โลกนี้(และประเทศนี้)ในปีหน้า

โลกนี้(และประเทศนี้)ในปีหน้า
...
ออกตัวเอาไว้ก่อนเลยครับว่า ร้อยละ 80 ของข้อมูลที่เอามาเขียนนี้ สรุปรวมๆมาจากหนังสือ The World in 2020 ของ The Economist
ใครสนใจหารายละเอียด(ที่สนุกกว่าสรุป)มาอ่าน ไปตามซื้อในร้านหนังสือได้ครับ
ตามอ่านกันมาตั่งแต่เล่มละ 200 กว่าบาท
มา 300
แล้ว 500
เล่มปัจจุบันนี่ขึ้นเป็น 640
แต่ถ้าอ่านแล้วได้อะไรมาปิ๊งเดียวก็คุ้มแล้วครับ
ส่วนอีกร้อยละ 20 โดยประมาณนั้นด้นเอาเอง
เชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง อ่านแล้วคิดค้าน-ตั้งคำถามในใจเอาไว้ด้วย
555
เข้าเรื่องดีกว่า เดี๋ยวจะหาว่าฝอยฟุ้งเหมือนใครบางคนที่อ่านหนังสือมาก
555(อีกที ในความหาเรื่องของตัวเอง)
...
เขาสรุปแนวโน้มของโลกในปีหน้าเอาไว้สิบกว่าข้อ
ขอตัดมาสั้นบ้างยาวบ้าง หรือหั่นทิ้งไปบ้าง ดังนี้ครับ
#ปีของการชี้ชะตา
เลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาจะมาถึงปลายปีหน้า
Economist บอกว่าโดยการคำนวณของAI
โดนัลด์ ทรัมป์จะแพ้
และเบร็กซิตจะทำให้อังกฤษแตกแยก เละเทะ ถึงขั้นหลุดจากแผนที่โลกได้
#งัดข้อกับเศรษฐกิจติดลบ
สถาบันการเงิน-โดยเฉพาะในยุโรป ต้องหาทางรับมือกับ”ดอกเบี้ยติดลบ”ให้ได้
เศรษฐกิจสหรัฐไต่ลวดอยู่บนปากเหว
แต่โลกยังไม่ถึงจุดหายนะ
#จีนยิ่งทะยาน
2020 จะเป็นปีที่จีนจะโฆษ(ราว่าประสบความสำเร็จกีบเป้าหมาย”มั่งคั่งอย่างพอเพียง”
ประเทศอื่นๆพึงเตรียมตัวว่าจะ”ส่งส่วยสองฝั่งฟ้า” ทั้งเรื่องการค้าและเทคโนโลยี ระหว่างจีนกับสหรัฐอย่างไร
#ภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ยิ่งหนักข้อ
หลังเจรจามาเข้มข้นกัน 5 ปี ความกังวลในเรื่องการแข่งขันด้นแสนยานุภาพทางทหารกลับยิ่งขยายตัว
และข้อตกลงเรื่องการควบคุมอาวุธยังไม่มีแนวโน้มจะตกลงกันได้
#“ความยั่งยืน”ยังอยู่ห่างไกล
การประชุมและเจรจาทั้งหลาย มีผลสรุปว่า-ได้พูด
ธุรกิจใหญ่น้อยยังชูธงเรื่องความนั่งยืน-ตราบเท่าที่ผู้ถือหุ้นไม่ขวาง
#กลุ่มประเทศอ่าวเปิดตัวสู่โลก
ดูไบจะเป็นเจ้าภาพเวิลด์ เอกซ์โป
ซาอุดีอารเบียจะเป็นเจ้าภาพประชุมสุดยอด G20
#แข่งกันไปดาวอังคาร
มีสหรัฐ ยุโรป จีน และสหภาพอาหรับเอมิเรตส์(?)อยู่ในลู่
(ส่วนบางประเทศไปถึงดาวอังคารแล่ว โดยใช้น้ำลายเป็นพาหนะ-555)
#ด้านบวกและลบของเทคโนโลยี
บวกได้แก่ แท็กซี่ลอยฟ้า รถไฟฟ้าระดับซูเปอร์คาร์ และการแพทย์ชนิดเจาะจงรายบุคคล
ลบก็ได้แก่ บริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีจะถูกตรวจสอบเข้มข้นขึ้น เสียภาษีมากขึ้น และถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักขึ้น
อินสตาแกรมจะมีบทบาทสูงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
#ปีแห่งการครบรอบสำคัญๆ
ครบรอบ 500 ปีการเสียชีวิตของราฟาเอล จิตรกรลือชื่อ
ครบรอบ 400 ปีเรือเมย์ฟลาวเวอร์เทียบท่าอเมริกา
