นับวันยิ่งชัดแจ้งว่าร่างรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๙ ที่ทีมงานเนติบริกรนำโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ บันยะบันยังเหลาให้แหลม ถนัดมือ คสช. ใช้ครองอำนาจต่อนานๆ นั้นมีแต่เสียงยี้ ‘ไม่เอา’ มากขึ้น กว้างขึ้น ทั้งในและนอกประเทศ
วรเจตน์ ภาคีรัตน์ นักกฎหมายมหาชนระดับศาสตราจารย์ กล่าวไว้ในปาฐกถาของเขาเรื่อง ‘ประชามติ ๗ สิงหา กับอนาคตสังคมไทย’ ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวานนี้ (๒๔ กรกฎาคม)
“การโหวตรับร่างนี้ จึงมีผลเท่ากับยอมรับให้ใช้มาตรา ๔๔ ต่อไปได้อีกจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง และตั้งรัฐบาลใหม่ อย่างต่ำปีเศษๆ...
ถ้ารัฐธรรมนูญผ่าน โดยทั่วไปก็คือความชอบธรรมของ คสช.ก็อาจจะมีมากขึ้น เพราะเขาถือว่าการใช้อำนาจตามมาตรา ๔๔ ผ่านการรับรองแล้ว”
“ประเด็นคำถามพ่วง อ่านแล้วจะงง เขียนในเชิงประเมินคุณค่าด้วย มีลักษณะจูงใจ คำถามไม่ได้ตั้งในลักษณะที่เป็นภววิสัยเท่าที่ควร...
แต่คำถามพ่วงปลดล็อคอีกชั้น คือ ปกติ ส.ว.ไม่ได้มีส่วนร่วมกับการเลือกตั้งนายกฯ แต่ถ้าคำถามนี้ผ่าน ใน ๕ปีแรก ส.ว.มาร่วมโหวตนายกฯ ด้วย ประเด็นคือ ส.ว.ในช่วง ๕ ปีแรกมาจากการแต่งตั้งของ คสช.”
“ในช่วงสองปีมานี้ หลายคนอาจเกิดความเบื่อหน่าย ท้อแท้ ผิดหวัง รู้สึกว่ากระบวนการที่จะได้มาซึ่งประชาธิปไตยดูจะยาวนาน แต่ทุกอย่างไม่ได้ได้มาง่ายๆ ถ้าใครเหนื่อยก็พัก ไม่มีใครว่าอะไร หายเหนื่อยก็กลับมาสู้
ขออย่างเดียว ขอให้อุดมการณ์ประชาธิปไตย การปกครองโดยกฎหมายที่เป็นธรรมโชติช่วงอยู่ในใจของผู้รักประชาธิปไตยทุกคน”
“สิ่งที่เผด็จการกลัวที่สุดก็คือไฟที่ลุกโชติช่วงอยู่ในใจของทุกคนที่ดับไม่ได้ เผด็จการทั้งหลายในโลกนี้ไม่ว่ามีลักษณะอย่างไร จะฉาบเคลือบด้วยเสื้อคลุมแบบไหนก็ตาม สิ่งเดียวที่เขาชอบคือ ความหวังของผู้คนที่ใฝ่หาเสรีและประชาธิปไตยมอดดับลง
ตราบเท่าที่ความหวังในหัวใจของคนรักประชาธิปไตยทั้งหลายยังโชติช่วงอยู่ แสดงออกได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่จิตใจยังมั่นคงอยู่เสมอ วันนึงเผด็จการจะรู้ว่าเขาดับไฟในใจของทุกคนไม่ได้
และเมื่อถึงเวลาที่ไฟในใจของแต่ละคนรวมกัน วันนั้นคือวันที่ผมเชื่อว่าเราจะมีประชาธิปไตย มีกฎหมายที่เป็นธรรมอย่างแท้จริง”
(http://prachatai.org/journal/2016/07/67053)
วานนี้เช่นกัน แต่เป็น Pacific daylight time คนไทยในย่านมณฑลลอส แองเจลีส ที่ร่วมเรียกร้องต้องการประชาธปไตยแท้จริงและถาวรสำหรับประเทศไทยต่อเนื่องกันมาเป็นระยะๆ กว่าทศวรรษ นัดหมายกันไปประชุมปรึกษา เตรียมงานขั้นสุดท้ายสำหรับการรณรงค์ ‘March for Thai Democracy’ และประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ คสช. นำมาให้ออกเสียงประชามติ วันที่ ๗ สิงหาคม ที่จะถึงนี้
