วันอังคาร, กรกฎาคม 12, 2559

เตือนรับความเสี่ยงพร้อมเพย์





ที่มา เวป ครอบครัวข่าว 3


เสียงสะท้อนความสงสัย และความไม่มั่นใจของประชาชนเกี่ยวกับบริการการเงินรูปแบบใหม่ที่เรียกกันว่า “พร้อมเพย์” ที่แม้จะยังไม่เข้าใจและยังไม่มั่นใจในการใช้งาน แต่ก็พร้อมจะเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะนำมาซึ่งบริการทางการเงินที่สะดวกสบายมากขึ้น

การใช้บริการรับโอนเงินผ่านหมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือ หมายเลขบัตรประชาชน ที่เรียกกันว่า พร้อมเพย์ แม้ว่าจะมีความสะดวกสบายและมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าปกติ แต่ก็มีสิ่งสำคัญที่ต้องผู้ใช้งานต้องให้ความสนใจ นั่นก็คือความเสี่ยงที่จะเกิดจากการใช้งานระบบนี้นั่นเอง

พร้อมเพย์เป็นบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นในเมืองไทย ทำให้หลายคนมีความกังวลถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งจากความผิดพลาดของผู้ใช้งานเอง หรือ เป็นความเสี่ยงที่อาจเกิดจากกลุ่มมิจฉาชีพออนไลน์ หรือกลุ่มแฮกเกอร์ ที่หากเกิดปัญหาขึ้นแล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ และที่สำคัญ ข้อมูลที่ใช้ในการลงทะเบียนพร้อมเพย์ ถือเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญและสามารถใช้ในการยืนยันตัวตนของเจ้าของบัญชีได้ ซึ่งหากข้อมูลรั่วไหลอะไรจะเกิดขึ้น

ดร.ปริญญา หอมเอนก ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัทเอซิสโปรเฟสชั่นแนล เซนเตอร์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ บอกว่า สิ่งสำคัญที่ทั้งธนาคารและผู้ใช้งานต้องตระหนักเพื่อให้การใช้งานระบบพร้อมเพย์ เป็นไปด้วยความพร้อมจริง ๆ มี 3 เรื่อง คือ การบริหารความเสี่ยงของธนาคาร ที่ต้องดูแลความปลอดภัยในการใช้งานของประชาชนมากขึ้น การแสดงความรับผิดชอบหากมีความเสียหายจากความผิดพลาดระหว่างการใช้งานระบบ และสุดท้ายคือ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งาน

ดร.ปริญญา แนะนำว่า ผู้ใช้งานต้องชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ที่จะได้รับ กับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งหากรับความเสี่ยงได้ การใช้งานระบบพร้อมเพย์ ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ แต่ทั้งนี้ผู้ใช้งานก็ควรดูแลข้อมูลของตัวเองในโทรศัพท์มือถือ รวมถึงกำหนดวงเงินที่จะใช้งานในระบบพร้อมเพย์ให้อยู่ในวงเงินจำกัด เพื่อลดความเสี่ยง

การทำธุรกรรมทางการเงินบนโลกออนไลน์ล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยง จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับระบบป้องกันของธนาคารและตัวผู้ใช้งานเอง ในช่วงแรกอาจมีความกังวลบ้างเหมือนกับตอนใช้งานบัตรเอทีเอ็ม หรือ อินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้งใหม่ๆ แต่เมื่อผู้ใช้งานเริ่มมีความคุ้นเคยก็เชื่อว่าระบบนี้จะเป็นอีกบริการหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคดิจิตอลแบบนี้

..... 

ความเห็นชาวเน็ต...

ผมว่าที่คนสนใจเพราะเข้าใจว่า ATM จะใช้งานไม่ได้มากกว่า
อย่าให้ถึงกับเลิกใช้ ธนบัตรเลยครับ ให้ประชาชนมีทางเลือก

2. ทุกวันทำงานสิ้นเดือนเห็นเงินสด ยังชื่นใจบ้าง 
ถ้าไม่มีธนบัตร ดูเหมือนกับ เป็น ทาสดิจิตอล เลยครับ

3. ที่บอกว่า พิมพ์ธนบัตรต้นทุนสูง มีปัญหาเรื่องการเก็บรักษา
มันเป็นหน้าที่ของแบงค์ชาติ ใช่ไหม ถ้าคิดว่ายากแล้วไม่ทำหน้าที่
กลับผลักภาระมาที่ประชาชน ผมว่า ยุบไปเลย

4. เรื่องความปลอดภัยของระบบ ไม่น่าเชื่อถือ ขอถามหน่อยครับ
ถ้า ผมกดโอนเงิน ทางผมตัดยอดไปแล้ว แต่ระบบล่ม( 3g 4g มีปัญหา หรือไฟดับ ฯลฯ )
แล้วปลายทางไมได้รับเงิน จะทำไงครับ

ย้ำอีกทีให้คนเลือกเอง อย่าบังคับ