ร้องรำทำเพลงกันชื่นมื่น ๓ ‘พรรคร่วมรัฐบาล’ (พรรค คสช. พรรค ภท. และพรรค ปชป.) งานเลี้ยงคริสต์มาส-ปีใหม่นักข่าวทำเนียบฯ
‘ตู่’ จับมือ “เสี่ยหนู-รองจุรินทร์
ร้องเพลง ‘จับมือไว้’ รับรอง “แพไม่มีแตก
ไม่มีล่ม”
อันนั้นจากข่าว @WassanaNanuam นะ ใครอย่าไปดูรายการ ‘อี๊ปอง’ ช่องเนชั่นล่ะ ไม่ได้เห็นหน้า อนุทิน ชาญวีรกูล
อันเป็นที่รักของคุณพี่ศรีนวล อนค. (อนาคอนด้า) อัญชะลีบอก “เขาไม่ได้อยากออกช่องเรา
เราจะทำสิ่งใดได้ ก็ต้องเบลอเขา”
ถึงจะดูเหมือน ‘หนอนบ่อนไส้’ หรือแค่ ‘สนิมเกิดแต่เนื้อใน’
ก็ตามแต่ รัฐบาลตู่ ๒ ก็ยังเป็นต่อฝ่ายไม่เอาสืบทอดอำนาจรัฐประหารแทบทุกกระบวนท่า
แม้กระทั่งกระบวน ‘แก้รัฐธรรมนูญ’ ที่ฟากตรงข้าม
คสช.ต้องการ อันได้ถูกไฮแจ็คไปแล้ว
เมื่อเผยชื่อ ‘๔๙ อรหันต์’ กรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ รธน.มีพรรค
คสช.(โควต้ารัฐบาล) ๑๒ คน พปชร.อีก ๙ บวกพวกร่วมรัฐบาล ปชป.ได้ ๔ และ ชพน.อีก ๑ ขณะที่ฝ่ายค้าน
พท.๑๐ คน อนค.(ที่ไม่ใช่อนาคอนด้า) ๖ คน
กับพรรค ‘ป๊าเสรี’
ที่ให้ สมชัย ศรีสุทธิยากร เป็นตัวแทน และ ทวี สอดส่อง ของประชาชาติ
อย่างละหนึ่ง แถมหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่อาจกลายเป็น ‘สวิงโหวต’ เวลาใดเวลาหนึ่งได้
ส่วนเนื้อในของการแก้ไขมีหลายมิติ ขณะที่มีข้อกังขา
(จาก บก.ลายจุด) ว่ากรรมาธิการบางคนจากค่าย คสช. อย่าง สนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม
(โควต้า พปชร.) และไพบูลย์ นิติตะวัน (โควต้ารัฐบาล) อาจจะมีแค่คำเดียว ‘ไม่แก้’ ก็ได้
สำหรับเนื้อหากลางๆ จากที่ ครช. หรือคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เสนอไว้ ๗ ข้อ ก็ไม่รู้เสียงข้างมากในกรรมาฯ
จะเอาไปพิจารณาหรือไม่ จากที่ อนุสรณ์ อุณโณ ผู้เป็นประธานเสนอไว้ ขอให้มี “สวัสดิการพื้นฐานแบบถ้วนหน้า
...สิทธิในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต...สิทธิในการแสดงออกและการชุมนุม”
และแก้ไขระบบเลือกตั้ง ยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี
(อันนี้เขาไม่ระบุละเอียดว่าถ้า ‘ร้องเพลงเก่ง’ มีคะแนนเพิ่มไหม
(https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_255845
และ https://www.matichon.co.th/politics/news_1825420)
เหตุฉะนั้นเมื่อรัฐบาลแข็งแกร่ง จึงได้มี ‘ผู้กล้า’ นามว่า ‘บี’ กปปส. “ศรัทธาไม่มีท้อ” โพสต์ข้อความทำนอง ‘เฟคนิวส์’
ทั้งที่ตนเองเป็นรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ถึงการโพสต์ภาพโดยหญิงสาวผู้หนึ่งซึ่งไปร่วมชุมนุมที่สกายว้อล์คเมื่อวันก่อน
ว่า “ตอนนี้ทางตำรวจได้จับกุมตัวผู้กระทำผิดแล้ว
แต่ยังไม่สามารถเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและจะมีผลต่อรูปคดี”
ทว่าการจับกุมแบบลับๆ อย่างนี้ สุณัย ผาสุข แห่งฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์เห็นว่า
“รัฐบาลต้องเปิดเผยว่าใครโดนจับ,
ใช้กฎหมายอะไร, เอาตัวไปไว้ที่ไหน, มีสิทธิ์พบทนายหรือไม่ > ไม่อย่างนั้นก็เข้าข่ายคุมตัวโดยพลการและบังคับสูญหาย”
อันละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากล ที่ประเทศไทยลงนามรับรอง
ซึ่งการกระทำของ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
นี้ประดุจย่ำเหยียบกระบวนการยุติธรรม ด้วย “คิดว่าตนเองยังเป็นแกนนำกลุ่มเคลื่อนไหว
ไม่ได้ตระหนักว่าตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่เป็นทางการ...จึงทำการสื่อสารกับมวลชนด้วยถ้อยคำปลุกเร้า
ที่จะทำให้เรื่องลุกลามบานปลาย” ในเมื่อ “รัฐจะต้องดำเนินการอย่างเปิดเผยโปร่งใส
ถูกต้องตามขั้นตอนกระบวนการ รวมทั้งให้สิทธิประชาชนในฐานะผู้ต้องหาในการสู้คดี
ไม่ว่าจะเป็นการพบญาติ การมีทนาย หรือการประกันตัว” Anusorn Unno เตือนสติ
อันกรณีโพสต์ภาพที่พุทธิพงษ์บอกต้องปกป้องอย่างที่สุดนี้ได้กลับไปชี้แจงบนหน้าเฟชบุ๊คแล้วว่า
“ข้อความที่ปรากฏบนกระดาษก็มีความหมายตรงตัว คือสื่อถึงรัฐบาลอย่างเดียว...อย่าทำลายชีวิต
ทำลายอนาคตกันเพียงเพราะการโพสต์รูปเพียงรูปเดียว”
เช่นกันกับในอดีตที่มีกลุ่มคนร่วมกระบวนการเดียวกับพุทธิพงษ์นำภาพ
‘สถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของผองไท’ ไปใช้สร้างความขลังให้แก่การ “เอาปืนไล่ยิงคนแบบพันธมิตรเสื้อเหลืองเมื่อปี
(ค.ศ.) 2008” ดังภาพที่ Pruay Saltihead นำลงไว้เป็นหลักฐาน