ถึงศาลจะจนด้วยความจริง ว่า ‘ไอทีวี’ ไม่ได้เป็นสื่ออีกแล้ว ในวันที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมัครเข้าเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล จึงไม่สามารถวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของพิธาสิ้นสุดได้ แต่ศาลก็ยังคงความเป็น ‘รัฐธรรมนวย’ เอาไว้ไม่เสื่อมคลาย
@jin_somroutai รายงานด่วนหลังเสร็จสิ้นการอ่านคำพิพากษา ว่า “พิธารอด ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ สส.ไม่สิ้นสุดลง เหตุผลสำคัญ เพราะไอทีวีไม่ได้ทำกิจการสื่อ ในวันสมัคร สส.” แต่ศาลก็ยังไม่ลดราวาศอก
จากบันทึกของ @mukei_reporter ศาลบอก “ใน รธน.ไม่ได้ระบุว่าถือหุ้นเท่าใด/ (หรือ) ต้องมีอำนาจบริหารจึงผิด ถือหุ้นเดียวก็ไม่ได้ ฟังไม่ขึ้นว่าโอนหุ้นให้น้องแล้วจริง” นั่นคือ “ศาลเมิน #พิธา บอกถือหุ้น ๔๒,๐๐๐ หุ้น สัดส่วน ๐.๐๐๓๔๘% ถือว่าน้อยมาก”
@sirotek เล่าว่าศาล “ระบุรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดต้องถือหุ้นเท่าไหร่ แค่มี ๑ หุ้นก็ถือว่าผิดแล้ว” ดังนั้นศาลจึงชี้ว่า “=@Pita_MFP ถือหุ้น iTV จริง แต่ iTV หยุดการเป็นสื่อแล้ว #พิธา จึงไม่ได้ถือหุ้นสื่อ” และไม่พ้นจากการดำรงตำแหน่ง ส.ส.
ทว่าก่อนศาลจะอ่านคำตัดสินทั้งหมด ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงให้เห็นว่าถือ ‘บาตรใหญ่’ กล่าวตักเตือนคู่กรณี ซึ่งจริงๆ ก็ไปลงที่พิธาน่ะแหละ @thestandardth ถึงได้รายงานว่า “ศาลรัฐธรรมนูญตักเตือน ‘พิธา’ เรื่องให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ...
ว่าไม่เหมาะสม เป็นการชี้นำก่อนเริ่มอ่านคำวินิจฉัย” ซึ่งก็น่าจะรวมถึง เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ด้วย เขาให้สัมภาษณ์ทาง ‘ไอพีพีทีวี’ ว่า “#พิธา มีโอกาสน่าจะรอดสูง โดยถ้ารอดอาจจะนำทัพคว่ำรัฐบาลเพื่อไทยได้เลย แต่ถ้าไม่รอดจริงๆ ก็ยังมาลงสมัคร สส.ใหม่ได้”
น่าเห็นใจก็แต่รถจีโน่ของตำรวจ คฝ. ไปจอดรอฉีดน้ำพวกแฟนคลับพิธา ที่พากันตะโกนร้องกระหึ่มศูนย์ราชการเมื่ออดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลเดินทางไปถึงว่า “นายกฯ พิธา นายกฯ พิธา ๆ ๆ ๆ” โดยสุดท้ายไม่ต้องประท้วงใดๆ
(https://twitter.com/KhaosodOnline/status/1750061909955707344 และ https://twitter.com/jin_somroutai/status/1749965300949471371)