วันอังคาร, มิถุนายน 16, 2563

‘ตู่’ กลัวจะโดนฝึก ‘ธำรงวินัย’ ออกมาปัดเป่าฝุ่นละอองเป็นการใหญ่


สงสัย ตู่ กลัวจะโดนฝึก ธำรงวินัย ออกมาปัดเป่าฝุ่นละอองเป็นการใหญ่ ปกป้องมิให้พระบรมพจนะฉายาของพระเจ้าอยู่หัวหมองหมาง หลังจากที่ PixelHELPER รณรงค์ประท้วงพระองค์ในเยอรมนีมิได้ระย่อหยุดหย่อน

นี่ก็ทรงเสด็จกลับจากสวิสเซอร์แลนด์คืนสู่การ์มิสช์ปาร์เต็งเกอร์เช็นก่อนกำหนดวันที่ ๒๑ มิ.ย. อาจจะเพราะทีมพิกเซิ่ลเฮ้ลเปอร์บอกว่าจะตามไปประท้วงพระองค์ถึงเอ็งเกิ้ลเบิร์ก ระหว่างเสด็จทรงฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาราชินีที่นั่น

เป็นที่รู้กันว่าพระองค์ทรงเฮี้ยบสุดๆ ข้าราชบริพารใกล้ชิดผิดพลาดจักต้องได้รับอาญาอย่างสาสมให้หลาบจำ เมื่อสองสามวันมานี้ก็มีคำสั่งกองบังคับการอารักขา ลงโทษข้าราชการตำรวจอำนวยจราจรในเขตพระราชฐาน ๕ นาย

ต่อการที่มีรถบรรทุกอีซูสุ “เลี้ยวเข้าเฉี่ยวชนทางเข้าออกประตูจักรภพทำให้...พระราชทรัพย์...ได้รับความเสียหาย” ถือเป็นการหละหลวมบกพร่องในหน้าที่ ตำรวจทั้งห้ายศตั้งแต่พันเอกลงไปถึงสิบตรีถูกลงโทษให้ฝึกธำรงวินัย ๗ วัน

เปรียบเทียบกับนายกรัฐมนตรี ยศพลเอก หากหละหลวมปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้ฝรั่งมังค่าทั่วยุโรปจัดประท้วงพระองค์ และเสนอข่าวอันเป็นการเสื่อมเสียพระราชอิสริยยศทั้งเรื่องฮาเร็มและเรื่อง อุ้มหาย ผู้ลี้ภัยไทยในกัมพูชา เช่นที่เป็นอยู่มิขาดขณะนี้

ความเสื่อมเสียจะมากพ้นทวีคูณหากการประท้วงและจ้วงจาบเช่นนั้นยังสืบเนื่องต่อไปอีกไม่หยุดยั้ง ข้าราชบริพารระดับสูงสุดจะต้องถูกลงโทษหนักหนาสถานใด มิอาจคะเนได้ เพราะตัวอย่างมีแต่กรณีพิสิทธิ์ศักดิ์ หมอหยอง ปากรม อันต่างกรรมต่างน้ำหนักออกไป

ทว่า นายกฯบิ๊กตู่ผู้ซึ่ง Wassana Nanuam เขียนถึง สวมแหวน ครุฑทองประกาศก้อง “อยากจะบอกคนไทยทุกคน วันนี้จะเห็นได้ว่ามาตรา ๑๑๒ ไม่ได้ใช้เลย เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระเมตตาไม่ให้ใช้”

นั่นเกี่ยวเนื่องกับการที่มีนักเรียนนักศึกษา “ถูกชักจูงให้ร่วมหมิ่นสถาบัน...ชี้หลายประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เปลี่ยนแปลงด้วยความรุนแรงทั้งสิ้น บาดเจ็บล้มตายไปเท่าไหร่ แล้วจะเอาตัวอย่างจากเขาทำไม” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวอย่างฉุนๆ

พร้อมทั้งยืนยันอีกครั้งให้ “สำนึกไว้ด้วย...เพราะพระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ กำชับมาที่ผมโดยตรง” จะเห็นได้ว่าตลอด “๒-๓ ปีที่ผ่านมามีการใช้ไหม ๑๑๒ ทำไมไม่คิดถึงตรงนี้ด้วย ก็ลามปามกันไปเรื่อย”

นายกฯ เล่นแรง อาจเพราะไม่เคยมีใครอ่านบทความวิชาการให้ฟัง หรือส่งรายงานว่า การกดดันบังคับประชาชนที่เสนอแนวคิดการเมืองอันเห็นต่าง รวมทั้งพระราชกิจส่วนพระองค์ของพระเจ้าอยู่หัวในต่างประเทศที่ถูกฝรั่งวิพากษ์นั้น
 
มีการใช้ พรบ.คอมพิวเตอร์เอาผิดลงโทษแทน ระวางความรุนแรงไม่เบาเหมือนกัน ดังที่เว็บความรู้กฎหมายเพื่อประชาชน ไอลอว์ระบุไว้ชัดเจนว่า “พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา ๑๔() เวอร์ชั่นใหม่ความผิดหมิ่นกษัตริย์ฯ แทนที่ ม.๑๑๒”

ความผิดในมาตราดังกล่าว “จะต้องผูกโยงเข้ากับความผิดในประมวลกฎหมายอาญาเรื่องความมั่นคงหรือการก่อการร้าย” ด้วย “เป็นการดำเนินคดีหลายข้อหาประกอบกัน จากการกระทำเดียวกัน...เรียกว่ากรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท”

ความผิดการนำเข้าสู่ระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเกี่ยวกับความมั่นคงและก่อการร้าย “โทษจำคุกไม่เกิน ๕ ปี” ขณะที่โทษจำคุก ม.๑๑๒ อย่างสูง ๑๕ ปี หากแต่โทษของทั้งสองมาตรามีการทำนบหลายบท รวมแล้วกว่า ๒๐ ปีหรือเกิน ๕๐ ปีก็ได้ ความร้ายแรงไม่ต่างกัน

แต่ไอลอว์บอกว่าหลังๆ นี่ตำรวจนิยมตั้งข้อกล่าวหามาตรา ๑๔(๓) พรบ.คอมฯ เพียงข้อหาเดียวไว้ลอยๆ เหมือนกับข้อหามาตรา ๑๑๒ ซึ่งระยะหลังๆ ถูกใช้น้อยลง ทั้งนี้ด้วยจุดมุ่งหมายเช่นเดียวกับ ม.๑๑๒ คืออย่างน้อยๆ เพื่อ ขู่

ทั้งนี้เนื่องจากนับแต่ปลายปี ๒๕๖๒ เป็นต้นมา มีการแชร์ข้อความทางสื่อสังคมเกี่ยวกับสถาบันและพระมหากษัตริย์ไทยกันมาก มาตรา ๑๔(๕) ของ พรบ.คอมฯ ซึ่งระวางโทษคุก ๕ ปี และปรับ ๒ แสนเหมือนกัน เจาะจงความผิดฐาน แชร์โดยตรง