วันอาทิตย์, มกราคม 07, 2567

เครื่องมือใหม่สำหรับศิลปิน ตอบโต้ AI ขี้โกง ที่ละเมิดผลงาน


ฟินันดา ปราติวิ และ อิสสริยา พรายทองแย้ม
โกลบอล ดิจิทัล
4 มกราคม 2024
บีบีซีไทย

การปกป้องผลงานของเหล่าศิลปินกำลังเผชิญกับความท้าทายจากคลื่นลูกใหม่ของปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (artificial intelligence หรือ AI) ล่าสุดมีการพัฒนาเครื่องมือใหม่ที่สามารถ “วางยา” กระบวนการเรียนรู้ของคอมพิวเตอร์ (machine learning) และช่วยพวกศิลปินสู้กลับเอไอได้

เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอสามารถสร้างภาพสมจริง เลียนแบบผลงานของบรรดาศิลปินมืออาชีพ โดยไม่ได้รับความยิมยอมจากศิลปิน พวกมันเรียนรู้จากการคัดลอกภาพกว่าพันล้านชิ้นที่ปรากฏบนอินเทอร์เน็ต

ขณะนี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก กำลังพัฒนาเครื่องมือเพื่อยังยั้งการละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาของเหล่าศิลปิน

ภาพหมากลายเป็นแมว


เครื่องมือที่ชื่อว่า ไนท์เชด (Nightshade) ทำงานโดยการ “วางยาพิษ” ลงไปในข้อมูลที่ใช้ฝึกเอไอ ทำให้ภาพที่มันสร้างออกมากลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ เช่น หมากลายเป็นแมว รถกลายเป็นวัว และอื่น ๆ

เอไออย่าง DALL-E และ Stable Diffusion มักระบุภาพผ่านคำที่ถูกใช้อธิบายในข้อมูลอภิพันธุ์ (metadata) แต่ไนท์เชดสร้างความสับสนให้กับเอไอ ด้วยการทำให้ภาพและคำจับคู่ไม่ตรงกัน เมื่อผู้คนอัปโหลดรูปภาพเข้าไปในระบบออนไลน์ ทางไนท์เชดจะนำเสนอสิ่งที่แตกต่างจากภาพต้นฉบับ เพื่อทำให้เอไอตัวดังกล่าวสับสน

ภาพตัวอย่างที่สร้างโดยระบบที่ไม่ถูกวางยาจะดูสมจริง ส่วนภาพด้านล่างเป็นภาพที่แสดงผลผิดเพี้ยน เพราะถูกวางยาโดยไนท์เชด

เบน จ้าว ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยชิคาโก ผู้นำทีมสร้างไนท์เชดหวังว่า มันจะช่วยพลิกสมดุลอำนาจจากบริษัทเอไอต่าง ๆ ไปสู่ศิลปิน

“เมื่อคุณใส่มันลงไปในงานศิลปะ ถ้าหากบริษัทหรือใครก็ตามพยายามคัดลอกข้อมูลผลงานของคุณโดยไม่แจ้งเตือนหรือขออนุญาตก่อน คุณภาพการทำงานของโมเดลเอไอของพวกเขาจะได้รับผลกระทบ นี่คือความพยายามฟื้นฟูสมดุลอำนาจระหว่างทั้งสองฝ่ายขึ้นมาเล็กน้อย” ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยชิคาโก กล่าว

เอไอสามารถสร้างภาพจากคำแนะนำง่าย ๆ โดยวิเคราะห์รูปภาพที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น รวมถึงรูปภาพต่าง ๆ ที่อยู่บนโลกออนไลน์ ศิลปินบางคนพบว่ามันเป็นวิธีการที่เป็นประโยชน์ต่อการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ แต่หลายคนก็กังวลว่ากระบวนการเหล่านี้สามารถเลียนแบบสไตล์ของพวกเขาและสร้างผลงานได้ภายในไม่กี่วินาที


ศิลปิน เคลลี แมคเคอร์แนน พบว่างานของเธอถูกใช้เพื่อฝึกปัญญาประดิษฐ์

เคลลี แมคเคอร์แนน ศิลปิน บอกว่าเธอรู้สึก “รังเกียจ” เมื่อพบว่าผลงานของเธอถูกนำไปใช้ฝึกให้กับระบบเอไอ เธอพบว่ามีผลงานศิลปะมากกว่า 50 ชิ้น ถูกอัปโหลดเข้าไปใน LAION หรือเครือข่ายปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อให้คนทั่วไปเข้าใช้งาน

