ตู่เอ๊ย คุยไว้เยอะ คำโตทั้งนั้น
ขออยู่ต่อนานๆ เพื่อช่วยชาติ ขนาดเริ่มสมัยสองแบบลดเผด็จการเหลือ ‘ครึ่งใบ’ มาได้แค่ครึ่งปี ก็กำลังเละตุ้มเป๊ะ
ส.ส.ลิ่วล้อที่วางหมากไว้เป็นตัวแสบคอยป่วน บังเอิญทึ่มเกินไปเลยกำลังจะเข้าซังเต
ทั้งลูกทั้งพ่อ
แต่ข้อสำคัญอยู่ตรงพวกแกนนำทั้งหลาย
อุตส่าห์โอนพี่ใหญ่ไปคุมพรรคการเมืองแล้วนะ
กลับกลายเป็นตัวทำวุ่นเอง “กลับแพ้เกมของ ‘นักเลือกตั้ง’
พรรคพลังประชารัฐ” (จาก Thanapol
Eawsakul)
เรื่องก็คือว่า ‘พี่ป้อม’ นี่ละพยายามจัดระเบียบใหม่ในพรรค
แบบว่าต้องการ “เปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค” และ “โล๊ะ
กก.บห.พรรคทั้งกระบิ” นัยว่าเพื่อให้ ‘เด็กป้อม’
ทั้งเสี่ยแฮ้ง เสี่ยเฮ้ง ทนายวิรัช โปรเฟสเซ่อโฆษก ธรรมนัส
และไพบูลย์ ยกโขยงเข้าไปแทน
มิหนำซ้ำต้องการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคและหัวหน้าพรรคใหม่
(ตัวชิงเลขาฯ เป็น อนุชา นาคาศัย และหัวหน้าเห็นว่าจะให้ ไพบูลย์ นิติตะวัน
ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกฯ พร้อมอนุชา เข้าเสียบ) ร้อนถึง สุริยะ
จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องนอนเตียงคนไข้ไปร่วมประชุมโหวต
แผนยึดพรรคนี้พวก ‘สามมิตร-สี่กุมาร’ ไม่ยอม
ร่วมแรงกันต้านสุดกลั้นจนสำเร็จ มีการเรียกตัว วิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค อุตตม
สาวนายน หัวหน้าพรรค และสนธิรัตน์ สนธิจิรธิวงศ์ เลขาธิการพรรคเข้าทำเนียบรัฐบาล
คุยเข้มที่ห้องทำงานนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
จากนั้นพวกแกนๆ ทั้งหลายพากันไป ‘ประชุมก่อนประชุม’ กรรมการบริหารที่ห้อง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำเอาเฮียป้อมเค้า ‘ควันออกหู’ เมื่อเจอข้อบังคับที่ ๑๒ ที่บอกโต้งๆ ว่ากรรมการบริหารอยู่ได้สี่ปี
และไม่มีบ่งว่ากรรมการบริหารเลือกคนใหม่มาแทนตัวเองได้
ผลโหวตออกมา วงในให้ข่าว ‘ประชาชาติธุรกิจ’ ว่า “เป็นการประนีประนอมของกลุ่มก้อนภายในพรรคเท่านั้น”
มีการเพิ่มจำนวนกรรมการบริหารอีก ๑๗ คนตามโผเดิมพี่ป้อม จนขณะนี้มีทั้งสิ้น ๓๔ คน
นอกนั้นเป็นการอนุมัติเปลี่ยนสัญญลักษณ์ ‘โลโก้พรรค’
โดยรูปธงชาติ ๖ เหลี่ยมเดิมซึ่งอ้างว่าแทนสัญญลักษณ์รังผึ้งนั้นพี่ป้อมบอกเชยไป
เปลี่ยนใหม่เป็นวงกลมหมายถึงสามัคคี กลมเกลียว ไม่มีหักเหลี่ยมหักคมกันอีก แต่ สมศักดิ์
เทพสุทิน หนึ่งในสี่กุมารกลับเห็นว่า “กลายเป็นลูกโลกที่ใหญ่ขึ้น เป็นพระจันทร์
เป็นพระอาทิตย์ กลม ๆ”
แต่ช้าก่อน อย่าเพิ่งตีอกชกลมกันไป
ที่แท้มีชาวบ้านตีความภาพโลโก้ใหม่นี้ไว้ให้แล้วว่าเหมือน 'พวงหรีด'
