วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 12, 2562

หวังว่า "กกต.ทั้งห้าคงหาญกล้าแอ่นรับการดำเนินคดีอาญาต่อไป"


เป็นอันแจ่มแจ้งว่ากรรมการเลือกตั้ง ๕ ใน ๗ คน รับธงของอสุรกาย (ที่ บก.ฟ้าเดียวกัน Thanapol Eawsakul เรียกว่า ชนชั้นนำฝ่ายอำมาตย์’) ผู้มีอำนาจทางการเมือง ชงเรื่องส่งศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการยุบพรรคอนาคตใหม่

และหากมีเหตุเพทภัยเกิดกับ คสช.จนปรากฏในภายหลังว่าการ ชงครั้งนี้กระทำโดยผิดกฎหมาย กกต.ทั้งห้าคงหาญกล้าแอ่นรับการดำเนินคดีอาญาต่อไป ดังที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ชี้แนะ

มาดูความเป็นไปได้ ไล่เลียงตั้งแต่ ดาบหนึ่ง “ไม่ให้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าสภาในการเลือกตั้ง ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒” จนมาถึง ดาบสอง “ไม่ให้พรรคอนาคตใหม่ลงเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งครั้งถัดไป” โดยให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินด้วย เหตุผลข้างๆ คูๆ

นั่นคือ กกต.อ้าง พรป.พรรคการเมืองมาตรา ๗๒ “ซึ่งเป็นเรื่องการรับเงินบริจาคโดยรู้ว่าเป็นเงินผิดกฎหมาย โกงมา ค้ายาเสพติด รีดไถ มาเฟีย ฯลฯ” ดังที่ Atukkit Sawangsuk ชี้ว่า “มันโดดพรวดข้ามขั้น”

ในเมื่อการให้พรรคการเมืองกู้เงินเอาไปใช้ ได้รับดอกเบี้ย มีสัญญาแน่นอน อย่างเลวก็ต้องรอให้ศาลวินิจฉัยว่าทำได้หรือไม่ เพราะไม่มีกฎบัตรกฎหมายระบุไว้แจ่มแจ้ง จะมีก็แต่ถ้าขี่ม้าเลียบค่าย เอามาตรา ๖๖ มาประกบ ดัง iLaw คาดหมาย

“ที่กำหนดว่า บุคคลใดจะบริจาคเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมือง มีมูลค่าเกินสิบล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปีมิได้” แต่กรณีที่ธนาธรให้พรรคของเขากู้เงินไปใช้ทำกิจกรรมหาเสียงก่อนเลือกตั้ง ๑๙๑ ล้านบาท “ไม่ใช่การบริจาค”

ดังที่ Ekachai Chainuvati นักวิชาการให้ความเห็นไว้ “พรป. กกต. ให้นิยามคำว่า เงินบริจาคไว้ชัดเจนแล้ว กรณีเงินของธนาธร คือให้กู้เงิน คิดดอกเบี้ยด้วยร้อยละ ๔ แล้วมีสัญญากู้เงิน ถ้าจะดูก็ต้องไปดูมาตรา ๖๒ พรป. กกต. ว่า ‘เงินกู้ ถือเป็น รายได้หรือไม่”

หากอย่างนั้น โทษฝ่าฝืนตามที่มาตรา ๑๒๒ กำหนดไว้ ให้ “ปรับไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท และปรับวันละหนึ่งพันบาทจนกว่าจะทำให้ถูกต้อง คือยังไงก็ไม่ถูกยุบพรรค” เอกชัยบอกว่ายิ่งกว่า งงกกต.ตีความว่าเงินกู้เป็นเงินบริจาคได้ไง

“บริจาคให้แล้วให้เลยฝ่ายเดียว ไม่ได้เงินต้นคืน ไม่มีดอกเบี้ย...ผมถามว่าสังคมไทยจะบิดเบือนกันขนาดนี้เพื่อเอาให้ได้อย่างนั้นเหรอ” อ่า สังคมไม่ก้มหน้าก็เหม่อมองไปไกลๆ อาจไม่คิดบิดเบือนอะไร แต่กลุ่มคนที่กำอำนาจปกครองต้องการอย่างนั้น

ตามสาระของ สมชัยว่า “กกต. ไม่พยายามพูดถึง เงินกู้เป็นเงินบริจาค เพราะเงินกู้คือเงินกู้ไม่ใช่เงินบริจาค ดังนั้นจึงไม่สามารถไปเอาความผิดพรรคอนาคตใหม่ ว่าไปรับเงินบริจาคเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้”
 
สมชัยยังเจาะลงไปในมาตรา ๗๒ ด้วยว่าเจาะจงเงินบริจาคที่ “ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องบริจาคเงินเกินกว่ากฎหมายกำหนด”

