วันเสาร์, มกราคม 27, 2567

โรดแมป “ก้าวไกล 2567” : ผลักดันวาระประเทศไทยผ่านสภาฯ-กมธ. เดินหน้าเสนอแนะ-ตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่


พรรคก้าวไกล - Move Forward Party
8h·

[ กางโรดแมป “ก้าวไกล 2567” : ผลักดันวาระประเทศไทยผ่านสภาฯ-กมธ. เดินหน้าเสนอแนะ-ตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่ ]
.
วันนี้ (26 มกราคม 2567) ที่อาคารรัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงแผนการทำงานของพรรคก้าวไกลประจำปี 2567 ซึ่งประกอบด้วย “What” หรือ 6 วาระสำคัญที่ก้าวไกลต้องการผลักดันเพื่อประเทศไทย “How” หรือ 4 วิธีการทำงานของก้าวไกล เพื่อขับเคลื่อนวาระประเทศไทย รวมถึงไทม์ไลน์ “หมุดหมายการทำงาน” ของพรรคก้าวไกลในปีนี้
.
#พิธา #ก้าวไกล


[ “What” : 6 วาระสำคัญที่ก้าวไกลต้องการผลักดันเพื่อประเทศไทย ]
.
พิธาเริ่มต้นการแถลง โดยระบุว่าสำหรับพรรคก้าวไกล เรามี “บิ๊กแบง” หรือวาระที่มีความสำคัญกับประเทศไทยและคนไทยในปีนี้อยู่ 6 ส่วนด้วยกัน เรียงตามลำดับความสำคัญ ได้แก่
.
(1) การทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ (Full Democracy) ประกอบด้วยวาระการปฏิรูปกองทัพ การเสนอร่างกฎหมายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ รวมถึงการจัดทำประชามติรัฐธรรมนูญใหม่
.
(2) การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน (Living Standards) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบขนส่งสาธารณะ สวัสดิการ สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และแรงงาน
.
(3) การ “หยุดแช่แข็งชนบทไทย” (Rural Development) ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการลดต้นทุนภาคการเกษตร การเพิ่มเครื่องจักรในการผลิต การเพิ่มแหล่งน้ำ การแปลงที่ดิน ส.ป.ก. เป็นโฉนด และการแก้ไขปัญหาหนี้สิน
.
(4) การปฏิรูปรัฐครั้งใหญ่ (Public Sector Reform) ได้แก่ การปฏิรูประบบงบประมาณ การกระจายอำนาจ การปราบโกง การเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) และการกิโยตินกฎหมาย
.
(5) การเรียนรู้ทันโลก (Human Capital Management) คือการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อเพิ่มความขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย อันได้แก่การปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาใหม่ การลดภาระครู การเพิ่มและสร้างทักษะใหม่ ๆ (Reskill/Upskill) และการยกเลิกระบอบอำนาจนิยมในโรงเรียน
.
6) การเติบโตแบบมีคุณภาพ (Modern Inclusive Growth) ได้แก่ การสร้างงานดีและการลงทุนในท้องถิ่น การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs การท่องเที่ยวคุณภาพ การทำอุตสาหกรรมใหม่ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์


[ “How” : 4 วิธีการทำงานของก้าวไกล เพื่อขับเคลื่อนวาระประเทศไทย ]
.
เมื่ออธิบายถึงการต้องทำ “อะไร” แล้ว พิธาแถลงต่อไปถึงการทำ “อย่างไร” นั่นคือวิธีการทำงานของพรรคก้าวไกล โดยระบุว่าจาก 6 วาระสำคัญข้างต้น พรรคก้าวไกลได้ตกผลึกออกมาเป็น 4 วิธีการทำงาน เพื่อขับเคลื่อนวาระประเทศไทยให้เกิดความสัมฤทธิ์ผล ได้แก่ การปรับปรุงกฎหมาย แผนปฏิบัติงานของคณะกรรมาธิการ การปรับปรุงกระบวนการงบประมาณ และการเตรียมความพร้อมของบุคลากร โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


