เพราะความล้าหลังทั้งการเมือง เศรษฐกิจ
และสังคม แล้วยังอวดตัวสำคัญตนผิดๆ ว่าแก่กล้าเหนือกว่า พวก ‘ผู้ปกครอง-ผู้ใหญ่’ ของไทยเดี๋ยวนี้จึงถูกเด็กสั่งสอนให้บ่อยไป
จากระดับ ‘อาม่า’ ถึงประธานสภาฯ โดนถอนหงอกกันถ้วนหน้า
ต่อการที่มีคลิปแชร์และวิจารณ์กัน ‘ไวรัล’ นักเรียนมัธยม ๓
ถูกผู้ปกครองหญิงวัยปลายคนหนึ่งตบหน้า
เนื่องจากนางใช้โทรศัพท์เสียงดังระหว่างรอหลาน นักเรียนชายรายหนึ่งเข้าไปเตือน
นางกลับด่ากราดแล้วตบหน้านักเรียนคนนั้นฉาดใหญ่
ถึงถูกนักเรียนตบกลับแล้วจิกผมเหวี่ยงลงไปกับพื้น
กลายเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ว่านักเรียนคนนั้นจะต้องโดนทำโทษหนักแน่
ถึงขั้นบอกว่าทางโรงเรียน (อัสสัมชัญ ปากน้ำ) สั่งพักการเรียนและห้ามสอบเลื่อนชั้น
จนวันนี้ (๒๑ ธันวา) ทางโรงเรียนเปิดแถลงข่าว
ว่าไม่ได้พักการเรียนเด็กหรือสั่งงดสอบแต่อย่างใด
เพียงแต่ปรึกษากับผู้ปกครองเด็กคนนั้นแล้ว เห็นว่าเด็กเกิดความกระทบกระเทือนจิตใจ
จึงให้เลื่อนการสอบออกไปเมื่อเปิดเรียนหลังปีใหม่
ทั้งแจ้งเพิ่มเติมด้วยอีกว่า “ส่วนตัวอาม่ายังยอมรับด้วยว่า
สาเหตุที่ทำลงไปเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบและขาดสติ”
ได้มีการพูดคุยกันสองฝ่ายเป็นที่เข้าใจ “อาม่าก็สบายใจมากขึ้น” ส่วนนักเรียนที่ถ่ายคลิปไว้แล้วเผยแพร่ก็ถูกเรียกตัวไปสั่งสอนพอประมาณ
ยกระดับขึ้นไปหน่อยเป็นเรื่องที่ผู้บัญชาการทหารบกวันก่อนให้สัมภาษณ์ว่าบ้านเมืองมีปัญหา
‘วิกฤตสงครามตัวแทน’ อ้างว่าคนแพ้ไม่ยอมแพ้
ให้คนอื่นมาปั่นป่วนก่อเรื่องทำลายชาติ พาดพิงไปถึงการจัด ‘วิ่งไล่ลุง’ ว่ามีนัยยะแอบแฝง
จึงถูกสื่อ พรรคฝ่ายค้าน และนักกิจแวดวงประชาธิปไตยถามกลับกันระนาว
ว่าเบื้องหลังการรัฐประหารครั้งต่างๆ ใครล่ะอยู่เบื้องหลัง
ข้อสำคัญเป็นการตอบกลับของผู้จัดรายการวิ่งในวันที่ ๑๒ มกรา ๖๓ นี้
ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่นักกิจกรรม
‘บอล’
ธนวัฒน์ วงศ์ชัย แกนนำคนสำคัญเปิดเผยว่าตนและเพื่อนถูกกดดันจากผู้ครองอำนาจอย่างหนัก
ส่งเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคอยติดตาม ไม่ว่าจะไปไหน เขาบอกฝากกลับไปยัง
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ด้วยว่า
“อย่าเอาตัวของท่านมาเป็นบรรทัดฐานตัดสินคนอื่น
เด็กสมัยนี้มีความคิดมากพอที่จะทำหรือไม่ทำอะไร” กิจกรรมวิ่งนี้มีผู้ให้ความสนใจสนับสนุนจำนวนมาก
การเปิดลงทะเบียนรอบแรกได้ ๘ พันคนแล้ว กำลังต้องเปิดรอบสองอีก
ทั้งยังยืนยันว่ากิจกรรมที่จัดวิ่งนี้ “ใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ...การทำกิจกรรมของเราเปิดเผย”
อย่าได้ใช้อำนาจมืดคุกคาม “เรามีหลักฐานทั้งหมด” และจะนำไปให้กรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนตรวจสอบต่อไป
(https://www.matichon.co.th/politics/news_1829978 และ https://www.komchadluek.net/news/regional/405845?twitter=)
เช่นกันกับระดับประธานสภาฯ เมื่อมี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่อภิปรายพาดพิงเรื่องราวเมื่อต้นเดือน
ที่ ‘เพ็นกวิน’ พริษฐ์
ชีวารักษ์ นักศึกษาธรรมศาสตร์นำพจนานุกรมไปมอบให้นายชวน หลีกภัย จากเหตุวินิจฉัยผลกระทบ
ม.๔๔ สับสนให้ ‘ลงคะแนนใหม่’ หรือ ‘นับคะแนนใหม่’
น.ส.อมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล
ส.ส.บัญชีรายชื่อระบุว่านายแทนคุณ อิสระ คณะทำงานของประธานกล่าวหานายพริษฐ์ว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง
“ใครจ้างมา” เธอเห็นว่าเป็นการไม่เหมาะสม แต่ประธานฯ
ชวนกลับยืนยันว่าเหตุการณ์วันนั้นมีนักการเมืองคอยยุให้นักศึกษาพูด
(จากข่าวไทยโพสต์)
การนี้ ‘เพ็นกวิน’
จึงนำไปเขียนคอมเม้นต์ตอบทางหน้าเฟชบุ๊คของตนว่า “ประธานชวนพูดว่านักการเมืองให้ท้ายนักศึกษามาเคลื่อนไหว
ผมขอถามกลับครับว่าใครให้ท้ายท่านมาเป็นประธานสภา”