เห็น ส.ส.คนงาม มาดามเก้งหรือกวางอะไรเนี่ย
ว่าประชาธิปไตยของเธอแค่ “กินอิ่มกินได้ ไม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ”
ซึ่งก็หมายความว่าอย่างนี้ดีอยู่แล้ว ปชต.แบบไม่ให้ฝ่ายค้านหือ ทั้ง ‘แจก’ และ ‘ซื้อ’ ทำให้ได้ ‘กิน’ และ ‘อิ่ม’
ฉะนั้นจึงซื้อ ฮ. เพิ่ม แจกเงินให้คนเที่ยว
และเรี่ยไรเงินชาวบ้านที่พอบริจาคได้ เอาไปช่วยชาวบ้านที่ประสพภัย
พอมีคนท้วงทวงถามว่าทำไมล้วงถุงเงินเอาไปซื้อปืนผาหน้าไม้มากนัก ปีหน้า (๖๓)
จะเอาตั้ง ๒.๓๓ แสนล้าน
ยังโอดอีกนะว่า “ที่ผ่านมา กองทัพก็ขาดแคลนงบประมาณมาตลอด”
๕ ปีไม่ได้เพิ่มเลย “เพราะเงินมันน้อย จึงได้แบ่งคนละนิดคนละหน่อย” เท่านั้นเอง พลเอกประวิตร
วงษ์สุวรรณ ตอบเรื่องงบฯ กลาโหมสูงปรี๊ดว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ “ที่เรามีมันก็เก่าแล้ว
และถึงเวลาที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยน”
ครั้นเมื่อโฆษกกลาโหมมาช่วยเสริม ว่าที่ผ่านมาจะได้เพิ่มโดยเฉลี่ย
๗.๕% ขณะที่งบฯ การทหารของปี ๒๕๖๓ ได้ ‘เพิ่ม’ แค่ ๗.๒๙% เท่านั้น “ยังถือว่าเป็นปกติตามสัดส่วนการเพิ่มขึ้นของงบประมาณทั้งประเทศ”
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ ชี้ว่าเป็นการเพิ่ม
“เพื่อให้มีขีดความสามารถเพียงพอต่อการรองรับสถานการณ์ภัยคุกคาม ตามห้วงเวลาที่ได้ประเมิน”
แต่ทั่นรองนายกฯ ฝ่ายมั่นคงบอกว่า ‘มากตามสัดส่วน’
โดยเฉพาะกองทัพบกที่ได้ ๑.๑๓ แสนล้าน ถือว่าไม่มาก “เพราะมีการตั้งหน่วยใหม่ด้วย”
มีคนแย้งว่าไม่รู้จะตั้งไปทำไรนัก เวลานี้ ‘ตำแหน่งลอยๆ’ เช่น ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งชนิดปกติและแบบพิเศษ
นี่นั่งตบยุงไม่มีงานให้ทำเป็นแถว “นั่งกินเงินเดือน ๗-๘ หมื่น ชิลๆ
(ไม่รวมเงินประจำตำแหน่ง) ได้คนไปรับใช้บ้านนาย โดยใช้เงินหลวงจ่ายเงินเดือน
บางบ้าน ๓-๔ คน”
แอมเอง @theamwaysu บอกเลยว่ากลาโหม “น่าจะเป็นหน่วยงานเดียวมั้ง
ที่ ขรก. เลื่อนไหลไปถึง ซี ๑๐, ๑๑
โดยไม่ต้องลำบากทำผลงานอะไร”
แล้วไงมะ รัฐบาลของ พลงอ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา ชุดใหม่ประกาศแผน ‘ก่อหนี้ใหม่เอาไปใช้หนี้เก่า’ อีกบานเบอะ ทั้งสิ้นในวงเงิน ๘ แสน ๙ หมื่น ๔ พันล้านบาท
ซึ่งกระทรวงการคลังอ้างว่าแบ่งเป็นสองส่วน คือกู้เพื่อลงทุนส่วนหนึ่ง และกู้เพื่อบริหารสภาพคล่อง
ชาวบ้านธรรมดาฟังแล้วก็รู้สึกว่าพิลึกๆ
ในเมื่อการกู้เพื่อลงทุน ๗.๑๑ แสนล้านบาทนั้นเป็น “การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
โครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟฟ้า โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ฯลฯ” ซึ่งเท่ากับ ๗๙.๖% ของการก่อหนี้ใหม่
อีกส่วนหนึ่งสร้างหนี้เพิ่มอีกเกือบ ๑ แสน
๘ หมื่น ๒ พันล้านบาท เพื่อ “บริหารสภาพคล่องและดำเนินกิจการทั่วไป”
ที่ทำความเข้าใจอย่างบ้านๆ ก็น่าจะเป็นการกู้มาโปะส่วนที่รัฐบาลควักจ่ายไปล่วงหน้าจนทำให้ขาดดุล
รวมความว่าที่รัฐบาล คสช.๒
ประกาศกู้เพิ่มอีกเกือบ ๙ แสนล้านบาทในปี ๒๕๖๓ นี้ เพื่อเอาไปอุดรูรั่วที่ คสช.๑
ทะลวงเอาไว้ เสร็จแล้วเมื่อถึงเวลาทำงบประมาณปีต่อไป (๖๔) ในปีหน้า จะต้องกู้เพิ่มเอามาโปะช่องโหว่ที่สร้างหนี้เพิ่มไว้ในปีนี้
วนไปอย่างนี้เมื่อไหร่จะจบสิ้น มองจากผลงาน
๕ ปีที่ผ่านมา รัฐบาล คสช.ก่อหนี้จนมาถึงจุดนี้ จะหวังอะไรได้สักเท่าไรกับสี่ปีข้างหน้า
จนกว่า คสช.จะตายพรากจากไป ประเทศไทยมีหนี้พอกหางหมูเสียจนเดินไม่ไหวละมัง