วันอังคาร, ธันวาคม 24, 2562

ประเทศแย่ๆที่ใสสะอาด... Monopoly, Oligopoly & Corruptible Sectors กับตลาดหุ้นไทย




Monopoly, Oligopoly & Corruptible Sectors ……(23 ธค.2562)

ในการประชุมCorporate Planเมื่อเร็วๆนี้ พอถึงช่วงของฝ่ายDirect Investmentซึ่งทำหน้าที่ลงทุนในหุ้นของบริษัท ทุนภัทร ซึ่งแรกเริ่มก็ลงทุนในหุ้นไทยในรูปแบบValue Investment สิบปีแรกผลตอบแทนดีมาก แต่มาระยะสี่ห้าปีหลังหาหุ้นดีๆราคาตำ่ในบ้านเรายากเต็มที แถมศักยภาพประเทศถดถอย แป้กอย่างยั่งยืนมาหลายปี เลยขยายไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังพัฒนามาแรง เศรษฐกิจขยายตัวเกินหกเปอร์เซนต์ต่อปีต่อเนื่องกัน คือ เวียตนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย

น้องๆDIถามว่า ในฐานะที่ผมทำงานอยู่ในตลาดหุ้นไทยมากว่าสี่สิบปี เคยเห็นความรุ่งเรืองตกต่ำในช่วงของการพัฒนามาตลอด ผมมีคำแนะนำอะไรไหม ว่าในประเทศกำลังพัฒนาตอนที่GDPต่ำๆระดับสามพันสี่พันเหรียญต่อคนต่อปี แต่กำลังขยายตัวดีนั้น เราควรจะลงทุนในหุ้นกลุ่มไหน Sectorไหนดี

ผมตอบไปโดยที่แทบไม่ต้องคิดเลยว่า ให้ลงในMonopoly Oligopoly กับ Corruptible Sectors เพราะรับรองว่ากำไรดีค่อนข้างแน่ ซึ่งในประเทศเหล่านี้ซึ่งอัตราการโกงที่วัดโดย Corruption Perception Index ยังอยู่ในระดับไล่เลี่ยกัน (เวียตนาม ได้คะแนน33\100อยู่อันดับ117\180. ฟิลิปปินส์ ได้36 อันดับ99 เท่ากับไทย. อินโดนีเซียได้38 อันดับ89 ) โอกาสในการลงทุนในหุ้นพวกนี้ยังมีอยู่ไม่น้อย

เรื่อง Monopoly Oligopoly กับ Corruptionนั้น เป็นเรื่องที่มีความคาบเกี่ยวกันอย่างมาก เพราะการคอร์รัปชั่นนั้น ส่วนใหญ่ก็คือการที่ภาคเอกชนจ่ายเงินเพื่อให้ผู้มีอำนาจใช้อำนาจรัฐขจัดการแข่งขันนั่นเอง ซึ่งจะทำให้เกิดกำไรส่วนเกิน(เทียบกับถ้าต้องแข่ง)ซึ่งเมื่อหักเงินที่ต้องจ่ายยัดโกงแล้วก็ยังเหลือกำไรดีอยู่มาก

การขจัดการแข่งขันนั้น อย่างเด็กๆก็เช่น การฮั้ว การล็อคเสปค ประมูลขายของหน่วยงานรัฐ แต่ถ้าจะทำขั้นสูงต้องล็อคจนได้Monopoly Oligopoly มาเลย (เช่น ดิวตี้ฟรี หรือขายไฟฟ้า) หรือไม่ก็มาในรูปสัมปทาน เช่น เทเลคอม

Corruptiblesนั้น จะเกิดจากธุรกิจที่ค้ากับรัฐ หรือที่ต้องใช้อำนาจรัฐเป็นส่วนใหญ่ จึงมักจะอยู่ในNontradables เพราะในTradables เช่น Exportนั้น ยัดเงินเพื่อช่วยให้เราได้เปรียบในการแข่งขันไม่ได้

ข้อเสียของการลงทุนในCorruptiblesนั้นก็คือ จากประสบการณ์ที่พบ ผู้ถือหุ้นใหญ่หรือผู้บริหารที่ต้องหาเงินไปยัดให้ผู้มีอำนาจนั้น ย่อมไม่ควักกระเป๋าตัวเอง แต่ต้องไซฟ่อนไปจากบริษัทที่เราถือหุ้นนี่แหละ(เช่น บวกไปในเงินลงทุน)และร้อยทั้งร้อยมักจะยักยอกออกไปมากกว่าที่ไปยัดเสมอ เรียกว่าโกงกันไปเป็นทอดๆ หามาตรฐานบรรษัทภิบาลยากมาก

ข้อเสียอีกอย่างในระยะยาวก็มี เพราะถ้าประเทศไหน Corruptiblesรุ่งเรืองกำไรมากๆ อีกไม่นานแหละครับ ระดับการพัฒนาจะค่อยๆแผ่ว เติบโตช้าลง กลายเป็นประเทศแป้กๆอย่างไทยไป ซึ่งพอถึงตอนนั้นเราก็ต้องปิดพอร์ต หันไปหาประเทศเกิดใหม่โกงเยอะลงทุนต่ออีก

ทั้งหมดที่พูดนี่เป็นเทคนิคในการลงทุนในประเทศแย่ๆอย่างเวียตนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนะครับ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับประเทศไทยใสสะอาดของเรานะครับ


Banyong Pongpanich