักงานอัยการก็ได้พิจารณา ยืนยันให้พนักงานสอบสวนไปติดตามตัวผู้ต้องหามาส่งให้พนักงานอัยการเพื่อฟ้องต่อศาลภายในวันที่ 24 มิถุนายน 59 แต่ภายหลังผู้ต้องหามีหนังสือเลื่อนการเข้าพบ โดยอ้างว่าอยู่ระหว่างตนร้องขอความเป็นธรรมไปที่ สนช.เช่นเดิม ซึ่งพนักงานอัยการยังคงยืนยันให้ผู้ต้องหามาพบเพื่อส่งฟ้องต่อศาล และมีหนังสือลงวันที่ 12 ตุลาคม 59 แจ้งไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้นำตัวผู้ต้องหามาพบแต่ตัวผู้ต้องหาก็ยังอ้างเหตุเดิมจน วันที่ 28 พฤศจิกายน 59 ผู้ต้องหามีหนังสือถึงพนักงานอัยการแจ้งขอเลื่อนคดีอ้างว่าติดภารกิจอยู่ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรต

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 59 คณะกรรมาธิการการกฎหมาย ฯ สนช.ได้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมาให้พนักงานอัยการ เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ซึ่งในวันเดียวกันผู้ต้องหาก็ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เพื่อให้สอบปากคำพยานผู้ชำนาญการพิเศษโดยอ้างว่าตนเองไม่ได้ ขับรถเร็วตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบการดำเนินคดีในรูปของคณะทำงานได้สั่งสอบสวนเพิ่มเติม ตามที่ผู้ต้องหาร้องขอ ซึ่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมพนักงานอัยการล่าสุดพนักงานอัยการได้รับผลการสอบสวนเพิ่มเติมครบถ้วนแล้ว จนนัดตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องต่อศาลในวันที่ 27 เมษายน นี้



In this June 30, 2013, photo provided by XPB Images, Vorayuth “Boss” Yoovidhya walks at the British Formula 1 Grand Prix in Silverstone, England. Vorayuth is accused of killing a Thai police officer in a hit-and-run in 2012, yet he still has not appeared to face charges. (XPB Images via AP)


ผู้สื่อข่าวถามเหตุการณ์ที่ผ่านมานาน 5 ปี แล้วการดำเนินคดีกับกรณีนี้ยังไม่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาฟ้องต่อศาล เป็นการประวิงเวลาหรือไม่ นายประยุทธว่า เนื่องจากมีการขอความเป็นธรรมหลายครั้ง แต่การที่จะร้องขอความเป็นธรรมนั้นอัยการก็จะต้องดูเหตุที่อ้างว่าเลื่อนลอยหรือไม่ กรณีนี้มีการร้องต่อคณะกรรมาธิการการฯ สนช. ถ้าเราไม่สอบเพิ่มเติมให้ ก็อาจถูกกล่าวหาว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่ ขณะนี้ประเด็นที่ นาย วรยุทธได้ร้องขอความเป็นธรรมมาก่อนหน้านี้ ทางอัยการก็ได้พิจารณาสอบเพิ่ม ตามที่ร้องขอไม่ว่าจะเป็นเรื่องความประเด็นเรื่องความเร็วของรถ ที่ไปร้องต่อคณะกรรมาธิการฯ สนช. เรียกได้ว่าคดีใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว จนปัจจุบันนี้อัยการก็ยังคงมีคำสั่งให้ฟ้อง นาย วรยุทธ โดยในวันที่ 27 เมษายน ที่อัยการนัดให้ผู้ต้องหาพบเพื่อส่งตัวฟ้อง นั้นถ้ามีการอ้างเหตุผลเลื่อนลอย ก็จะประสานพนักงานสอบสวนออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี โดยจะไม่สามารถอ้างเหตุผลเดิมได้อีกแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จากคดีนี้ที่มีการดำเนินคดีค่อนข้างล่าช้ากระทบต่อภาพลักษณ์ต่ออัยการสูงสุดหรือไม่ และข้อสงสัยที่ว่าอัยการที่ทำสำนวนนี้ตั้งแต่ต้นถูกโยกย้ายหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุดต้องยอมรับการตรวจสอบ แต่ตามที่ตนได้ไล่เรียงขั้นตอนต่างๆ ก็จะเห็นได้ว่าอัยการไม่ได้เพิกเฉย ซุกสำนวนแต่อย่างใด โดยเรายึดหลักว่าความล่าช้ากระทบต่อความยุติธรรม แต่เหตุที่คดีนี้ล่าช้าเพราะว่าผู้ต้องหามีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาหลายครั้งอัยการก็ต้องรอสอบให้สิ้นกระแสความ แต่ถ้าไม่มีประเด็นเพิ่มเข้ามาอีกก็น่าจะยุติได้ ตนคิดว่ายิ่งผู้ต้องหานามสกุลดัง กลับยิ่งเป็นที่จับตามองของสังคมมากกว่า คิดว่าเรื่องนี้สังคมจะเข้าใจ ส่วนเรื่องที่ย้ายอัยการนั้น ยืนยันว่าไม่มีย้ายอัยการเพราะทำคดีนี้แน่นอน ซึ่งโดยปกติก็มีการโยกย้ายอัยการตามวาระทุกปี

