ข้อสังเกตุอย่างบ้านๆ
ถึงกลุ่มการเมืองและสังคมที่เพิ่งเกิดใหม่จากสองฟากขณะนี้ กลุ่มหญิง ๕ ชาย ๑ ค่าย
คสช. กับกลุ่มชาย ๕ หญิง ๒ ของสายคนไกล ไหนน่าสนใจกว่ากัน แม้ดูเผินๆ ฝ่าย ‘หัดขับ’ หญิงห้าพลัสวัน ท่าจะเทียบไม่ติด ๗ “ระดับ Influencers”
กลุ่มแรกที่เอ่ยถึงตรงนี้ เป็น
ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐใน กทม. ๖ ใน ๑๑ คนที่ออกตัวชัดเจนหลังจากเป็นที่แน่นอนว่า
การประชุมเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคครั้งใหม่วันที่ ๓ กรกฎา พวกสายตรง คสช.+กปปส.นำโดย ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเข้ากุมโดยตรง
กลุ่มนี้นำโดยวทันยา วงษ์โอภาสี ซึ่งมีฉาย
บุนนาค สามีโดดเด่นอยู่ในนิวส์เน็ตเวิร์ค เจ้าของสื่อค่าย ‘เนชัวร์-ทีนัวร์’ (นามสมมุติ) ที่ผ่านมาจัดว่าผสานอยู่กับพวกทีมเศรษฐกิจสี่กุมาร
(สมคิด-อุตตม-สนธิรัฐ-สุวิทย์) ที่กำลังตกสวรรค์
เพราะทำให้ประจักษ์ว่าการบริหารประเทศไม่ง่ายเหมือนยึดอำนาจ
ทั้งหกคนพร้อมกันไปลงพื้นที่หน้ากระทรวงการคลังรับเรื่องร้องเรียน
เสียงรบกวนและเศษวัสดุจากการก่อสร้างตึกในกระทรวงคลังและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
เลยได้โอกาสตอบข้อสงสัยว่าแยกตัวออกจากกำกับของ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หรือไร
น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์
หนึ่งใน ๕ สาว พปชร.ตอบว่าไม่มีอะไรหรอก ยังนับถือพี่บีดีอยู่ แต่ว่า “มันมีกลุ่มที่สนิทกัน
และมีกลุ่มที่ไม่ได้ทำงานร่วมกันและไม่สนิทกัน ก็เท่านั้นเอง” แม้เจ้าตัวหัวหน้า
‘พี่บี’ เองจะออกลูกพ้อๆ ว่า
“ผมเป็นคนทาบทามและเป็นคนชวน
ส.ส.และผู้สมัคร กทม.เกือบทุกคนมาเอง
แต่ผมไม่สามารถไปเป็นเจ้าของความคิดและความเห็นของใครได้ วันหนึ่งหากใครคิดจะไปไหนก็ต้องให้เกียรติและสิทธิ...เราเลือกมาเองและสนับสนุนเขาไปถึงฝั่งแล้ว”
ก็เท่านั้นอย่างว่า เข้ามาเพื่อดันให้ได้สืบทอดอำนาจกันสำเร็จแล้ว
คสช.ขอกระชับพื้นที่เพื่ออยู่ยาว เข้าไปกำกับพรรคการเมืองโดยตรง
ก็แค่คอยดูกันว่าพวกสาวๆ มือใหม่ จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มอีกได้ไหม “ต้องดูยาวๆ
ทุกอย่างเป็นไปได้” อย่างที่บีว่า
(https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2226155, https://www.thaipost.net/main/detail/68568 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2226467)