“ฉันรู้สึกว่าถูกละเมิด ถ้าหากใครบางคนพิมพ์ชื่อฉัน [ลงไปในเครื่องมือเอไอ] เพื่อทำปกหนังสือ พวกเขาก็ไม่ต้องจ้างฉัน ซึ่งมันส่งผลกระทบต่ออาชีพของฉันและคนอื่น ๆ อีกมากมาย”

การต่อสู้กับเอไออันยาวนาน


เบรนท์ มิทเทลสตัดท์ รองศาสตราจารย์และนักวิจัยอาวุโสจากสถาบันอินเทอร์เน็ตแห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด กล่าวว่าไนท์เชดอาจช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีและการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ โดยเขาย้ำว่าบริษัทเอไอต่าง ๆ ต้องมีกลไกเพื่อให้คนได้เลือกปฏิเสธเอไอเพื่อลดความเสี่ยง และแสดงความเคารพต่องานของศิลปิน

“ถ้าหากไม่มีกลไกให้คนได้เลือกปฏิเสธเอไอ ก็ต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าบริษัทของคุณมีกลไกนี้แล้ว เพราะหลายบริษัทกำลังพัฒนากลไกเหล่านั้นขึ้นมา อย่างไรก็ตาม โดยลำพังกลไกการให้เลือกปฏิเสธเอไออย่างเดียว ยังไม่เพียงพอสำหรับการปกป้องผลงานศิลปะ เพราะมันคือการโยนภาระความรับผิดชอบในการปกป้องผลงานไปอยู่ที่บรรดาศิลปินหรือผู้ถือลิขสิทธิ์”

ไมค์ ฟิลลิปส์ ศาสตราจารย์ด้านสหวิชาการศิลปะจากมหาวิทยาลัยพลีมัธ บอกว่าไนท์เชดเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจในการช่วยเหลือศิลปินต่อสู้กับเอไอ เนื่องจากการให้ค่าลิขสิทธิ์อาจแก้ปัญหานี้ไม่ได้


“ถ้าคุณคิดเรื่องการที่ศิลปินจะได้รับค่าตอบแทนทางลิขสิทธิ์จากผลงานตัวเองที่ถูกคนอื่นนำไปใช้ จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา พวกศิลปินไม่ประสบความสำเร็จนักในเรื่องนี้” ไมค์ กล่าว

จ้าว เห็นว่ารูปแบบการประเมินค่าลิขสิทธิ์จากเอไอนั้นค่อนข้างซับซ้อน เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะนับว่าบริษัทเอไอต่าง ๆ นำรูปภาพไปใช้สำหรับฝึกเอไอบ่อยแค่ไหน


ไนท์เชดทำงานโดยการ “วางยาพิษ” ลงไปในข้อมูลที่ใช้ฝึกเอไอ ทำให้ภาพที่มันสร้างออกมากลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ เช่น สั่งให้วาดภาพหมา แต่ผลลัพธ์กลายเป็นภาพแมว

ยิ่งมีคนใช้ไนท์เชด และสร้างเครื่องมือที่คล้ายไนท์เชดในรูปแบบของตัวเองออกมามากเท่าไร เครื่องมือนี้ก็จะยิ่งทรงประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น ชุดข้อมูลสำหรับโมเดลเอไอขนาดใหญ่อาจประกอบด้วยภาพหลายพันล้านรูป ดังนั้น หากภาพเคลือบ “ยาพิษ” ถูกคัดลอกโดยโมเดลเอไอมากเท่าไร ก็จะยิ่งสร้างความเสียหายอย่างมากในเชิงเทคนิค

ไนท์เชดจะเป็นเครื่องมือที่ฟรีสำหรับทุกคน โดยคาดว่าจะเปิดตัวในหลายเวอร์ชั่น รวมถึงตัวเลือกแบบโอเพนซอร์ส (Open source) ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาปรับแต่งและสร้างไนท์เชดในรูปแบบของตัวเองได้