วันพฤหัสบดี, กันยายน 05, 2562

ปท.ที่ รัฐ ฆ่าประชาชน!! “หมอเหวง” เล่าเหตุการณ์สมัยเป็นนศ.มหิดล ปวศ.โหดเหี้ยม “45ปี ถีบลงเขาเผาถังแดง”





“หมอเหวง” เล่าเหตุการณ์สมัยเป็นนศ.มหิดล ปวศ.โหดเหี้ยม “45ปี ถีบลงเขาเผาถังแดง”


4 กันยายน พ.ศ.2562
มติชนสุดสัปดาห์


เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นพ.เหวง โตจิราการ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย และเคยเป็นอดีตนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความเล่าเรื่อง 45ปีถีบลงเขาเผาลงถังแดง พฤติกรรมสังหารโหดของอำนาจรัฐขวาจัด กระทำต่อราษฎรไม่เคยเปลี่ยน โดยระบุว่า

45ปี ผ่านไปแล้วตั้งแต่ 2517 ปีที่ผมเป็นนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลและกรรมการบริหารศูนย์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยไปในเวลาเดียวกัน ราษฎรภาคใต้หลายจังหวัดแถบพัทลุงสุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราชมาร้องเรียน ความเดือดเนื้อร้อนใจเรื่องที่เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่จับชาวบ้านไปซ้อมกระทืบทรมานแล้วนำไปใส่ถังน้ำมันสามปลอก (สามร้อยลิตร) หรือเรียกว่าถังแดงโดยใส่น้ำมันเกือบครึ่งถังแล้วจุดไฟเผาทั้งเป็นซึ่ง เป็นการฆ่าแบบอำมหิตสยดสยองผิดวิสัยมนุษย์

ผู้ถูกสังหารส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวอันสุดจะทนทานดังไปไกลหลายกิโลเมตร

ชาวบ้านในหมู่บ้านไม่ไกลโดยรอบได้ยินเสียงที่สุดแสนทรมานดังกล่าวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเจ้าหน้าที่มีปืนและข้ออ้างทางกฏหมายไว้ใช้เป็นเครื่องมือในการเหยียบย่ำประชาชน

ใครแข็งขืนก็ประสบชะตากรรมเดียวกันคือนำไปซ้อมกระทืบทรมานแล้วนำไปใส่ในถังแดงราดน้ำมันแล้วเผาเช่นกัน

ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า ผู้ที่โดนเผาถังแดงมักเป็นผู้ที่เจ้าหน้าที่เหม็นหน้าไม่พอใจจากเรื่องอื่นเช่น ชอบใจสาวคนเดียวกัน ไปบ้านแล้วไม่พอใจเพราะไม่ต้อนรับขับสู้จนพอใจ ไม่ยอมให้เมียหรือลูกสาวไปนอนด้วย ก็มักจะไม่รอด

ในบางครั้งอาจจะมีการลักขโมยวัวควายสัตว์เลี้ยง ชาวบ้านบางคนก็อาจจะเคราะห์ร้ายโดนตั้งข้อหาเป็นโจรทั้งที่ไม่ได้เป็นก็จะถูกซ้อมและลงเอยด้วยยัดถังแดง ฯลฯ

ไม่เพียงเท่านั้นชาวบ้านจำนวนหนึ่งก็จะถูกนำไปถีบลงจากคอปเตอร์ในป่าลึกบนเขาเรียกกันว่า”ถีบลงเขา” ชาวบ้านยังบรรยายถึงความสยดสยองในการเผาถังแดงว่ากลิ่นเผาคนสดๆลอยคละคลุ้งในเวลาค่ำคืน

สร้างความหวาดกลัวอย่างสุดขีด และเพื่อกลบเสียงที่ร้องโหยหวน ทางค่ายก็จะเปิดเครื่องเสียงสมัยนั้นเรียกสิบแปดหลอดรอบค่ายโดยใช้ลำโพงขนาดยักษ์หลายตัว

ศูนย์นิสิตฯจึงมีมติให้เลขาฯและรองเลขาฯฝ่ายการเมืองกับผมที่เป็นกก.บริหารลงไปศึกษาเรื่องราวเก็บข้อมูลและเชิญชาวบ้านมาปราศรัยที่ท้องสนามหลวง

เพื่อบอกเล่ารายละเอียดของเรื่องให้ประชาชนทั่วไปรวมทั้งสื่อได้รับทราบเพื่อประจานความชั่วร้ายให้คนทั้งประเทศได้รับทราบ

แม้จะใส่ร้ายผู้ถูกเผาถังแดงว่าเป็น”คอมมิวนิสต์”

แต่ในฐานะที่เคยเข้าป่าหนีการฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างบ้าคลั่งสมัยนั้น

ผมไม่เคยได้รับทราบเลยว่ามี”สหายชาวคอมมิวนิสต์”ถูก”ถีบลงเขาเผาลงถังแดง”เลยสักคน

นั่นหมายความว่าหลายพันศพที่ถูก”ถีบลงเขาเผาลงถังแดง”ล้วนไม่ใช่สหายชาวคอมมิวนิสต์ทั้งสิ้น

ซึ่งต่อมาภายหลังภาครัฐก็ยอมรับว่าผิดพลาดและยกเลิกค่ายทั้งหมดภายในเวลารวดเร็ว

แต่อนิจจาชาวบ้านผู้บริสุทธิ์สังเวยความเหี้ยมโหดอำมหิตไปแล้วหลายพันศพ

มาไม่กี่วันมานี้DSIได้เปิดเผยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างมีน้ำหนักชัดเจนว่าว่า”บิลลี่”ชาวเผ่าที่หายไปตั้งแต่ปี57 เสียชีวิตอย่างแน่นอนแล้วและเป็นการตายแบบโดนซ้อมและยัดลงไปเผาด้วยน้ำมันในถังแดง

ในขณะนี้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองผู้เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนไปตามกระบวนการยุติธรรม

แต่จากข่าวสารเท่าที่ปรากฏในขณะนี้ผู้ที่น่าสงสัยน่าจะเป็นเจ้าที่รัฐ(จะใช่หรือไม่ใช่ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ)

น่าสลดใจมากครับ

ผ่านมา45ปีแล้วอำนายรัฐยังใช้วิธีอันเหี้ยมโหดในการจัดการกับชาวบ้านผู้บริสุทธิ์อีกเช่นเดิม

ไม่ต่างอะไรกับการเมืองไทยที่ถอยหลังไกลไปยิ่งกว่าปี2517

อาจจะถอยไปไกลถึงรัฐประหารจอมพลผินขุณหวันปี 2490 นั่นเลยครับ

เมื่อไหร่เมืองไทยจะก้าวไปข้างหน้าเคียงข้างกับอารยประเทศเขาเสียทีครับ?