วันพุธ, มีนาคม 29, 2560

สนช. เกือบวงแตก เจอ "ปึ้ง"ลองของ สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ สมัยนายกฯปู ต้องไปแถลงปิดสำนวนปมถูกถอดถอน เพราะไปออกpassport ให้อดีตนายกฯทักษิณ แถลงไป แถลงไป ท่านสมาชิกก็บางตาเหลือเกิน ขอประธานนับองค์ประชุม




คลิปมาแล้ว!!!

นาที "เสี่ยปึ้ง" เสนอนับองค์ประชุม สนช. หลังแถลงปิดคดีปมออกพาสปอร์ตให้ทักษิณ แต่สมาชิกโหรงเหรง

ย้ำเป็นส่วนสำคัญอาจขัดรัฐธรรมนูญได้ จึงขอให้ประธานวินิจฉัย

ถ้าภาษาไทบ้าน ต้องบอกว่า "แสบ" มาก

https://www.facebook.com/tana.wongpan/posts/10209086896636632?pnref=story

...

สนช. เกือบวงแตก เจอ "ปึ้ง"ลองของ

รายงานจากสนามข่าววันนี้ว่า คุณสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล หรือ เสี่ยปึ้ง อดีต รมว.ต่างประเทศ สมัยนายกฯปู ต้องไปแถลงปิดสำนวนปมถูกถอดถอน เพราะไปออกpassport ให้อดีตนายกฯทักษิณ

แถลงไป แถลงไป ท่านสมาชิกก็บางตาเหลือเกิน อย่ากระนั้นเลย จึงเสนอพรวดขึ้นมา ขอให้ประธานนับองค์ประชุมหน่อยว่า ทำไมน้อยกันเยี่ยงนี้

เดือดร้อนสนช.สายเขาตั้งมา ต้องลุกขึ้นโต้จ้าละหวั่น ว่า ปึ้ง ไม่มีสิทธิเสนอขอนับองค์ประชุม (คิดว่าตัวแกเองก็รู้) สร้างบรรยากาศ สภาคึกคักขึ้นมาเชียว ท่านสนช.คงไม่ชินเกม นักเลือกตั้ง ก็แหม เขาอยู่กันมาดีๆ ครบๆ ทุกที เสี่ยปึ้งมาทีเดียว ป่วนไปเป็นชม.

มีรายงานเพิ่มเติมว่า : หลังจากซัดกันไปมา 1 ชม. ก็มีสมาชิกเข้าห้องครบองค์ประชุม

ที่มา FB


29 มี.ค. 60
ที่มา TNN

ปึ้งทำป่วน!ขอสนช.สอบองค์ประชุมระหว่างแถลงปิดคดีถอดถอน กรณีออกหนังสือเดินให้ทักษิณโดยมิชอบ-สมาชิกรุมประท้วงคนนอกไม่มีสิทธิ์ขอสอบองค์ประชุม

วันนี้(29มี.ค.60)การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. เป็นประธานการประชุม เพื่อดำเนินกระบวนการถอดถอน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.)ออกจากตำแหน่ง กรณีออกหนังสือเดินทางชนิดธรรมดาให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโดยมิชอบ โดยในวันนี้เป็นขั้นตอนการแถลงปิดสำนวนคดีด้วยวาจาระหว่างคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย

นางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในฐานะผู้กล่าวหา ยืนยันว่านายสุรพงษ์ ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ไม่เป็นไปตามระเบียบของกระทรวง จากการยกเลิกคำสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายทักษิณ และการจะออกหนังสือเดินทางให้บุคคลใดนั้น จะต้องปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงอย่างเคร่งครัด และต้องตรวจสอบว่าบุคคลนั้น อยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดี หรือห้ามเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ แต่นายสุรพงษ์ กลับออกหนังสือเดินทางให้ นายทักษิณใหม่แล้วเสร็จภายในวันเดียว ทั้ง ๆ ที่นายทักษิณ ถูกศาลสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่ปี 2551 และถูกดำเนินคดีอีกหลายคดี จึงแสดงให้เห็นว่า เป็นการเร่งรัดดำเนินการ ถือว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่

จากนั้นนายสุรพงษ์ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา ได้แถลงปิดสำนวนคดีโดยยืนยันว่า บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา จากป.ป.ช. เป็นเอกสารเท็จ เพราะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ร่วมกันแจ้งข้อกล่าวหาตน มีจำนวน 6 คน แต่ในบันทึกข้อกล่าวหา กลับมีกรรมการร่วมลงชื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 3 คน

นอกจากนั้นในระหว่างการแถลงปิดสำนวน นายสุรพงษ์ ได้ขอให้นายสุรชัย ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้น ตรวจสอบองค์ประชุม เนื่องจากเห็นว่าสมาชิก สนช. อยู่ในห้องประชุมไม่น่าจะถึง 50 คน ซึ่งอาจขัดต่อข้อบังคับการประชุมของ สนช. จนอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวด้วย

นายสุรชัย จึงได้กดสัญญาณเรียกสมาชิกมาแสดงตน จึงทำให้สมาชิกหลายคนอาทิ นายสมชาย แสวงการ ,นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ และนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ท้วงติงว่าไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามที่นายสุรพงษ์ร้องขอเพราะนายสุรพงษ์ ไม่ได้เป็นสนช. อีกทั้งยังมีสมาชิกบางส่วนติดประชุมอื่นๆ จึงไม่ได้ร่วมการประชุมครั้งนี้ ทำให้การแถลงปิดคดีของนายสุรพงษ์ต้องชะงักลง และนายสุรชัย ได้เชิญตัว นายสุรพงษ์ ออกจากห้องประชุมเป็นการชั่วคราว เพื่อหารือร่วมกับสมาชิกเป็นการภายใน

ทั้งนี้นายสุรชัย ได้ขออภัยกับสมาชิกภายในห้องประชุม ที่อาจไม่ถูกใจสมาชิกพร้อมชี้แจงการทำหน้าที่ของตนว่า ได้คำนึงถึงเกียรติ และศักดิ์ศรีของสนช. เพราะเป็นการให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาก่อนที่ สนช. จะตัดสินใจลงมติว่าจะถอดถอนหรือไม่ในวันพรุ่งนี้ จนทำให้ที่ประชุมต้องลงมติ เพื่อหาข้อยุติว่าบุคคลภายนอก สามารถร้องขอให้ประธานในที่ประชุม ตรวจสอบองค์ประชุมได้หรือไม่

ซึ่งที่สุดแล้วที่ประชุมลงมติเอกฉันท์ด้วยคะแนน 149 เสียงเห็นด้วย ไม่ให้ผู้ที่ไม่เป็นสมาชิก สนช. มีสิทธิขอให้ตรวจสอบองค์ประชุม ก่อนที่จะเชิญตัวนายสุรพงษ์ เข้ามายังห้องประชุม เพื่อดำเนินกระบวนการต่อไป




ooo