วันพฤหัสบดี, มกราคม 25, 2567

‘เรืองไกร’ นักร้อง-นกรู้ ทางการเมือง ไม่สนถูกชี้หน้าเป็นสารตั้งต้นพยายามคว่ำ ‘พิธา’ โค่น ‘ก้าวไกล’ ออกเดินต่อตรวจสอบ ส.ส.และนักการเมือง ประเด็น “มีหุ้นเดียวก็ผิด”

นกรู้นะนี่ นายคนนี้ สมกับที่ทำมาหากินจนร่ำรวยขี่รถเบ๊นซ์ จากการเป็น นักร้อง ทางการเมือง เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไม่เพียงปัดสวะเสียงงึมงำชี้เป้าตัวเขา ว่าเป็นสารตั้งต้นของความพยายามตีตก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และคว่ำพรรคก้าวไกล

ก่อนที่จะเป็นเสียงดังว่าเจตนาทำร้ายอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ด้วยคดีความที่เขาไม่ผิด จึงควรได้รับผลตอบสนองความสามหาวเสียบ้าง แต่เรืองไกรก็ไหวตัวทันแต่เนิ่นๆ ก่อนศาลอ่านคำพิพากษา ประดุจดังนกรู้ ด้วยการชี้ว่าพิธาจะรอด

แต่ไม่ยอมรับในผลแห่งการชงของตน เขายักไหล่หน้าตาย “ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกัน ในการยื่นร้องพิธาขาดคุณสมบัติ ส.ส.เพราะถือหุ้นไอทีวี กับการที่เขาถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการทำหน้าที่ ส.ส.หัวหน้าพรรคและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีทันที

ที่เรืองไกรอ้างว่าเขาจะร้องหรือไม่ร้อง พรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ และ สว.ก็ยังคงรวมหัวกันแย่งการจัดตั้งรัฐบาลและตำแหน่งนายกฯ ไปจากพิธาอยู่ดี อีกทั้งคดีที่เขายื่นร้องไว้ยังไม่ได้ตัดสินในตอนนั้น

มาวันนี้เรืองไกรเริ่มต้นหนทางดำรงชีวิตอย่างลอยตัวต่อไป ด้วยการเสนอให้ระบอบการเมืองสร้างมาตรฐานถาวร จากผลคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญคดีพิธา นั่นคือ “มีหุ้นเดียวก็ผิด” ให้มาใช้ตรวจสอบนักการเมือง ส.ส. รัฐมนตรี และ สว. พร้อมด้วยคู่สมรสและลูกๆ

เขาอ้างว่า “การซื้อ-ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ บางทีซื้อเช้าขายบ่าย จะไม่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือ บอจ.5 รวมถึงบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท หรือ บมจ.006” จึงเตรียมยกร่างคำร้องยื่นต่อ กกต.ไปไล่ตรวจสอบ ส.ส.ทั้งหมด

ให้ดูสิว่าใครทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นที่เป็นหุ้นสื่อ “ที่มีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์หลายตัว” กันบ้าง เนื่องจากหลายคนแจ้งต่อ ปปช.เมื่อ ๔ กรกฎา ๖๖ ว่ามีบัญชีหุ้นกันอยู่ ดูว่าที่ระบุ หุ้น เฉยๆ นั้นเป็นหุ้นสื่อกันบ้างหรือไม่ 

นับว่าเขาดิ้นเป็นปลาไหลได้คล่องทีเดียว

(https://twitter.com/MatichonOnline/status/1750367346404073692)