กกต.และ/หรือศาลรัฐธรรมนูญ จะเหมาเอาว่าเป็นอย่างนั้นก็ทำได้ เพราะด้านพอและไม่มีคุณค่าทางกระบวนยุติธรรมเหลืออยู่แล้ว ทำอย่างนี้มาหลายหน แม้แต่รวบรัดว่าหลักฐานที่ กกต.ยัดใส่โถส่งให้พอแล้วสำหรับเอาผิด

ไม่จำเป็นต้องกระทำการไต่สวนตามกระบวนยุติธรรมอารยะ ดั่งเช่นที่ตัดสินยุบพรรคไทยรักษาชาติ ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกแจ้งผิดเสนอข้อเท็จจริงต่อสู้เลยแม้แต่นิด ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาฯ อนาคตใหม่ถึงได้ตั้งข้อสังเกตุว่า

“กกต. เร่งรัดคดีกู้เงินผิดสังเกต ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาไม่มีการสอบสวน มีเพียงการเรียกให้ชี้แจงเพียง ๓ ครั้งในชั้นของกรรมการไต่สวน” นอกจากนี้ “การชี้นำสังคมจากสื่อมวลชน และกระบวนการทำงานในคดีมีเอกสารหลุดออกมา”

ย่อมแสดงว่าเป็นความจงใจของ กกต.โดยแท้ที่จะฟัน อนค.ตามธง เพราะเอกสารที่หลุด ลงนามโดยเลขาธิการ กกต.เอง เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่เรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญกลับไปสู่ความน่าเชื่อถือ เปิดให้พรรคอนาคตใหม่ชี้แจงในขั้นตอนไต่สวน

แต่นั่นคงเป็นการร้องไปอย่างลมๆ แล้งๆ เพราะเป้าหมายบรรไดสองขั้นครั้งนี้คือปิดฉากพรรคอนาคตใหม่ ไม่ให้มีเสียงกระตุกเตือนเรื่องคอรัปชั่นในกองทัพเอย หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญยุติ สว.ตู่ตั้งไว้เป็นฐานคะแนนเสียงของตายในรัฐสภา
 
ที่เหลืออยู่มีแต่การ สู้ต่อของธนาธร ปิยบุตร และ ช่อสืบทอดอุดมการณ์ อนค.นั่นคือไปต่ออย่างไร อันเป็นไปได้สองสามทาง หลังจากยุบพรรคแล้วจะเหลือ ส.ส.ราว ๖๐ คน “ที่ยังเหนี่ยวแน่น และไปอยู่พรรคใหม่ด้วยกัน”

พรรคใหม่อาจจะเป็นพรรคในฟากประชาธิปไตยซึ่งร่วมมัดหมายเป็นฝ่ายค้านกันอยู่ พรรคใดพรรคหนึ่งหรือหลายพรรค หรือว่าอาจไปสวมพรรคที่ตั้งอยู่แล้วแต่ไม่ ‘active’ พักดำเนินการ ไม่เช่นนั้นก็ไปตั้งพรรคกันใหม่เลยแบบที่ตั้ง อนค.

การนี้แม้ว่าตัวตั้งตัวตีแต่อ้อนแต่ออกของ อนค. ส่วนใหญ่จะต้องโดนตัดสิทธิทางการเมืองในฐานะกรรมการบริหารพรรค (๑๑ คน) และบางคนทั้งที่เป็น ส.ส.และไม่ได้เป็น แน่นอนว่าที่เหลืออยู่จะถูกดูดไปอยู่พลังประชารัฐ หรือเต็มใจไปพรรคอื่นๆ บ้าง

แต่การตั้งพรรคใหม่ไม่ใช่จากเครื่องปรุงสดเลยเสียทีเดียว บีบีซีไทยรายงานว่ายังมี คีย์แมน ผู้ร่วมก่อตั้งอีกคนซึ่งเก็บตัวเงียบมาตลอด ชัยธวัธ ตุลาธน รองเลขาธิการพรรค งดออกชื่อ-งดออกหน้ามาแต่แรกๆ และไม่ได้อยู่ในโครงสร้างการบริหารให้ต้องถูกปลิดทิ้ง จึงพร้อมรับไม้ต่อไปได้

จะอย่างไรก็ตาม ก่อนจะถึงจุดนั้น แก่นกลางของ อนค.ก็ประกาศกันแล้ว สู้จนถึงที่สุดในหลักการและกฎหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ อันล้วนแต่ยืนยันความไม่มีทางผิดของพรรคทั้งสิ้น

หาก คสช.และลิ่วล้อสืบทอดอำนาจจะดึงดันไปอีกหน ย่อมหมายถึงลดทอนการใช้อำนาจนอกเหนือกฎหมายลงไปอีกหนึ่งครั้ง ในกระบวนการนับถอยหลังของฝ่ายประชาธิปไตย