โดยกำหนดวันเดินเพื่อประชาธิปไตยไทย ในเย็นวันเสาร์ที่ ๓๐ กรกฎาคม ศกนี้ เวลาท้องถิ่น 5:00 p.m. และเชิญชวนผู้ที่มุ่งหมายให้ประเทศไทยกลับไปหาวิถีการเมืองในทางประชาธิปไตยแบบสากลโดยพลัน และไม่ต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ‘มีชัย’ นี้ถูกนำไปใช้เป็นแม่แบบทางการปกครองของไทยอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าวันหน้าหรือวันไหน
พบกันพร้อมหน้าบริเวณที่ทำการสถานกงสุลไทย ณ นครลอส แองเจลีส เลขที่ 611 N. Larchmont, Los Angeles ห้าโมงเย็น ร่วมกิจกรรมจำลองเพื่อประจานความเหี้ยมร้ายของคณะทหาร คสช.
จากนั้นเวลาประมาณหกโมงเย็น 6:00 p.m. พบกันอีกครั้งที่บริเวณริมถนน Hollywood Blvd. ตัดกับ Wilcox Ave. เพื่อตั้งขบวน ร่วมกันเดินอย่างพรักพร้อมมุ่งตะวันตกไปบนทางเท้าด้านทิศเหนือสู่บริเวณ Dolby theater และ Chinese theater ใจกลางฮอลลีหวูด
ระหว่างทางประมาณครึ่งไมล์ผู้เข้าร่วม จากกลุ่มนักต่อสู้และผู้รณรงค์เพื่อประชาธิปไตยไทยหลากหลาย อาทิ เสรีไทย เร็ดยูเอสเอ ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน เร็ดฟรีดอม และพลังไทยยูเอสเอ จากท้องที่ต่างๆ ทั้งในและนอกมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้แก่ ซาน ฟรานซิสโก แอล.เอ. ซาน ดิเอโก ลาส เวกัส และฟลอริดา ต่างร้องเพง ‘March’ แต่งใหม่สดๆ ร้อนๆ โดยวงไฟเย็น ขณะที่ต่างชูป้าย ‘Vote No’ ไม่รับร่าง รธน.
เสร็จสรรพจากกิจกรรมหน้าไชนีสเธียเตอร์ ผู้ร่วมรณรงค์ทั้งหมดจะไปพบกันอีกครั้งในบรรยากาศสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความเห็นในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยขั้นต่อไปภายหลังจากประชามติพ้นไปแล้ว ไม่ว่าผลออกมาจะเป็นเช่นไร (เนื่องจากหัวหน้าใหญ่ คสช. บอกไว้ว่าประชามติ รับ-ไม่รับ เขา “ก็ยังอยู่ต่อ”)
สถานที่พบปะขั้นตอนสุดท้ายของการรณรงค์คือ Pattaya Bay Thai Restaurant เลขที่ 1727 N Vermont Ave #105, Los Angeles, CA 90027 Phone: (323) 666-0880 ซึ่งมีอาหาร เครื่องดื่ม และดนตรี สำหรับบรรยากาศงานเลี้ยงรื่นเริง กระชับมิตรไมตรีต่อกัน และผนึกกำลังต่อไป
ส่วนใครที่ชื่นชมลุงตู่เหลือหลาย อยากไปร่วมงานเพื่อชี้แจงความดีของคณะรัฐประหาร ที่ประชุมบอกมาว่า “อย่าดีกว่า”
วันนี้เขาจะเดินทางเดียวเท่านั้น ไมรับร่าง รธน. ไม่เอารัฐประหาร และได้ประสานกับทาง LAPD และพี่ๆ รปภ. ไว้หมดแล้ว ใครจะมาขอใช้สิทธิส่อเสียดหรือสื่อสาด “ไว้วันหลัง”