วันศุกร์, กรกฎาคม 22, 2559

มารู้จักกับคุณยาย รศ.วราพร สุรวดี วัย81ปี เอาของโบราณ บ้าน และที่ดินของตัวเอง มอบให้กทม.ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก





"ยายครับ ผมขอรูปนึงนะครับ" ยายยืนโพสต์แล้วยิ้ม เราก็ยิ้ม มาทำงานวันนี้มีความสุขมากๆจากการได้คุยกับยาย หรือ รศ.วราพร สุรวดี วัย81ปี ยายแข็งแรงมาก เดินเหินคล่อง ไม่มีโรค พูดเสียงดังชัดเจน ถามว่ายายกินอะไร ยายบอกกินวิตามินซี ส่วนข้าวก็กินน้อยๆ

ยายคนนี้เป็นคนเอาของโบราณ บ้าน และที่ดิน 1ไร่ 25ตร.ว. ของตัวเอง มอบให้กทม.ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก นี่จะไปซื้อที่ดินข้างๆมาทำลานจอดรถให้พิพิธภัณฑ์อีก วางมัดจำไปแล้ว30ล้าน ขาดอีก10ล้าน ยายบอกจะขายคอนโด แต่ยังขายไม่ออก ถ้า2ก.ย.ไม่มีเงิน10ล้านไปจ่ายเขา เดี๋ยวอาจจะถูกยึดเงินมัดจำหรือเสียค่าปรับ เลยออกมาขอรับบริจาคเงินคนละ100บ. ให้ครบ10ล้านบ. ทั้งหมดนี้เพื่อจะขยายพื้นที่พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกให้ทุกๆคน และคนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษา และเพื่อไม่ให้มีการสร้างตึกสูงด้วย คุณผู้ชมที่อยากจะร่วมบริจาคเงิน สามารถโอนเข้าไปในบัญชี น.ส.วราพร สุรวดี (โครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวกลางกรุงเทพฯ) ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาจัตุรัสจามจุรี เลขที่บัญชี 407-061757-2 หรือ โทรฯ ติดต่อพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก 02-233-7027 ดูเพิ่มเติมได้ในคลิปครับ พาดูพิพิธภัณฑ์+คุยกับยาย ]> https://youtu.be/Qs5AT3n0B2s

จาก FB

พชรปพน พุ่มประพันธ์

ooo

EP.35 ระดมเงิน10ล้าน ซื้อที่ดินข้างพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก


Pacharapapon

Published on Jul 20, 2016
ชาวโซเชียลร่วมกันแชร์ ร่วมกันระดมเงินเพียงแค่คนละ 100 บาท เพื่อให้ได้เงินจำนวน 10 ล้านบาท ไปซื้อที่ดินข้างพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก ย่านบางรัก ไว้เป็นพื้นที่แหล่งเรียนรู้ โดยจะทำเป็นลานจอดรถ และพื้นที่ทำกิจกรรม

ผู้สื่อข่าวรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ทำให้ทราบว่าแต่เดิมเนื้อที่ 1 ไร่ 25 ตารางวา บริเวณซอยเจริญกรุง 43 ตรงนี้ เป็นบ้านของรองศาสตราจารย์ วราพร สุรวดี ที่ได้รับมรดกมาจากคุณแม่ เมื่อปี 2533 พอได้มรดกเป็นที่ดินและของโบราณเก่าแก่มาแล้ว รองศาสตราจารย์ วราพร บอกว่าคิดไม่นานเลยครับ ว่าอยากจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ เพราะส่วนตัวนั้นอยากจะรักษาสิ่งเหล่านี้เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษา จึงทำการออกแบบและพัฒนาปรับปรุงอาคารทั้ง 4 หลัง ให้มีความพร้อม จากนั้นก็ได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและของโบราณทั้งหมด ให้กะบกรุงเทพมหานคร เมื่อ 1 ตุลาคม 2547 ใช้ชื่อว่า พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก เปิดให้เข้าชมฟรี ทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 10โมงเช้า ถึง 4โมงเย็น ถึงตอนนี้ผ่านมากว่า10ปีแล้ว เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอีกหลายประเทศแวะมาเที่ยวชมไม่ขาดสาย เดือนละเกือบ1,000 คน

ต่อมารองศาสตราจารย์ วราพร ทราบว่าพื้นที่ 105 ตารางวา ซึ่งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกตรงนี้แหละครับ เดิมเคยเป็นโรงงานรีไซเคิลกระดาษ ตอนนี้ถูกขายไปแล้ว และเจ้าของใหม่ของว่าจะสร้างเป็นอาคารสูง 8 ชั้น จึงเกรงว่าจะบดบังทัศนียภาพของพิพิธภัณฑ์ และ กระทบกับอาคารเก่าแก่ย่านนี้ จึงได้สอบถามไปยังกทม.ถึงสาเหตุในการอนุญาตให้สร้างตึกสูง ซึ่งได้รับคำชี้แจงว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ดินประเภทพาณิชยกรรม สามารถสร้างอาคารได้ถึง 9 ชั้น

