จากกระแสข่าวกระพือไปทั่วประเทศกับแฮชแท็กยอดฮิตในสื่อสังคมออนไลน์ชั่วข้ามคืนนี้ คือการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงรับเรือยอชต์พระที่นั่งลำใหม่ ณ ท่าเรือโอเชียน มาริน่า ยอชต์ คลับ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นการเปิดตัวเรือยอชต์หลวงลำแรกในรัชกาล คือเรืออาซิมุท 77เอส อภิมหาเรือยอชต์แบรนด์สุดหรูจากอิตาลี ที่ผลิตเรือยอชต์หลายรุ่นสำหรับการพักผ่อนแบบส่วนตัวกลางทะเลแบบครบวงจร ออกแบบสไตล์สปอร์ต เปี่ยมด้วยขุมพลังและทรงประสิทธิภาพ โดดเด่นด้วยสมดุลแห่งคุณภาพและความปลอดภัยที่ลงตัว สนนราคาที่ 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 105 ล้านบาทไทยเบาๆ
เรือยอชต์ลำนี้มีความผสมผสานความสง่างามสไตล์สปอร์ต ด้วยโครงสร้างแบบคาร์บอนไฟเบอร์ รูปทรงปราดเปรียวกลมกลืนทุกสัดส่วน การควบคุมที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ความสบายเหนือระดับ และขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษ: ด้วยขนาดความกว้างและความสูงในทุกสภาพแวดล้อมการใช้งาน สำหรับภายในพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวางบรรยากาศอบอุ่น รังสรรค์ขึ้นจากวัสดุคุณภาพเยี่ยม พักผ่อนอย่างสบายในห้องนอนบริเวณท้องเรือด้านล่าง บรรยากาศสดใสสว่างด้วยหน้าต่างที่มองเห็นได้ไกลถึงเส้นขอบฟ้า พร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการผ่อนคลายอย่างเหนือระดับ ทั้งดีไซน์ เทคโนโลยี และวัสดุ ล้วนมอบความปลอดภัยและความสบายให้กับทั้งเจ้าของเรือและแขกคนสำคัญ เพื่อที่สุดแห่งประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์เหนือท้องทะเล
เอาใจแฟนเรือยอชต์ทั้งหลาย มาดูสเปคคุณสมบัติของเรือลำนี้กัน ความยาวลำเรือ 23.54 เมตร (24.06 เมตร รวมราวกั้นหัวเรือ) ความกว้าง 5.55 เมตร ระดับกินน้ำลึก 1.64 เมตร ระวางขับน้ำ 58.2 ตัน ความเร็วปกติในการเดินเรือ 28 นอต และความเร็วสูงสุด 35 นอต ด้วยเครื่องยนต์ 3 x Volvo D13 IPS1350 1000 mHP นอกจากนี้ยังมีความจุถังเชื้อเพลิง 4,000 ลิตร (1,056 แกลลอน) และความจุถังน้ำ 1,100 ลิตร (290 แกลลอน)
หากไม่นับเรือพระที่นั่งที่เราได้เห็นจากการเสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้น ซึ่งถือเป็นเรือที่ใช้ในพระราชพิธีเท่านั้น เรือยอชต์ลำนี้ นับว่าเป็นเรือพระที่นั่งลำแรกในรัชกาล ในอดีตนั้นเราเคยมีเรือพระที่นั่งมาก่อนแล้ว คือเรือพระที่นั่งมหาจักรี เรือพระที่นั่งแบบลาดตระแวนในรัชกาลที่ 5 ที่ใช้เสด็จประพาสต่างประเทศ ต่อโดยบริษัทราเมจ แอนด์ เฟอร์กูสัน ประเทศสกอตแลนด์ และขึ้นระวางประจำการเมื่อปีพ.ศ. 2435 จนกระทั่งปลดระวางเมื่อปีพ.ศ. 2459
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่กำลังเป็นประเด็นและถกเถียงกันอย่างร้อนระอุตอนนี้ ยังไม่มีแหล่งข่าวหรือข้อมูลใดๆเกี่ยวกับที่มาของการทรงรับเรือยอชต์นี้ ว่าโดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ หรือทรงรับการน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย ดังนั้น ควรใช้วิจารณญานในการรับข้อมูลข่าวสารอย่างถี่ถ้วน
----
The New Royal Yacht for the Thai Royal Family has been revealed: Azimut 77S, embodies beauty and sportiness, further incontrovertible proof of Azimut Yachts- role as "ambassador of Made in Italy boating worldwide". The sleek profile suggest this yacht can take you far in little time and features large windows that flood the inside with light combined with a sport-fly which lets you live and drive in the sun and wind. The price is starting from 3.5 Million USD.
The feature uses of carbon fibre is a construction choice that allows volumes and surfaces to be increased in size while keeping the same weight, therefore maintaining excellent levels of dynamic stability. The yacht embodies that special synthesis of stylistic innovation, technology, and functionality found in all the Italian boatyard's latest models. The pivoting stern platform for maximum flexibility, the wave-piercing vertical, the single large deckhouse window, the glazed roof, superior performance, and enhanced fuel efficiency thanks to three engine configuration coupled with Volvo Penta IPS transmission are just some of the main features.
The specification of this yacht contains: 23.54 m. hull length (and 24.06 m. for overall length including the pulpit), 5.55 m. for beam, 1.64 m. draft, 58.2 tons for displacement, cruising speed at 28 kn, and 35 kn for maximum with the engines of 3 x Volvo D13 IPS1350 1000 mHP. Furthermore, there are also 4000 l (1056 US Gallons) for Fuel Capacity and 1100 l (290 US Gallons) for Water Capacity.
Apart from the various Royal Barges we have seen at the Post-Coronation’s Royal Barge Procession a few days ago, this is the first ever Royal Yacht in the modern era. There used to be a yacht over hundred years ago: The Royal Yacht Maha Chakri, built by the Scottish Ramage and Ferguson and was commissioned in 1892 and decommissioned in 1916.