เหตุเกิดที่วารินชำราบ ซึ่งชาวบ้านชุมชนท่ากอไผ่หนีภัยน้ำท่วมไปตั้งเพิงอยู่อาศัยกันริมถนนเป็นแถวยาว
ถูกเทศบาลสั่งให้รือถอนออกไป เพราะขบวนของนายกรัฐมนตรีจะเดินทางผ่านถนนเส้นนี้
มันอาจเข้าข่ายที่ฝรั่งเรียก ‘eyesore’ ในสายตาของบางคน อันหมายถึงสภาพน่าเกลียด ไม่เหมาะที่จะใช้อวดใครๆ
ไม่เพียงแต่สกปรกรกรุงรัง ยังรวมถึง ‘bad taste’ รสนิยมที่ไม่พึงประสงค์
ทว่าเรื่องอย่างนี้ไม่ควรเอาไปใช้กับผู้ประสบภัยอย่างยิ่ง
ช่วงน้ำท่วมอีสานคราวนี้ในสหรัฐอเมริกาก็เจอกับพายุเฮอริเคนสองลูก
หลายจุด แม้ประธานาธิบดีจะไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมผู้เคราะห์ร้ายบ่อยนัก ก็เห็นข่าวผู้ว่าการรัฐออกไปยังท้องที่เสียหายบ่อยไป
แต่ไม่เคยมีการสั่งให้จัดการเก็บซากปรักหักพังหรือเต๊นหลีกภัยของผู้เดือดร้อนหลบ
คำสั่งอย่างนั้นเป็นความไร้สติสัมปชัญญะอย่างยิ่งของคนสั่ง
ดังเสียงสะท้อนจากชาวบ้านผ่านทาง จิราพร สินธุไพร ส.ส.พรรคเพื่อไทย “ขนของหนีน้ำไม่พอ
ต้องมาขนของหนีนายกฯ อีก” มันบ่งบอกความมั่วซั่วของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา หาใดเปรียบ
คนไทยจำนวนมากที่ยังจมปลักกับระบอบเจ้าขุนมูลนาย
คงบอกว่าเจ้าหน้าที่ ‘รู้เท่าไม่ถึงการ’ เพราะเห็น ‘ความเป็นระเบียบเรียบร้อย’ สำคัญมาก (กว่า) ทำไมไม่คิดให้ลึกลงไปว่ามันเป็นการป้องกันตัว
หรือแม้แต่ป้อยอ เพราะรู้กันอยู่ดีว่านายกฯ คนนี้ ‘ขี้ฉุน’
แท้จริงไม่ใช่กลัว ‘ความผิด’ หากแต่กลัวไม่สบอารมณ์นาย ในสังคมที่สายการบังคับบัญชาจะต้องตบหัวกันต่อๆ
ลงไปจากนายกฯ จนกระทั่งถึงเสมียน คนที่ไปสั่งชาวบ้านรื้อเพิงบอกว่า “นายกฯ จะมา มันกีดขวางทาง
ให้รื้ออกไปจากข้างสะพาน”
สาวชาวบ้านคนหนึ่งชี้แจงว่า “หนีน้ำนี่ก็ลำบากมากแล้ว
ยังจะต้องมาขนของออกกันอีก นี่ครั้งที่ ๕ แล้วค่ะ ค่าใช้จ่ายก็เยอะ ค่าตะปู ค่าไม้
มีตังค์ที่บิณฑ์แกให้ ๕ พันไปซื้อ” สาวใหญ่อีกรายบอก “เขาจะให้ย้ายไปอยู่ในค่ายทหารมันไกล
ไม่มีรถมา
...ก็ห่วงบ้าน อยากอยู่ใกล้ๆ บ้าน”
ที่ตอนนี้ถูกน้ำท่วม พอนักข่าวถามว่าถ้ารื้อแล้วจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ
อีกรายตอบว่ากลับไปบ้าน อ้าว ก็น้ำท่วม เธอว่าก็อยู่ชั้นสอง ยังท่วมไม่ถึง
พอดีวานนี้เห็นมีการนำภาพป้ายโฆษณาขนาดยักษ์
๒ แห่ง อันหนึ่งบนหลังคา อีกอันบนทางเท้า ในใจกลางมหานครนิวยอร์ค แถบ 45th
street กับ 2nd Ave. ข้อความว่า “Don’t
Let Democracy Die in Thailand” และ “Restore Democracy in
Thailand Now! We need Your Help!”
ป้ายทั้งสองตั้งอยู่ใกล้ที่ทำการใหญ่สหประชาชาติ
ซึ่งจะมีการประชุมสมัชชาในวันนี้ (๒๑ กันยา) ที่มีโพสต์ของ วาสนา นาน่วม รายงานว่า
“ผมขอลาไปสัก ๔-๕ วัน ไปประชุม UN ที่อเมริกา...แต่ผมสั่งการ มอบหมายงานไว้หมดแล้ว...เดี๋ยวจะหาว่า นายกฯ หายไปไหน”
(รายละเอียดนอกจากนั้น อ่านได้ที่นี่ https://www.facebook.com/100001454030105/posts/2540385816019861?sfns=mo)
ป้ายทั้งสองอาจจะเป็น ‘eyesore’
สำหรับประยุทธ์ กงสุลใหญ่ไทยประจำนิวยอร์ค และทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา
แต่แน่นอนว่าสำหรับคนอื่นๆ ทั่วมหานครแห่งนี้หรือที่ไหนๆ ในสากลโลก ที่ได้เห็นภาพ
มันเป็น ‘Statement’ แสดงถึงสิทธิการแสดงออกในความเป็น ‘มนุษยชน’