วันจันทร์, กันยายน 30, 2562

ถ้าเกรต้าเกิดเมืองไทย หรือเกรต้านั่งเรือใบมาเมืองไทย หรือถ้าเกรต้าขึ้นเวที ด่าคนแก่ คนรุ่นเก่า จะเกิดอะไรขึ้น






ถ้าเกรต้าเกิดเมืองไทย หรือเกรต้านั่งเรือใบมาเมืองไทย จะเกิดอะไรขึ้น

เกรต้าก็จะได้เข้าทำเนียบจับมือกับลุงตูบ (ถ้าเธอไม่ปฏิเสธเสียก่อนนะ เพราะเธอเกิดในสวีเดน ประเทศโคตรประชาธิปไตย)

เกรต้าก็จะได้รับเชิญเป็นพรีเซนเตอร์ ลดถุงก๊อบแก๊บ โดยซีพีออลล์,เดอะมอลล์,พารากอน,เซ็นทรัล ฯลฯ แย่งคิวกันจ้าละหวั่น


เกรต้าอาจได้เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ของบัตรเครดิต หรือบริษัทประกันชีวิต หรือเบียร์ช้าง พาไปปลูกป่าชายเลน รักษ์เต่า รักษ์ปลาพยูน

หรือไม่ก็โฆษณาพลังงานทดแทน ปั้นลมปั้นแดดขาย กฟผ.เข้าตลาดหุ้น พริบตาเป็นมหาเศรษฐีหมื่นแสนล้าน

แต่ถ้าเกรต้าร้องกรี๊ด ด่าไอ้พวกดัดจริต รักษ์โลกบริโภคนิยม มาถึงก็ร่วมต้าน EEC ม.44 ไม่ต้องรอ EIA ปลดล็อกผังเมืองรวม โวยเมืองไทยไม่มีเสรีภาพในการชุมนุม

เกรติาก็คงกลายเป็นเนติวิทย์ แค่ชื่อก็ไม่มีสิทธิเป็นกรรมการแอมเนสตี้

หรือถ้าเกรต้าขึ้นเวที ด่าคนแก่ คนรุ่นเก่า “กล้าดีอย่างไร มาฝากความหวังไว้ที่พวกเรา ขโมยเอาความฝันและวัยเด็กของเราด้วยคำพูดจอมปลอม แต่ควบคุมยุทธศาสตร์ชาติไว้ 20 ปี ตั้ง ส.ส.มาโหวตให้ตัวเองเป็นนายกฯอีก 5 ปี"

เกรต้าก็จะกลายเป็นอีเด็กถูกล้างสมอง ด้วยลัทธิอิลลูมินาติ ไปทันที

บ้านนี้เมืองนี้แปลกนะครับ ที่การต่อต้านโลกร้อน นักสิ่งแวดล้อม รักษ์โลกรักษ์ป่ารักษ์เต่า เข้ากันได้ดี๊ดีกับเผด็จการ อำนาจไม่ชอบธรรม แถมยังเข้ากันได้ดี๊ดีกับทุนนิยมบริโภค บรรษัทยักษ์ใหญ่ บนสังคมโลกสวย ของคนชั้นกลาง ที่ใช้ชีวิตตามห้าง บ้านออฟฟิศติดแอร์ แต่ชอบขับ SUV ไปจิบกาแฟถ่ายเซลฟีร้านปลายนา แล้วก็บ่นแม่ค้าข้างถนนไม่ยอมเลิกใช้ถุงก๊อบแก๊บ

ทั้งที่ขบวนการต้านโลกร้อนส่วนใหญ่ อยู่ในยุโรป อยู่ในประเทศประชาธิปไตยโคตรอารยะ ซึ่งให้เสรีภาพในการเคลื่อนไหวเรียกร้องเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น เป้าหมายสำคัญ ที่ขบวนการโลกร้อนโจมตี ก็คือเศรษฐกิจเสรี บริโภคนิยม การผลิตล้นเกิน บริโภคล้นเกิน ใช้พลังงานล้นเกิน แบบที่กระตุ้นส่งเสริมเพื่อตัวเลขจีดีพีนี่แหละ

อันนี้ก็ไม่ได้บอกหรอกนะว่า ขบวนการต้านโลกร้อน ถูกต้องไปซะทุกอย่าง แต่อันดับแรก เราจะเห็นว่ากระแสรักษ์โลกในเมืองไทยนี่แม่-โคตรดัดจริต แล้วก้กลายเป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายอีกต่างหาก

อันดับถัดมาถ้ามองภาพรวมแบบทางสายกลาง เรื่องโลกร้อนเป็นสิ่งที่ชาวโลกทุกคนต้องตระหนัก การมีคนรุ่นใหม่อย่างเกรต้า น่าสนับสนุน ใครว่าก้าวร้าว เธอก็มีสิทธิโกรธ จริงๆ นี่หว่า คนอายุ 15-16 ต้องอยู่ในโลกอีก 60-70 ปี ไม่รู้จะเจอภัยพิบัติอะไร

แต่อีกด้านหนึ่ง ก็ต้องเข้าใจระบบเศรษฐกิจเสรี ว่ามันต้องเป็นไปเช่นนี้เอง มันหยุดไม่ได้ อาจต้องรอวิวัฒนาการของระบบ แต่เฉพาะหน้าอาจยับยั้งได้บางอย่าง เช่นการพยายามใช้พลังงานสะอาด อันนี้เปรียบง่ายๆ กับการที่เกรต้านั่งเรือใบ ควรปรบมือชม แต่คน 99.99% ก็ไม่นั่งเรือใบ เพราะความจำเป็นหลายอย่างทำให้ต้องนั่งเครื่องบิน

คืออีกด้านหนึ่งพวกอนุรักษ์สุดโต่งก็มี พวกที่ต้องการโค่นล้มเศรษฐกิจเสรี ต้านทุนสามานย์ ขัดขวางการทำลายล้างวิถีธรรมชาติ วิถีชุมชน พวกนี้อยากเห็นรัฐบาลที่ใช้อำนาจจำกัดควบคุมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การใช้ชีวิตของประชาชน (แบบเดียวกับพวกหมอต้านเหล้าบุหรี่ อยากเห็นการใช้อำนาจบังคับ)

ความคิดแบบนี้ในยุโรปก็มี แต่พอดีประเทศเขาเป็นประชาธิปไตย แต่ในประเทศล้าหลัง พวก NGO ต้านทุนเสรี พวกอนุรักษ์ธรรมชาติสุดโต่ง ดันหน้ามืดเห็นอำนาจอนุรักษ์นิยมเป็นดอกบัว หนุนรัฐประหารตั้งแต่ปี 49 แต่ได้เผด็จการรักษ์โลกแล้วเป็นไงล่ะ ทุนสามานย์หายไปไหม นอกจากกระแสดัดจริตแล้วมีอะไรจริงจังบ้างเรื่องการลดโลกร้อนในเมืองไทย