คราวนี้มาดูฟากเพื่อไทย-ไทยรักไทย-เครือข่ายชินวัตรบ้าง
นัยว่าการเป็นฝ่ายค้านไม่ได้ผล เพราะพวกคนที่ค้านจริงดันโดนยุบพรรค อาจไม่ถึงขั้นแยกฝ่าย
อาจเป็นไปได้ว่าแตกฝักใหม่
เพราะอดีตรัฐมนตรีขนาดมือฉมังของพรรคไทยรักไทยในอดีตร่วมจัดตั้ง
กลุ่ม CARE ออกตัวกันชัดแจ้งแล้วว่า
พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ภูมิธรรม
เวชชยชัย จับมือกับประดา ‘ผู้ทรงอิทธิพล’ อีกสี่คน รวมทั้งนักจัดรายการปากเก่ง ‘คำ ผกา’ หรือ ลักขณา ปันวิชัย ประกาศลงมือ ‘ขับเคลื่อนสังคม’
จากคำขวัญสัญลักษณ์กลุ่มที่ว่า “คิด
เคลื่อน ไทย” บอกรูปพรรณของกลุ่มนี้ว่าเป็น ‘Think Tank’ สไตล์เดียวกับสำนัก ‘อิศรา’ มากกว่าที่จะมีลำหักลำโค่นทางการเมืองเหมือน
‘คณะก้าวหน้า’ ของอดีตฝ่ายค้านที่อยู่ไม่เป็นเลยโดนเขี่ย
งานแรกของกลุ่มแคร์นี้เป็น “การจัดเสวนาประเด็นเศรษฐกิจ
๑๕๐ วันอันตราย ทางเลือกหรือทางรอด” ที่ Voice Space ถนนวิภาวดีรังสิต วันที่ ๑๗ มิ.ย.เริ่มบ่ายสอง ขณะที่คณะก้าวหน้าก็มี ‘ซีรี่ส์บรรยายสาธารณะ’ ทุกวันอาทิตย์ เริ่มครั้งแรกวันอาทิตย์นี้
นักพูดของแต่ละค่ายไม่เบาทั้งนั้น สาย
ทรท.นอกจากหมอเลี้ยบ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กับดวงฤทธิ์ บุนนาค และศุภวุฒิ สายเชื้อ
แล้วได้ บรรยง พงษ์พานิช ไปร่วมด้วย ด้าน อนค.นอกจากธนาธร-ปิยบุตร แล้วจะมีนักวิชาการเอ้ๆ
ร่วมจ่อมหลายคน
เรียงหน้าตั้งแต่ นิธิ เอียวศรีวงศ์
สุรชาติ บำรุงสุข ประจักษ์ ก้องกีรติ ไปถึงสายเศรษฐศาสตร์ ศิริกัญญา
ตันสกุลและวีระยุทธ์ กาญจน์ชูฉัตร งวดแรก ๑๔ มิ.ย.จะพูดถึง “เหตุใดเกาหลีใต้และไต้หวันที่เคยพัฒนามาไล่เลี่ยกับไทย
จึงแซงเราไปไกล”
รับชมกันผ่านทางยูทู้บของ Progressive
Movement ชื่อรายการ Common School
ซึ่งหวังว่าจะมีการต่อยอดประเด็นไปถึงเรื่องที่ประเทศเพื่อนบ้านไทย อย่างเวียตนาม
ก็กำลังจะแซงไทยไปอีกราย หลังจากที่ผองเราทั้งสองสูสีกันมาช่วงฟัดกับโควิด
ใครไปร่วมรายการใดหรือทั้งสองรายการ
ฝากถามเรื่องที่ ‘ไฟแน้นเชียลไทม์’ บอกว่าหลังโควิดนี่ทั้งไทยและเวียตนามตั้งหลักฟื้นตัวกันหนักแน่นทั้งคู่
แต่ว่าเพื่อนเหงียนดูจะมีภาษีดีกว่าเพราะรากฐานการผลิตแน่นปึ้ก แต่ ‘พี่ไทย’ นั้นต้องลุ้น
เนื่องจากภายใต้ความเก่งกาจของนักยึดอำนาจอย่าง
‘ไอตู๊บ กับ เฮียตือ’ (นามสมมุติ)
ความหวังเศรษฐกิจฟื้นตัวอยู่ที่พระเดชพระคุณมหามิตรของ คสช. ผู้ยิ่งใหญ่โลกตะวันออก
ส่งนักท่องเที่ยวมาให้ผู้ดีไทยค้อนขวับด้วยหางตากันมากเหมือนเก่าไหม