รองศาสตราจารย์ วราพร ก็รับทราบ และหาหนทางอื่นที่จะหยุดยั้งการสร้างอาคารสูง จึงได้ไปปรึกษาเพื่อนๆ และท้ายที่สุดก็เลยมีการไปคุยกับเจ้าของที่ที่จะสร้างอาคารสูง8ชั้น เพื่อจะขอซื้อที่ดินตรงนี้เอาไว้ ใช้เวลาในการไปคุยหลายครั้ง จนผ่านไปประมาณ 2เดือน ในที่สุดเจ้าของที่ก็ยอมขายที่ดินให้ ตกลงราคากันที่ 50 ล้านบาท แต่ท้ายที่สุดก็มีการลดราคาให้เหลือ 40ล้านบาท แต่ต้องจ่ายเป็นเงินสด รองศาสตราจารย์ วราพร ก็เลยจ่ายเงินมัดจำเป็นเงินสดไปก่อน 30ล้านบาท ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ส่วนที่เหลืออีก 10ล้านบาท ที่ยังขาดอยู่ ก็ต้องนำไปชำระให้ครบภายในวันที่ 2 กันยายนนี้ ถ้าจ่ายไม่ครบอาจจะถูกยึดเงินมัดจำ 30ล้านบาท หรือ ต้องเสียค่าปรับ ร้อยละ 15 นี่จึงเป็นเหตุให้รองศาสตราจารย์ วราพร ต้องออกมาขอรับบริจาคเงินเพื่อจะนำไปซื้อที่ดินตรงนี้

ถามว่านี่เป็นการเอื้อประโยชน์กับตัวเองหรือไม่ ถ้าหากซื้อที่ดินเพิ่มขึ้นอีก 105 ตารางวา ก็จะทำให้พิพิธภัณฑ์มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้นไปอีก รองศาสตราจารย์ วราพร บอกว่า นี่ไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองแน่นอน เพราะที่ดินและสิ่งของทั้งหมด ตัวเองได้มอบให้กับกทม.ไปแล้ว ตอนนี้ถือว่าพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก เป็นของหน่วยงานรัฐ เป็นของประชาชนทุกคน เพียงแต่ในเงื่อนไขตอนที่โอนกรรมสิทธ์ให้กทม.นั้น รองศาสตราจารย์ วราพร จะยังสามารถอยู่ที่ได้จนกว่าจะสิ้นชีวิต

โดยตอนนี้นอกจากการออกมาขอรับบริจาคเงิน รองศาสตราจารย์ วราพร ยังมีความพยายามขายคอนโดส่วนตัว เพื่อจะได้เงินครบ 10ล้านบาท แต่ตอนนี้ก็ยังขายไม่ได้ แต่ก็จะพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อจะได้นำเงินไปซื้อที่ดินตรงนี้

หลังมีข่าวออกไปและเกิดกระแสระดมทุน ปรากฏว่าผู้คนในย่านนั้นพากันนำเงินไปบริจาคสมทบทุน คนละ 100 -200 บาท ไปจนถึงหลักหมื่นบาท และไม่เห็นด้วยหากมีการสร้างอาคารสูง ผู้ที่มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกรายหนึ่ง บอกว่ามาเที่ยวชมเป็นครั้งแรกหลังจากรับทราบข่าวสารก็มาดูพื้นที่ให้เห็นกับตาทันที และ จะช่วยเหลือเท่าที่ช่วยได้

พื้นที่ 105 ตารางวานี้ หากท้ายที่สุดได้มีการซื้อมาเรียบร้อย รองศาสตราจารย์วราพร จะนำมาทำเป็นลานจอดรถ ให้กับผุ้ที่มาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก และอีกส่วนหนึ่งจะไว้สำหรับทำพื้นที่ทำกิจกรรม เปิดให้ขายของ นี่เป็นภารกิจสุดท้ายของรองศาสตราจารย์วราพร สุรวดี วัย 81ปี ที่นำทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมดออกมาบริจาค ทั้งที่ดิน และทรัพย์ กระทั่งพยายามนำทรัพย์สินส่วนตัวออกมาซื้อที่ดินเพิ่ม ทั้งหมดนี้เพื่ออนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้มาศึกษาเรียนรู้

ล่าสุด รองศาสตราจารย์วราพร สุรวดี แจ้งว่ามียอดเงินเข้าในบัญชีประมาณ 3 แสนบาท ต้องรวบรวมให้ครบ 10 ล้านบาท ภายในวันที่ 2 กันยายนนี้ หรือ อีก 43 วัน คุณผู้ชมที่อยากจะร่วมบริจาคเงิน สามารถโอนเข้าไปในบัญชี น.ส.วราพร สุรวดี (โครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวกลางกรุงเทพฯ) ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาจัตุรัสจามจุรี เลขที่บัญชี 407-061757-2 หรือ โทรฯ ติดต่อพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก 02-233-7027 


 ooo

เรื่องเกี่ยวข้อง...





อีกแค่8ล้าน! รศ.วราพรหวังโครงการสำเร็จ เผยภาพสเกตช์’พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก’หลังจบซื้อที่ดิน คนแห่ชม-โทรคุยสายแทบไหม้

มติชนออนไลน์