โล่งอกไปทีเมื่อศึก ม.๔๔ ปิดล้อมธรรมกายยับยั้งไปได้ หลังจากค้นแล้วค้นอีก ห้ามเข้าห้ามออก จนรำๆ จะรุนแรงหลายครั้ง
ล่าสุดก่อนดีเอสไอสั่งหยุด เมื่อวันก่อนเกิดชุลมุนผลักดันกันระหว่างศิษย์ธรรมกายกับทหารที่ปีนขึ้นไปบนสะพานแสงตะวันประตูสี่ หลังจากมีก้อนหินหล่นลงไปโดนรถทหาร ดีแต่ว่าผู้พันที่คุมกำลัง สั่งไอ้เณรถอยเสียก่อน
(https://www.facebook.com/iDream.Ao/videos/1226416900809112/)
เมื่อวานมีการตรวจค้นอย่างละเอียดอีกครั้งทั้งโซนเอโซนบีและอาคารบุญรักษา ก็ยังไม่พบพระธัมมชโยแต่อย่างใดเช่นเดิม ดีเอสไอจึงประกาศยุติการค้นและเปิดให้พระสงฆ์และบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ติดอยู่ฝั่งตรงข้ามจำนวนมากกลับเข้าบริเวณวัดได้
วันนี้ (๑๑ มีนา) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งว่า “บริเวณวัดพระธรรมกายนั้นยืนยันว่ายังไม่มีการยกเลิกประกาศพื้นที่ควบคุมตาม ม.๔๔ แต่ได้มีการลดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลและตั้งด่านลง และอนุญาตให้ศิษยานุศิษย์และพระเข้าไปภายในวัดได้”
สำหรับพระธัมมชโย ให้ถือว่าเป็นผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับอายุความ ๑๕ ปี เจอเมื่อไรก็จับเมื่อนั้น ขณะนี้มีเบาะแสแล้วว่าหลบซ่อนอยู่ในสถานที่เครือข่ายวัดพระธรรมกายภายในประเทศไทย กำลังขออนุมัติหมายค้นจากศาลโดยเร็ว
(http://www.nationtv.tv/main/content/social/378538057/)
เมื่อวานนี้บริเวณตลาดกลางคลองหลวง ปทุมธานี ชาวบ้านและญาติโยมพากันเก็บเต๊นและข้าวของ รื้อหลังคาสแลนเขียว ทำความสะอาดเคลียร์พื้นที่บริเวณประตู ๕ และ ๖
จนตกค่ำเมื่อเจ้าหน้าที่อนุญาตฝูงชนพากันทะลักหลั่งไหลกลับเข้าไปในบริเวณวัดพระธรรมกายอย่างคึกคัก
(http://www.js100.com/en/site/news/view/38002)
การนี้เห็นทีต้องให้เครดิตบิ๊กตือที่ออกมายืนกรานเมื่อวันก่อน เรื่องที่ว่า “ทหารเขาไม่เผชิญด้วยหรอก” ต้องดูคลิปว้อยซ์ทีวี จะเห็นทั่นรองฯ ฝ่ายกลาโหม ตั้งอกตั้งใจตอบนักข่าว
“ก็เห็นอยู่แล้ว” ทั่นว่า “ตะหานเขายกมือไหว้แก๊กๆ อยู่เนี่ย สวดมนต์ก็สวดด้วยกัน แล้วจะมาเผชิญอะไรอีกล่ะ”
(https://www.facebook.com/VoiceTVonline/videos/10156245129884848/?hc_ref=NEWSFEED)
ส่วนปฏิบัติการจองเวรจองกรรมกับพระธัมมชโยยังไม่หมด นอกจากเจอเมื่อไหร่จับเมื่อนั้นอย่างที่อธิบดี (ไม่เลว) เอสไอบอกไว้แล้ว ระหว่างนี้กระบวนการ ‘จับสึกกลางอากาศ’ กำลังเข้าไคลใกล้งอม
วานนี้ (๑๐ มีนา) “ที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติใช้กฎ (มส.ฉบับที่) ๒๑ เสนอสึกพระธัมมชโย แต่ยอมรับต้องใช้กระบวนการตามขั้นตอนคณะสงฆ์”
พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงว่า ที่ประชุมมีมติรับทราบเรื่องเร่งด่วนนอกระเบียบวาระ แต่ว่า “ตอนนี้เป็นเรื่องดุลยพินิจที่ต้องทำตามกระบวนการ ทำให้ไม่สามารถกำหนดเวลาได้ว่าจะสึกเมื่อไหร่”
(https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=410773865943479&id=100010326072517)
ทั้งนี้การลงมติสึกพระธัมมชโยโดย มส. พิจารณาจากข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอ สตช. และ ปปง. ชงสำนวนฟ้องร้องไว้ทั้งสิ้น ๓๔๖ คดี มีการออกหมายจับแล้ว ๒๔ หมาย เป็นของพระธัมมชโยองค์เดียว ๑๖ หมาย
มีความผิดหลากหลายรวมทั้งบุรุกป่า ตาม พรบ.ป่าไม้ กฎหมายที่ดิน พรบ.ควบคุมอาคาร ความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ความผิดอาญาหลายสถาน เช่นทำให้เสียทรัพย์ ยาเสพติด ยุทธภัณฑ์ พาอาวุธมีดไปในเมือง ฯลฯ และขาดไม่ได้ความผิดร้ายแรงฐานขัดคำสั่ง คสช.
