วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 26, 2562

ข้อเขียนนี้น่าคิด ขอบคุณผู้เขียนคือคุณ Dvibhadr "คิดมาซักพัก ว่าประโยคที่ว่า #รับเงินหมากาเพื่อไทย กำลังจะจบลงแล้ว"




ภาพจาก ข่าวสด

คิดมาซักพัก ว่าประโยคที่ว่า #รับเงินหมากาเพื่อไทย กำลังจะจบลงแล้ว ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง โดยเฉพาะ "หัวเมืองใหญ่ๆในอีสาน" อย่างขอนแก่น อุบล โคราช หรือแม้แต่อุดร ก็ตามที
.
ขณะนี้พลังประชารัฐกำลังขยายเครือข่ายการเมืองในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ภาคกลางหรือภาคตะวันออกนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกัน และเป็นไปได้ว่า "เชียงใหม่และภาคเหนือตอนบน" อาจจะเป็นที่มั่นสุดท้ายจริงๆที่แน่นอนที่สุดของเพื่อไทย
.
เรากำลังเห็นโครงสร้างหลายอย่างถูกรัฐกึ่งเผด็จการนำมาใช้แบบเดินวงจรย้อนกลับ เช่น "หมู่บ้านเสื้อแดง" ก็กลายสภาพเป็น "หมู่บ้านประชารัฐ" ดังนั้น การที่พลังประชารัฐตีแตกรอบนี้ มันอาจจะเป็นสัญญาณว่ายุคปลายของเพื่อไทยกำลังจะมาถึง
.
ถ้าหากการวางเกมระบบหัวคะแนนแบบนักเลงโบราณ สอดประสานกับงาน กอ.รมน.ที่มีประสบการณ์งานการเมืองมวลชนโชกโชนมานับสิบปี ถอดบทเรียนไม่รู้จบ ผนวกเข้ากับการกระชับอำนาจเข้มงวดและรัฐบาลนี้อยู่ไปต่อเรื่อยๆ เพื่อไทยก็อาจจะถึงจุดจบเร็วขึ้นไปอีก
.
และทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในท่ามกลางสภาพที่ดูเหมือน "หมาจนตรอก" ทางการเมืองของตระกูลชินวัตร ที่ตกอยู่ในสภาพผู้แพ้ต่อเนื่องยาวนาน ตัดสินใจทางการเมืองพลาดจนเสียเครดิตไปหลายครั้ง ทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบทางจิตวิทยาการเมือง และสภาพดังกล่าวนี้ก็สะท้อนข้อจำกัดในตัวเองของการเมืองแบบ Populism ที่เน้นเชิดชูตัวบุคคล ที่ก็มักจะมีขึ้นมีลง ตามชะตาชีวิตทางการเมืองของบุคคลผู้นั้น/กลุ่มนั้น ที่ถ้าหากไม่มีกลไกรัฐในมือ ก็ย่อมไร้ความมั่นคงในตัวเอง
.
พูดอีกแบบก็คือ ยุทธศาสตร์การเมืองแบบนี้มีข้อจำกัด เพราะ "#ประชาชน" ไม่ใช่ "ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก" จริง เป็นแต่เพียงรถหรือยานพาหนะเท่านั้น หากคนขับหายไป ก็กลายเป็นกองเหล็ก ที่พร้อมจะให้คนขับใหม่มาขับขี่ได้ เมื่อถึงเวลา
.
ที่จริงบทเรียนนี้ไม่ใช่เพื่อไทยเท่านั้น แต่พรรคฝ่ายค้านเกือบทุกพรรคก็ดูจะไปในทิศทางเดียวกัน
.
...อยากได้ยินคำว่า "ประชาชน สู้ๆ" ในการชุมนุมทางการเมือง ซักที จะอีกสิบปีก็อดใจรอได้ แต่ต้องกล้าเดินในแนวทาง "เดินไกล" และควรจะเลิกคิดมักง่ายไร้สาระว่า "เวลาอยู่ข้างเรา" อะไรนั่นได้แล้ว เวลามันไม่อยู่ข้างใครทั้งนั้น แต่กงล้อประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยคนผลักดันให้มันหมุนไป ไม่ว่าจะเป็นคนส่วนน้อยหรือคนส่วนใหญ่ก็ตาม


Dvibhadr Bundrikswast

...

ข้อเขียนนี้น่าคิด ขอบคุณผู้เขียนคือคุณ Dvibhadr และเห็นด้วยว่า เวลาไม่อยู่ข้างใครทั้งนั้น อีกทั้งกงล้อประวัติศาสตร์ก็เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยคนผลักดันให้มันหมุนไป ไม่ว่าจะเป็นคนส่วนน้อยหรือคนส่วนใหญ่

ปล. รู้สึกต้องอธิบายความละเอียดเพิ่ม เพราะขี้เกียจเขียนยาวในคอมเมนท์ จากข้อความนี้ ดิฉันไม่ได้สนใจประเด็น "รับเงินหมากาเพื่อไทย" ด้วยซ้ำ แต่คิดต่อว่า

1. เป็นเรื่องจริงว่า ฝ่ายฟาสซิสต์ยังคงขยันจัดตั้งมวลชน และแม้เราจะเห็นว่าไม่น่ากลัว ก็ไม่ควรประมาท ที่ผ่านมาดิฉันเอง คิดแบบประมาท มั่นใจโลกโซเชียลและคนรุ่นใหม่ที่รู้จักในแวดวงมาก จึงต้องบอกตัวเองว่า อย่าประมาท โลกจริงกว้างกว่าโลกของเรา

2. ฟาสซิสต์ทำงานต่อเนื่อง ดังนั้น เราก็ทำงานต่อเนื่องเช่นกัน ไม่หยุดไม่ท้อถอย ไม่สิ้นหวัง การต่อสู้ทางความคิดยาวนาน วิธีการต่อสู้มีหลายรูปแบบ

3. ดิฉันเห็นว่า ชาวบ้าน คิดเป็น และมียุทธศาสตร์ยุทธวิธีของชาวบ้านเองที่จะให้ชีวิตของชาวบ้านและชุมชนได้ประโยชน์ การที่ฝ่าย ปชต ไม่ชนะเลือกตั้งในบางครั้ง ไม่ได้แปลว่าชาวบ้านสนับสนุนเผด็จการฟาสซิสต์ มันมีอีกหลายเรื่องราวในนั้น ซึ่งคนทำงานการเมือง พรรคการเมืองต้องศึกษาและนำไปปรับการทำงานให้ตรงใจและครองใจชาวบ้านต่อไป


Nithinand Yorsaengrat