ครบรอบ 300 ปีกรณีเซาต์ ซี บับเบิ้ล(ในปี 1720 เพื่อใข้หนี้ที่ทำสงครามกับฝรั่งเศสจำนวน 7 ล้านปอนด์ รัฐสภาอังกฤษผ่านกฎหมายยอมให้บริษัทเซาต์ ซี ผูกขาดการค้าทั้งหมดของอังกฤษในแอฟริกาใต้ อันเป็นกรณีที่ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง)
ครบรอบ 250 ปีบีโธเฟน(นัยว่าจะมีการฉลอง-รำลึกกันในหลายประเทศ)
ครบรอบ 200 ปีฟลอเรนซ์ ไนติงเกล(สหประชาชาติประกาศให้ 2020 เป็นปีแห่งนางพยาบาล)
ครบรอบ 100 ปีกฎหมายควบคุมเหล้าในสหรัฐ(ที่ทำให้เกิดยุคมาเฟียครองเมืองเพราะการค้าเหล้าเถื่อน)
ครบรอบ 75 ปีการทิ้งระเบิดปรมณูฮิโรชิมา-นางาซากิ และการก่อตั้งสหประชาชาติ
และครบรอบ 50 ปีของการแยกวง”บีเทิลส์”
#สตรีมมิ่งครองตลาดบันเทิง
สตรีมมิ่งในอินเตอร์เน็ตขึ้นมาเบียดรายการบันเทิงในทีวีขัดเจน
ธุรกิจสตรีมมิ่งก็แข่งกันดุเดือด เมื่อดิสนีย์ลงตลาดชนเน็ตฟลิกซ์
#เริ่มต้นทศวรรษของ Yold
หรือเหล่า young old
เพราะจะเป็นปีที่เด็กในยุค Baby Boomer จะอายุ 65
และอายุเฉลี่ยของประชากรโลกจะมากกว่า 30 ปีเป็นครั้งแรก
...
ปีนี้ไทยตกเรดาร์ของเวทีโลกไปแล้ว
World in 2020 พูดถึงไทยไว้ติ่งเดียว ในพยากรณ์เศรษฐกิจประเทศต่างๆในโลกปีหน้า
ข่าวไม่ดีนักก็คือว่า เขาคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจปีหน้าของไทยจะอยู่ที่ร้อยละ 2.1 เท่านั้น
เพราะ
รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังใช้หลังพิงกองทัพแบะวุฒิสมาชิกที่ตัวเองแต่งตั้งเข้ามา พยายามผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
แต่การเผชิญหน้าทางการเมืองจะดุเดือดขึ้น
จีนจะเข้ามามีบทบาททั้งเรื่องเศรษฐกิจและการทูตในไทยมากขึ้น
เศรษฐกิจจะยังชะลอตัว เพราะการส่งออกและการบริโภคในประเทศยังทรุด
...
หลังจากข้อมูลของ”นักอนาคตศาสตร์”ผ่านไป
ก็ถึงรอบของหมอเดา
ที่ขอเสริมสั้นๆแค่ไม่กี่ประเด็นว่า
#เศรษฐกิจปีหน้าทรุดหนักกว่าปีนี้
เพราะความไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวของรัฐบาล ทำให้นโยบายกระจัดกระจาย
นโยบายบาทแข็งของแบงก์ชาติร้ายกาจยิ่งกว่า 3 สารพิษ เพราะฆ่าหมดทั้งส่งออก ท่องเที่ยว และการเกษตร
#ความเหลื่อมล้ำที่สูงขึ้นบ่มความเกลียดชังหมั่นไส้ดันในสังคมมากขึ้น
ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมครับ เขียนมาหลายหนแล้ว
#การเผชิญหน้าทางการเมืองจะดุเดือดขึ้น
ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเช่นกัน ทุกท่านรู้อยู่แก่ใจ
มีหมายเหตุนิดเดียวว่า ตัวเติมเชื้อไฟให้ความขัดแย้งลุกโชนขึ้น คือ”ภาวะสองมาตรฐานทางกฎหมาย”
...
สุดท้าย-ไม่เชื่อก็ฟังไว้ติดหูเป็นเรื่องสนุกนะครับ
#ดวงเมือง
ปลายปีหน้า ดาวทั้งหลายจะมาทำมุมกันเหมือนปี 2325 และ 2475
ทั้งสองปีเกิดนั้นเกิดอะไรขึ้น ไปถามนักประวัติศาสตร์ดู
จะหาคำอธิบายเพิ่มเติม ไปหาจากโหรหรือหมอดู(ที่ไม่สอพลอฝั่งไหน)ดู
จะได้เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกันไว้เนิ่นๆ


Thakoon Boonparn

(https://www.facebook.com/thakoon.boonparn/posts/10213181866055817)