(1) การปรับปรุงกฎหมาย
.
เพราะกฎหมายที่ล้าหลังจะเป็นอุปสรรคต่อความเปลี่ยนแปลง ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงมีการผลักดันร่างกฎหมายก้าวหน้าทั้งหมด 47 ฉบับ
.
โดยขณะนี้มี 3 ฉบับที่สภาฯ กำลังพิจารณา ได้แก่ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน และ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
.
มี 1 ฉบับที่สภาฯ ปัดตกไปแล้ว คือ ร่างข้อบังคับสภาก้าวหน้า
.
และมีอีก 17 ฉบับที่บรรจุเข้าวาระการประชุมสภาฯ ไปแล้ว รอถึงวาระในการอภิปราย เช่น พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ร.บ.แก้ไขกฎหมายประมง และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นต้น
.
ขณะที่ยังมีร่างกฎหมายอีก 26 ฉบับที่ยังไม่ได้บรรจุเข้าวาระการประชุมสภาฯ แบ่งเป็นส่วนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นร่างกฎหมายการเงิน รอนายกฯ ให้การรับรอง เช่น พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ คสช. พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อประชาชน (ส.ป.ก.) พ.ร.บ.ยกเลิกบังคับการเกณฑ์ทหาร ส่วนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าไม่เป็นร่างกฎหมายการเงิน เช่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ พ.ร.บ.แก้กฎหมายไม่ตีเด็ก ส่วนที่ยังอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เช่น พ.ร.บ. EIA เท่าเทียม พ.ร.บ.ประกันชีวิต และมีอีก 6 ฉบับที่รอการวินิจฉัยว่าเป็นร่างกฎหมายการเงินหรือไม่ หลังจากที่ยื่นเข้าสภาฯ ไปแล้ว เช่น พ.ร.บ. PRTR พ.ร.บ.การจัดการขยะ พ.ร.บ.สหภาพแรงงาน พ.ร.บ.แก้ปัญหาการคุกคามทางเพศ เป็นต้น
.
สำหรับพรรคก้าวไกล ร่าง พ.ร.บ.ที่เป็นเรือธงและหวังผลลัพธ์มากเป็นพิเศษ มีอยู่ 5 ฉบับ ประกอบด้วย พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า พ.ร.บ.ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อประชาชน และ พ.ร.บ.ฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน ซึ่งพิธาก็หวังว่าจะได้เห็นภาพความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้านอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
.
ประชาชนสามารถติดตามรายละเอียดและความคืบหน้าการเสนอร่างกฎหมายของก้าวไกลได้ที่ (promise.moveforwardparty.org)


(2) แผนปฏิบัติงานของคณะกรรมาธิการ
.
พรรคก้าวไกลมี สส.นั่งเป็นประธานกรรมาธิการสามัญในสภาอยู่ทั้งหมด 8 คณะ และประธานทุกคนได้ทำแผนปฏิบัติงานประจำปีส่งมาให้กับพิธาแล้ว โดยจะขอยกตัวอย่างแผนของ 4 คณะกรรมาธิการ ดังนี้
.
กรรมาธิการการทหาร โดย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร วางเป้าหมายการทำงานในปีนี้ไว้ว่า จะทำให้กองทัพไทยเป็นกองทัพที่มีสิทธิมนุษยชน ทำให้การสูญเสียในค่ายทหารเป็นศูนย์ ตั้งคณะกรรมการพลทหารปลอดภัย แก้ไขปัญหาการบังคับใช้ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ตรวจเยี่ยมทุกค่ายทหารอย่างสม่ำเสมอ ทำงานร่วมกับกระทรวงกลาโหม ดีเอสไอ และ ป.ป.ช. เปิดช่องทางรับเรื่องร้องเรียนผ่าน Traffy Fondue หรือ LINE Official Account รวมถึงให้ทหารหรือครอบครัวสามารถยื่นร้องเรียนไปยังกรรมาธิการได้
.
กรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ โดย พริษฐ์ วัชรสินธุ วางเป้าหมายการทำงานในปีนี้ไว้ว่า ต้องมีการยื่นร่างกฎหมาย ข้อเสนอ และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการเมือง เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรเพิ่มเติมนอกเหนือจากกฎหมาย 47 ฉบับที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล โดยจะมีร่างกฎหมายทั้งหมด 6 ฉบับที่จะใช้กรรมาธิการเป็นกลไกในการร่างกฎหมาย ได้แก่ พ.ร.บ.ประชามติ พ.ร.บ.สภาเยาวชน และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมเสรีภาพและสวัสดิภาพของพี่น้องสื่อมวลชน เป็นต้น ส่วนในเชิงการปฏิบัติคือการทำงานเพื่อส่งข้อเสนอต่อฝ่ายบริหาร ตั้งแต่ข้อเสนอโมเดลการเลือกตั้ง สสร. การปรับปรุงระเบียบพรรคการเมือง ไปจนถึงการปฏิรูปเรือนจำเพื่อลดการกระทำผิดซ้ำ เป็นต้น
.
กรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ โดย สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล วางเป้าหมายการทำงานในปีนี้ คือการผลักดันและให้ข้อเสนอต่อการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์อีวี การสร้างความเข้มแข็งให้กับเอสเอ็มอี กฎหมายการค้า กฎหมายลดการผูกขาด และการติดตามผลกระทบจากการควบรวมกิจการโทรคมนาคม เป็นต้น
.
กรรมาธิการการสวัสดิการสังคม โดย ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ วางเป้าหมายการทำงานในปีนี้ คือการพัฒนาสวัสดิการและสาธารณูปโภคของคนทุกกลุ่ม ได้แก่ การผลักดันสาธารณูปโภคให้ครบทุก อบต. การแก้ไขโครงสร้างกองทุนเงินฌาปนกิจและการป้องกันเงินของสมาชิกสูญหาย การปรับปรุงคุณภาพชีวิตเด็กแรกเกิด และการพัฒนาแนวทางการขับเคลื่อนกองทุนของผู้พิการ เป็นต้น


