วันพุธ, กันยายน 25, 2562

อันไหนงานเด่นลิ่วล้อไอทู้บ ‘ดูด’ ส.ส.เพื่อไทย กับ ‘ชง’ ยุบพรรคอนาคตใหม่


ไหนมาลองจับตาดูกันสิว่า ระหว่าง ดูด ส.ส.เพื่อไทย กับ ชง ยุบพรรคอนาคตใหม่ อันไหนผลงานเด่น คสช.๒ ยิ่งกว่าการไปคุยโตชุบมือเปิบที่นิวยอร์ค ไม่รู้นอนโรงแรมแอทเธนีได้ดู เบรคกิ้งนิวส์ หรือเปล่าว่าประธานสภาฯ ที่นั่นเขาประกาศ ไต่สวนปลดประธานาธิบดี

กรณีอเมริกัน ผู้นำตีความรัฐธรรมนูญเข้าข้างตนแล้วทำตัวคล้าย มอนาร์คี่ ใช้อำนาจมักง่ายไม่รั้งรอกระบวนการ เช็คแอนด์บาล้านซ์ประเด็นของไทยหัวหน้าใหญ่นักยึดอำนาจจัดการตัดทอนรัฐธรรมนูญเองอย่างดื้อด้าน ตบตาต่อพระพักตร์ เหมือนที่ บอริส จอห์นสัน โกหกควีนเอลิซาเบ็ธให้ปิดสภาชั่วคราว

จะด้วยกรณีไหน ขณะที่ไอทู้บไปกินเบอร์เกอร์ในนิวยอร์ค พวกพ้องและลิ่วล้อโหมกันใหญ่ในบ้าน ใช้วิชามารโกยแต้มทั้งชั้นเชิงดูดและชงเรื่องดีด เก็บมาเล่าวันนี้เป็นความคืบหน้า

กับข่าวดูด ๑๔ ส.ส.พรรคเพื่อไทย สมศักดิ์ เทพสุทิน ท้าสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ถ้ามีคลิป (เสียง) จริง “ก็เอามาเปิดสิครับ ไม่เป็นไรเพราะไม่มีผม” โต้ว่าที่พูดพูดกันไม่เป็นจริง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะดูดข้ามพรรค โดยเฉพาะที่ว่านัดกินข้าวแล้วแจกซอง ไม่จริง

“อาจเป็นช่วงที่มีอุทกภัย ส.ส.หรือคนที่รู้จักกันจะช่วยกันหาสิ่งของไปมอบดูแลประชาชน ลักษณะนี้อาจเป็นไปได้” สมศักดิ์ออกนอกลู่เล็กน้อย แหม่ ถ้าอย่างนั้นซองก็เปียกหมดสิทั่น แล้วไฉนคนประชารัฐ ยศเลขาธิการบอกอีกอย่าง

ไม่มีการยืนยัน เป็นการย้ายขั้วคงมีการพูดคุยกันบ้าง นักการเมืองเขาคุยกันอยู่แล้ว จะไปห้ามไม่ให้พบปะพูดคุยคงไม่ได้ หากอะไรที่มีประโยชน์ ส.ส.คงจะช่วยกันประคับประคองการทำงานของทุกฝ่ายให้เดินไปข้างหน้า” สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เขาว่า

น่าจะเงี่ยฟังฝ่ายกล่าวหาเสียบ้าง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการของเพื่อไทย ใส่กลับ “แทนที่จะดูด ส.ส.แก้เสียงปริ่มน้ำ ควรเปลี่ยนเป็นดูดมืออาชีพด้านเศรษฐกิจเข้าไปแทนที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจจะดีกว่า สร้างความเชื่อมั่นเฮือกสุดท้ายให้นักธุรกิจและนักลงทุน”

ด้านการเมือง สุทิน คลังแสง แจงไว้ “เท่าที่ตรวจสอบ ฝ่ายรัฐบาลมาเจรจากับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจริง เสนอเงื่อนไขหลายสาย บางสายอาจชักชวนแค่ให้ไปพูดคุยกินข้าวด้วย แต่บางสายคิดจะดึงให้ไปอยู่” ดาวเพื่อไทยให้เหตุผลน่าคิด

ว่าย้ายพรรคเปลี่ยนขั้วเป็นไปได้ยาก เพราะออกจากพรรคก็หมดสภาพ ใช้เวลานานกว่าจะได้ขึ้นทะเบียนพรรคใหม่ บางทีต้องรอพรรคเก่าถูกยุบ หรือสิ้นสุดสภา หรือถ้าเป็นการย้ายเฉพาะกิจ โหวตร่วมบางเรื่องก็ไม่ง่ายเพราะตรวจสอบไม่ยาก ชาวบ้านที่เขาเลือกตนเข้าไปจะคอยจับตา

อีกกรณีที่พวกหนุนคณะยึดอำนาจ ต่อคิวกันออกมาเขย่า ปั่นกระแสยุบพรรคอนาคตใหม่ จากการที่ตัวหัวหน้าให้เงินยืมแก่พรรคไปดำเนินกิจการถึง ๑๙๑ ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ใช้คืนบ้างยังตกค้างจ่ายไม่หมดอีกบ้าง
 
นอกจาก สว.ตู่ตั้ง สมชาย แสวงการ ช่วยโหมแล้วยังมีอดีตประธานกรรมาฯ วิสามัญ ผู้ร่าง พรป.พรรคการเมือง โดดเข้ามาเป็นคู่กัดด้วยอีกคน อ้างว่า “เงินกู้ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองไม่ถือเป็นรายได้ของพรรค หากนำไปใช้ถือว่าผิดมาตรา ๖๒”

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม เพิ่งเสนอหน้า รายได้พรรคต้องมาจากการระดมทุนและ/หรือรับบริจาค รายละไม่เกิน ๑๐ ล้านบาท นี่ให้ยืม ๑๙๑ ล้าน “พรรคการเมืองไม่ใช่บริษัทแสวงกำไร การกู้เงินมาอาจไม่สามารถหารายได้มาจ่ายคืนได้”

ข้ออ้างทั้งหลายของฝ่าย ชงอยู่ที่ว่ามาตรา ๖๒ ของ พรป.พรรคการเมืองกำหนดหนทางได้มาซึ่งเงินสนับสนุนพรรค ๗ อย่าง ในเมื่อการกู้เงินไม่ได้อยู่ในอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงถือเป็นความผิดให้ กกต.จัดการส่งศาลรัฐธรรมนูญเชือดเสีย แบบพรรคไทยรักษาชาติ

แต่เหตุเดียวกันที่ฝ่ายอนาคตใหม่ใช้ ว่าก็ พรป.ไม่ระบุให้กู้หรือห้ามกู้ จึงถือว่าการกู้เงินของพรรคไม่ใช่การหารายได้ ในเมื่อตอนที่พรรคอนาคตใหม่เริ่มทำการจำหน่ายขายของที่ระลึกต่างๆ ก็โดน กกต.ปิดกั้นไม่ยอมให้ทำเสียแล้ว

ดังที่อธึกกิต ใบตองแห้งแจงแล้วนั่นใช่เลย “ซื้อเสียงกันถล่มทลายไม่ผิด เพราะไม่จับ อ้างว่าจับไม่ได้
กู้เงินอย่างเปิดเผยจะตีความว่าเป็นใช้เงินผิด ยุบพรรค ตัดสิทธิหมดเลยไหม

โธ่เอ๋ย ของมันรู้กัน ตั้งธงไว้อย่างไร”