(http://thaipublica.org/2017/03/credit-unions-klongchan-116/)
ต่อไปไม่รู้จะมีใครชงให้ ปปช. ตีความฟัน ‘ยึดทรัพย์’ ด้วยหรือไม่ โทษฐานไม่ปฏิบัติตาม พรบ.การรับมรดกและการให้สินทรัพย์โดยเสน่หา ๒๕๕๘
เห็นว่าปีที่ผ่านมา พรบ.นี้ไม่สามารถเก็บภาษีประเภทนี้ได้เลย นี่เป็นโอกาสดีได้ฟันจากพระธัมมชโยและวัดธรรมกาย ใครๆ ก็รู้วัดนี้รวย
แถมตรวจสอบดูแล้ว พระธัมมชโยไม่เข้าข่ายข้อยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีมรดก ตามกฎกระทรวงการคลังที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๐ เรื่อง กำหนดประเภทและรายชื่อบุคคลที่ได้รับยกเว้นภาษีการรับมรดก
‘ควันหลง’ สถานการณ์ผ่อนคลายวัดพระธรรมกาย ท้ายนี้ ตามที่ฮือฮากันมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ดังที่ ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ กูรูหุ้นกำลังฮ้อตโพสต์ไว้เมื่อวันก่อน
“ที่ลือๆกันมาก่อนหน้านี้ว่าหุ้นไทยตกอยู่ที่เดียวในโลก เพราะพอร์ตใหญ่ธรรมกายขายผ่องออกไปก่อนจะโดนเล่นงาน...ท่าทางจะพอมีเค้าตามข่าวร่ำลือ”
“พวกตลาดหุ้นเขาลือกันในห้องค้ามาหลายวัน ว่าธรรมกายขายหุ้นเพราะข่าววงในว่าโดนเช็กบิลแน่ๆ ครับ เลยขายออกมาก่อน ตลาดหุ้นไทยเลยลงมาอยู่ที่เดียว ในช่วงที่ผ่านมาราวๆ นับเดือน”
ถ้าจะเดินตามลายแทงที่ณัฐวุฒิให้ไว้ไปดูบทความใน ‘ข่าวหุ้น’ โดย วิษณุ โชลิตกุล (http://www.kaohoon.com/content/138183) สวนกระแสว่า
“ข้ออ้างเรื่องราคาหุ้นบางตัวที่ตกหนักเพราะถูกโยงกับวัดพระธรรมกาย ถือเป็นข้ออ้างที่ไร้สาระ...การร่วงลงแรงๆ จากปัจจัยที่ไร้เหตุผล น่าจะเป็นโอกาสของการซื้อมากกว่าการขาย”
ผู้เขียนเขาแนะตามตำนาน ๒๐๐ ปี “ให้เข้าซื้อหุ้นเมื่อเลือดนองพื้นถนน และขายเมื่อเสียงแตรประกาศชัยชนะดังขึ้น”
แสดงว่า หุ้นวัดพระธรรมกาย “ที่เล่าลือกันเพื่อเอามาทุบราคา จะมีโอกาศพลิกกลับมาแรงกว่ารายอื่นๆ” ได้จริงเหมือนกัน
มิน่า พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ หนึ่งในหัวหอกฝ่ายเกลียดธรรมกายถึงได้บ่นลั่นบนเฟชบุ๊ค ว่าเซ็งจริงๆ จน “ต้องไปปรับทัศนคติตัวเองก่อน ให้จิตเข้มแข็งขึ้น” ด้วยการไปเที่ยวมาเก๊า เขาบอกว่า
“ในทีสุดธรรมกายก็ประสบความสำเร็จในการทำลายความเชื่อถือของประชาชนที่มีต่อ ดีเอสไอ และ รมว. ยธ. ลงหมดอย่างสิ้นเชิง
และอาจลามมาถึงรัฐบาลได้ไม่ยากนัก”
