สงสัย ‘ตู่’ กลัวจะโดนฝึก ‘ธำรงวินัย’
ออกมาปัดเป่าฝุ่นละอองเป็นการใหญ่ ปกป้องมิให้พระบรมพจนะฉายาของพระเจ้าอยู่หัวหมองหมาง
หลังจากที่ PixelHELPER รณรงค์ประท้วงพระองค์ในเยอรมนีมิได้ระย่อหยุดหย่อน
นี่ก็ทรงเสด็จกลับจากสวิสเซอร์แลนด์คืนสู่การ์มิสช์ปาร์เต็งเกอร์เช็นก่อนกำหนดวันที่
๒๑ มิ.ย. อาจจะเพราะทีมพิกเซิ่ลเฮ้ลเปอร์บอกว่าจะตามไปประท้วงพระองค์ถึงเอ็งเกิ้ลเบิร์ก
ระหว่างเสด็จทรงฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาราชินีที่นั่น
เป็นที่รู้กันว่าพระองค์ทรงเฮี้ยบสุดๆ
ข้าราชบริพารใกล้ชิดผิดพลาดจักต้องได้รับอาญาอย่างสาสมให้หลาบจำ
เมื่อสองสามวันมานี้ก็มีคำสั่งกองบังคับการอารักขา
ลงโทษข้าราชการตำรวจอำนวยจราจรในเขตพระราชฐาน ๕ นาย
ต่อการที่มีรถบรรทุกอีซูสุ “เลี้ยวเข้าเฉี่ยวชนทางเข้าออกประตูจักรภพทำให้...พระราชทรัพย์...ได้รับความเสียหาย”
ถือเป็นการหละหลวมบกพร่องในหน้าที่ ตำรวจทั้งห้ายศตั้งแต่พันเอกลงไปถึงสิบตรีถูกลงโทษให้ฝึกธำรงวินัย
๗ วัน
เปรียบเทียบกับนายกรัฐมนตรี ยศพลเอก
หากหละหลวมปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้ฝรั่งมังค่าทั่วยุโรปจัดประท้วงพระองค์
และเสนอข่าวอันเป็นการเสื่อมเสียพระราชอิสริยยศทั้งเรื่องฮาเร็มและเรื่อง ‘อุ้มหาย’ ผู้ลี้ภัยไทยในกัมพูชา เช่นที่เป็นอยู่มิขาดขณะนี้
ความเสื่อมเสียจะมากพ้นทวีคูณหากการประท้วงและจ้วงจาบเช่นนั้นยังสืบเนื่องต่อไปอีกไม่หยุดยั้ง
ข้าราชบริพารระดับสูงสุดจะต้องถูกลงโทษหนักหนาสถานใด มิอาจคะเนได้
เพราะตัวอย่างมีแต่กรณีพิสิทธิ์ศักดิ์ หมอหยอง ปากรม อันต่างกรรมต่างน้ำหนักออกไป
ทว่า ‘นายกฯบิ๊กตู่’
ผู้ซึ่ง Wassana Nanuam เขียนถึง
สวมแหวน ‘ครุฑทอง’ ประกาศก้อง “อยากจะบอกคนไทยทุกคน
วันนี้จะเห็นได้ว่ามาตรา ๑๑๒ ไม่ได้ใช้เลย เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระเมตตาไม่ให้ใช้”
นั่นเกี่ยวเนื่องกับการที่มีนักเรียนนักศึกษา
“ถูกชักจูงให้ร่วมหมิ่นสถาบัน...ชี้หลายประเทศที่เป็นประชาธิปไตย
เปลี่ยนแปลงด้วยความรุนแรงทั้งสิ้น บาดเจ็บล้มตายไปเท่าไหร่
แล้วจะเอาตัวอย่างจากเขาทำไม” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวอย่างฉุนๆ
พร้อมทั้งยืนยันอีกครั้งให้ “สำนึกไว้ด้วย...เพราะพระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ
กำชับมาที่ผมโดยตรง” จะเห็นได้ว่าตลอด “๒-๓ ปีที่ผ่านมามีการใช้ไหม ๑๑๒ ทำไมไม่คิดถึงตรงนี้ด้วย
ก็ลามปามกันไปเรื่อย”
นายกฯ เล่นแรง
อาจเพราะไม่เคยมีใครอ่านบทความวิชาการให้ฟัง หรือส่งรายงานว่า
การกดดันบังคับประชาชนที่เสนอแนวคิดการเมืองอันเห็นต่าง รวมทั้งพระราชกิจส่วนพระองค์ของพระเจ้าอยู่หัวในต่างประเทศที่ถูกฝรั่งวิพากษ์นั้น
มีการใช้ พรบ.คอมพิวเตอร์เอาผิดลงโทษแทน
ระวางความรุนแรงไม่เบาเหมือนกัน ดังที่เว็บความรู้กฎหมายเพื่อประชาชน ‘ไอลอว์’ ระบุไว้ชัดเจนว่า “พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา
๑๔(๓) เวอร์ชั่นใหม่ความผิดหมิ่นกษัตริย์ฯ
แทนที่ ม.๑๑๒”
ความผิดในมาตราดังกล่าว “จะต้องผูกโยงเข้ากับความผิดในประมวลกฎหมายอาญาเรื่องความมั่นคงหรือการก่อการร้าย”
ด้วย “เป็นการดำเนินคดีหลายข้อหาประกอบกัน จากการกระทำเดียวกัน...เรียกว่ากรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท”
ความผิดการนำเข้าสู่ระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์
อันเกี่ยวกับความมั่นคงและก่อการร้าย “โทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี” ขณะที่โทษจำคุก ม.๑๑๒
อย่างสูง ๑๕ ปี หากแต่โทษของทั้งสองมาตรามีการทำนบหลายบท รวมแล้วกว่า ๒๐ ปีหรือเกิน
๕๐ ปีก็ได้ ความร้ายแรงไม่ต่างกัน
แต่ไอลอว์บอกว่าหลังๆ
นี่ตำรวจนิยมตั้งข้อกล่าวหามาตรา ๑๔(๓) พรบ.คอมฯ เพียงข้อหาเดียวไว้ลอยๆ เหมือนกับข้อหามาตรา
๑๑๒ ซึ่งระยะหลังๆ ถูกใช้น้อยลง ทั้งนี้ด้วยจุดมุ่งหมายเช่นเดียวกับ ม.๑๑๒
คืออย่างน้อยๆ เพื่อ ‘ขู่’
ทั้งนี้เนื่องจากนับแต่ปลายปี ๒๕๖๒
เป็นต้นมา มีการแชร์ข้อความทางสื่อสังคมเกี่ยวกับสถาบันและพระมหากษัตริย์ไทยกันมาก
มาตรา ๑๔(๕) ของ พรบ.คอมฯ ซึ่งระวางโทษคุก ๕ ปี และปรับ ๒ แสนเหมือนกัน
เจาะจงความผิดฐาน ‘แชร์’ โดยตรง