(3) การปรับปรุงกระบวนการงบประมาณ
.
พรรคก้าวไกลเสนอให้มีการปรับปรุงกระบวนการจัดทำงบประมาณ ได้แก่ การจัดทำงบประมาณอย่างโปร่งใส โดยให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม การอนุมัติงบประมาณตามหลัก “ประชาชนได้ประโยชน์” การจัดทำงบประมาณแบบฐานศูนย์ (zero-based budgeting) หรือการคำนึงถึงความจำเป็นและความเหมาะสมของสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น โดยไม่อ้างอิงงบประมาณที่เคยได้จากปีก่อน รวมถึงการจัดทำงบประมาณโดยใช้ภารกิจนำ ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ชาติ
.
หากปรับปรุงได้ดังนี้ การจัดสรรงบประมาณในปี 2568 จะมีพื้นที่ทางการคลังเหลืออีกประมาณ 9 แสนล้านบาท เพื่อให้รัฐบาลนำไปใช้ตอบสนองนโยบายและความท้าทายของสถานการณ์ปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น


(4) การเตรียมความพร้อมของบุคลากร
.
เมื่อกฎหมายพร้อม แผนปฏิบัติงานพร้อม การทำงบประมาณพร้อม ก็ต้องเตรียมทีมงานคนให้พร้อมด้วย โดยในปี 2567 พรรคก้าวไกลจะดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างพรรคให้สมาชิกและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น เพื่อสร้างพรรคการเมืองที่เป็นของประชาชนโดยแท้จริง รวมถึงจะมีการเชื่อมโยง สส. กลไกในสภาฯ ทีมงานพื้นที่/สมาชิกพรรค และท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังมีการแบ่งเป็นทีมทำงานภายในพรรคตามประเด็น เช่น “ก้าวกรีน” เกาะติดเรื่องสิ่งแวดล้อม “เก้า Geek” เกาะติดเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล “ก้าวเมือง” เกาะติดเรื่องผังเมือง และ “เก้าเกษตร” เกาะติดเรื่องการเกษตร ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ไม่ได้มีเฉพาะบุคลากรของพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่ยังมีทั้งอาสาสมัคร ข้าราชการ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายด้วย โดยมีการทำงานเป็นทีม และในอนาคตจะขยายทีมให้ใหญ่ขึ้นและกระจายไปในแต่ละภูมิภาค


[ หมุดหมายการทำงานของก้าวไกล 2567 ]
.
ท้ายที่สุด พิธากล่าวถึง “หมุดหมายการทำงาน” ของพรรคก้าวไกลในปี 2567 โดยระบุว่า วาระสำคัญที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ คือการพิจารณาทบทวนตัวชี้วัด (KPI) ของประธานกรรมาธิการแต่ละคณะ และ สส. ของพรรคก้าวไกลทั้งหมด เพื่อปรับปรุงให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
ในช่วงเดือนเมษายนหลังสงกรานต์ เป็นไปได้ที่จะมีการเปิดอภิปรายเป็นการทั่วไปหรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และในเดือนเมษายนเช่นกันก็จะมีประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคก้าวไกล ซึ่งกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ที่ทำงานมาครบ 4 ปีแล้วจะมีการปรับโครงสร้างองค์กร ทบทวนการทำงานและรูปแบบในการทำงาน
.
ในช่วงเดือนพฤษภาคม จะมีการจัดงาน “Policy Festival” ซึ่งจะทำให้การเมืองและนโยบายเป็นเรื่องสนุก ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย
.
ส่วนในเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ก็เป็นช่วงที่จะมีการอภิปรายงบประมาณปี 2568
.
และในช่วงปลายปี 2567 พรรคก้าวไกลจะมุ่งเน้นเรื่องการเตรียมตัวผู้สมัครในการลงสมัครรับเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)


พิธากล่าวปิดท้ายว่า พรรคก้าวไกลทำงานอยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติ การเสนอและผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้าเป็นหน้าที่ของเรา การทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างตรงไปตรงมาอยู่แล้ว แต่การตรวจสอบอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ ต้องมีการแนะนำ และในขณะเดียวกันก็ต้องมีการเรียนรู้ในกระบวนการ เพราะเมื่อพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลด้วยตัวเองแล้ว จะสามารถทำงานได้ทันทีอย่างไม่มีข้อติดขัด

https://www.facebook.com/MoveForwardPartyThailand/posts/955766059446080?ref=embed_post