เมื่อถามว่าคดีของ นาย วรยุทธที่จะทยอยหมดอายุความจะมีผลกระทบต่อการสืบเจตนาการกระทำผิดในชั้นศาลหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า แม้ข้อบางข้อหาจะหมดอายุความไปแล้ว แต่ในการการสืบพยานในชั้นศาลก็จะมีการนำสืบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น การหมดอายุความในบางข้อหาไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดี ซึ่งคดีนี้ยังมีเหลือ 2 ข้อหาคือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอายุความ15 ปี และจะหมดอายุความในเดือนกันปี 70 ส่วนคดีไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหายและไม่แจ้งต่อเจ้าหนักงานในทันทีชนแล้วหนีคดีนี้อายุความ 5 ปี จะขาดอายุความภายในวันที่ 3 กันยายน 60 นี้ ซึ่งทางพนักงานอัยการจะกำชับให้พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องได้ก่อนหมดอายุความ

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ทำไม่ไม่เคยประสานขอให้ตำรวจออกหมายจับ นายประยุทธ กล่าวว่า เรื่องที่นายวรยุทธไม่มาพบอัยการก็มีการอ้างเหตุ และร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งบางเรื่องที่ร้องมามันมีเหตุผลให้ต้องสอบสวนบางเรื่องแต่ขณะนี้เมื่อมีการสอบเสร็จสิ้นแล้วหากยังไม่มาทางอัยการก็จะประสานตำรวจเพื่อออกหมายจับเพื่อส่งตัวผู้ต้องหา ส่วนในกรณีที่ผู้ต้องหายังอยู่ต่างประเทศและจะไม่มาพบอัยการนั้นหากมีการออกหมายจับก็จะจะสามารถถึงขั้นตอนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งเรามีอัยการสำนักงานต่างประเทศคอยดูแลเรื่องนี้อยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีนี้ หลังจากเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนมีการแจ้งข้อหา นายวรยุทธสรุปข้อหาที่เกี่ยวข้องในคดี 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (ม.291 จำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท อายุความ 15 ปี)

2.ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหาย และไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานในทันที ชนแล้วหนี (พรบ.จราจรทางบก ม.78 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับ 5,000-20,000 บาท อายุความ 5 ปี )จะขาดอายุความ 3 กันยายน 60 สั่งฟ้อง

3.ขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

4.ขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด(พรบ.จราจรทางบก ฯ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท อายุความ 1 ปี)

5.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย (พรบ.จราจรทางบกฯ ม.43(4)) ปรับไม่เกิน 1,000 บาท อายุความ 1 ปี

ซึ่งขณะนี้ข้อหาที่ยังไม่หมดอายุความมีเพียง 2 ข้อหา คือข้อหาขับรถประมาทเป็นสาเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและไม่หยุดรถช่วยเหลือส่วน อีก 3 ข้อหานั้นมีการหมดอายุความและพนักงานสอบสวนมีความเห็นไม่ฟ้องในข้อหาเมาสุรา