เฮ้ย เพิ่มเป็น ๒๐
ปีแล้วเหรอที่จะเปลี่ยนประเทศจากกับดัก ‘รายได้ปานกลาง’
ไปสู่รายได้สูง เมื่อ ๕ ปีที่แล้วได้ยินแว่วๆ ว่าทำได้ใน ๕ ปี ๑๐
ปีไงล่ะ นี่ถ้าทำจริงมันจะไหวหรือ บ้านเมืองมิเป็นหนี้จมหูท่วมหัว ขนาด ๕
ปีมานี่ทำงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้นไม่หยุด
วานนี้โปรเฟสเซ่อโฆษกแจ้งผลประชุม ครม.
คสช.๒ ตั้งงบฯ ปีโน้น (๒๕๖๔) เอาไว้ ‘ขาดดุล’
อีกพะเรอเกวียน ‘ไอทู้บ’ นายกฯ คนที่บอก “ปัญหามีไว้ให้แก้ อนาคตมีไว้ให้ทำ...เรามีวิสัยทัศน์ของเรา
คือการนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน”
นั้นต้องการเวลา ๒๐ ปี เพื่อหนีกับดัก ‘ปากดี ไม่มีกึ๋น’ ไปหาความสิ้นไร้ของประชา และล้มละลายของชาติ
ขนาดปี ๖๔ นี่เตรียมเป็นหนี้เพิ่มอีกแสนล้านบาท จากรายจ่ายเดิมในปีหน้า ๓.๒
ล้านล้านบาท เพิ่มเป็น ๓.๓ ล้านล้านในปีต่อไป
เท่ากับขาดดุลในปี ๖๔ จำนวน ๕๒๓,๐๐๐
ล้านบาท มากกว่าปี ๖๓ ราว ๕๔,๐๐๐ ล้านบาท และมากกว่าปี ๖๒ ถึง ๗๓,๐๐๐ ล้านบาท เพราะมองเห็นจะแจ้งแน่นอนว่าไม่มีปัญญาหาเงินได้มากกว่า
๒.๗๗๗ ล้านล้านบาท
คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจปี ๖๔ จะอยู่ที่
๓.๑ ถึง ๔.๑ เปอร์เซ็นต์ อันเป็นการประเมินสูง ซึ่งที่ผ่านมาในยุค คสช.
ไม่เคยทำได้ตามประเมิน อย่างเช่นปีที่กำลังจะจบลง (๒๕๖๒) ประเมินไว้เกิน ๓%
แต่แล้วอย่างดีได้แค่ ๒.๘%
คำนวณตามสัดส่วนถ้าประเมิน ๓.๑
เอาจริงคงเหลือแค่ ๒.๙ อย่างเก่ง แบบนี้ไม่เรียกว่า “พัฒนาให้มีความเข้มแข็งสามารถที่จะเลี้ยงดูตัวเองได้
ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙” แล้วละ
(https://www.khaosod.co.th/politics/news_3272252 และ https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1735350)
เพราะมันเกินเลยไปเยอะแยะจาก ‘พอเพียง’ สู่ ‘พอกันที’ ทั้งที่ดีแต่คุยอวดเก่งอวดรู้ เที่ยวสอนประชาชนอย่างโน้นอย่างนี้
เข้าเนื้อตัวเองทั้งนั้น ดังที่เคยพูดเรื่องโรงงานปิดกิจการ ๑,๗๐๐ แห่ง
แต่เปิดใหม่กว่า ๒ พัน
แต่แล้วก็โดนรองประธานสมาพันธ์แรงงานสมานฉันท์
ชาลี ลอยสูง แย้งที่กรมแรงงานอ้างว่ามีกิจการเปิดใหม่ ๓,๒๑๙ รายนั่น
ตามที่มีการจดแจ้งขอเปิดกิจการในโครงการอีอีซี แต่กิจการเหล่านี้ยังไม่ได้มีการจ้างงานแต่อย่างใด
มีแต่บนแผ่นกระดาษ ไม่ปรากฏตัวตนจริง
ที่เป็นจริงต้องนี่ เดือนนี้ (ธันวา)
เดือนเดียวมีโรงงานปิดแล้วสามแห่ง คือโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ชลบุรี
โรงงานพล้าสติกที่อยุธยา และโรงงานผลิตถุงยางที่สมุทรสาคร อย่างน้อยๆ คนงาน ๑,๒๐๐
คนถูกลอยแพ มีส่วนน้อยที่ได้รับเงินสมณาคุณทดแทน
ถึงจะอ้างว่าบริษัทที่ปิดๆ กันไม่นานก็เปิดใหม่
เพียงปิดกิจการเพื่อกำจัดอิทธิพลของสหภาพแรงงานในโรงงานแห่งนั้น แต่ มนัส โกศล
ประธานสมัชชาพัฒนาแรงงานโต้ว่า พูดอย่างนั้นง่ายเกินไปหน่อย
ในเมื่อมีกฎหมายแรงงานบังคับใช้อยู่