นี่เป็นครั้งที่สองแล้วสินะ ที่ ‘ไอทู้บ’ แห่งไตแลนเดีย ได้ไปเสนอหน้าในที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติ
ตามกำหนดการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเกาะโพเดี้ยมอ่านรายงานสถานะประเทศไทย
วันพรุ่งนี้ (๒๓ กันยา)
ไม่รู้ว่าจะอ่านครบหรือเปล่า
ตัดตอนที่เกี่ยวกับการเคารพรัฐธรรมนูญของประเทศอารยะ (ถ้ามี) ออกไปอีกไหม
คงไม่สำคัญเท่าว่าจะรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับพันธะกรณีต่างๆ ที่มีต่อประชาคมโลก
อย่างไรบ้าง
เท่าที่รองโฆษกศำนักนายกฯ โฆษณาไว้มีอยู่สองเรื่อง
คือการพัฒนาโลกอย่างยั่งยื่น กับเรื่องประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ถือว่าไทยเป็น ‘โมเดล’ ซึ่งมีเสียง ‘สวด’ ไล่หลังเครื่องยังไม่ทันลงถึงสนามบินเค็นเนดี้ ว่า ‘ขี้ตู่’ อีกแล้ว
น.ส.ไตรศุลี
ไตรสรณกุล แจ้งว่านายกฯ ไทยจะทำการรับรองปฏิญญาสองฉบับ ฉบับหนึ่ง “เป็นเรื่องที่ไทยเป็นตัวตั้งตัวตี”
เพราะ “ได้ทำระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าและประสบความสำเร็จมามากกว่า ๑๗ ปี
จึงถือว่าไทยเป็นผู้นำ”
เสียท่ารองโฆษกฯ
ละเลยที่จะบอกว่านั่นเป็นผลงานของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ประยุทธ์มักกระแนะกระแหนและโจมตีอยู่เนืองๆ
ซ้ำหลังจากยึดอำนาจเขามาได้ไม่นานทำท่าจะยกเลิกโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรคของ ‘ทักษิณ’ เสียด้วยซ้ำ
ต่อเมื่อประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมให้เลิก
รัฐบาล คสช.จึงได้สงบปากสงบคำจากการกล่าวหาว่า ‘๓๐ บาท’ สิ้นเปลืองบ้าง ขาดประสิทธิภาพบ้าง
ต่อเมื่อเห็นต่างประเทศชมเชยและเอาเป็นแบบอย่างนั่นละ รัฐบาลประยุทธ์จึงได้หันมาฉวยโอกาสชุบมือเปิบเสียเลย
ควรแล้วที่
วัฒนา เมืองสุข บริภาษณ์เอาว่า “ผู้ที่กำลังนำคณะไปเอาหน้ารับรองปฏิญญา คือคนที่เคยคิดจะล้มโครงการแต่ถูกประชาชนต่อต้าน
ฝรั่งไม่ได้ปัญญาน้อยเหมือนคนที่กำลังอ่านสุนทรพจน์”
เชื่อในเวทียูเอ็นย่อมรู้กันดีว่า “ผู้ที่ริเริ่มโครงการนี้คือใคร”
ส่วนการผลักดันเรื่อง ‘ปลอดยาเสพติด’ นั่นเป็นประเด็นติดค้างมาจากการประชุมอาเซียน
ซึ่งคราวนั้นไทยเป็นประธาน
เป็นที่วิจารณ์กันว่าถ้าประยุทธ์อยากเดินชนไหล่ผู้นำนานาชาติอย่างมั่นใจ
ไม่เจี๋ยมเจี้ยมเหมือนคราวที่แล้วละก็ ควรต้องใช้เรื่องนี้แปะหน้าผาก
แต่ก็คงจะยากหน่อยสำหรับ ‘ไอทู้บ’ ประเทศไทย ที่มีรัฐมนตรีเคยติดคุกออสเตรเลียโทษฐานค้ายาเสพติด
แต่อ้างว่าทางการไทย ‘ล้างมลทิน’
ให้แล้ว ข้อสำคัญกว่านั้นช่วงระหว่างการไปร่วมประชุมยูเอ็นสองครั้งของผู้นำไทย
ยาเสพติด ‘บูม’ อย่างยิ่ง
ทั้งส่งออกและบริโภคภายใน
วันเดียวกับที่ไอทู้บออกเดินทางไปนิวยอร์ค
๒๑ กันยา บนถนนเพชรเกษมตรงเพชรบุรี เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกสิบล้อชนเสาไฟฟ้าพลิกคว่ำ
กระสอบบรรจุอาหารสัตว์กระเด็นกระจาย แต่ภายในเป็นห่อยาไอ๊ท์ขนาด ๕ กก. ไม่น้อยกว่า
๓๐ ถุง
ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือน
ศุลการกรนิวซีแลนด์ตรวจพบและยึด “ยาเสพติดชนิด
เมธแอมเฟตามีน หรือ ยาไอซ์ จำนวน ๔๖๙ กิโลกรัม” ที่ส่งไปจากประเทศไทย
นับเป็นการจับกุมได้ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศนั้น มูลค่าทั้งสิ้นประมาณ ๔,๖๐๐
ล้านบาท
วิธีการส่งแอบแฝงยัดไว้ภายในสินค้าเครื่องจักรกล
ประเภทอุปกรณ์มอเตอร์ไฟฟ้า “๖๐ ตัว
แต่ละตัวซุกซ่อนยาบ้าไว้ประมาณ ๘ กิโลกรัม” ทำให้การส่งออกสินค้าไทยที่ตกต่ำอยู่แล้ว
กลับมัวหมองลงไปหนักเสียอีกด้วยมิจฉาชีพ
(https://www.matichon.co.th/foreign/news_1659665, https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_2907368 และ https://www.facebook.com/WatanaMuangsook/photos/a.692230194245846/1621269484675241/-R)
มิหนำซ้ำ ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา
ข่าวใหญ่ในประเทศที่ฮือฮามากเกี่ยวกับการเสียชีวิตของสาว ‘พริตตี้’ วัยรุ่นคนหนึ่งบนโซฟาในห้องคอนโดมิเนี่ยมของหนุ่มสังคมนายหนึ่ง
จากรายละเอียดข่าวซุบซิบบนสื่อโซเชียลอนุมานได้ว่า
หญิงสาวซึ่งประกอบอาชีพเป็นคนสวยนักแสดงสินค้า
‘รับงาน’ ไปให้บริการบันเทิงแก่หนุ่มๆ
กลุ่มหนึ่ง เป็นงานเลี้ยงที่มีการดื่มเหล้าและใช้ ‘ยา’
เสพติดอย่างมากมายเสียจนหญิงสาวหมดสติ
แล้วไม่ได้รับการเหลียวแลจากเจ้าของสถานที่ จนมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว
ข่าวล่าสุดบอกว่า “จ่อแจ้งข้อหาเจตนาฆ่า ‘ลัลลาเบล’ งดเว้นไม่ช่วยเหลือเป็นเหตุให้เสียชีวิต”
โดยรายละเอียดบางส่วนระบุว่า “ผู้ต้องสงสัยได้อุ้มร่างของพริตตี้ผู้ตาย
ออกจากบ้านที่มีการจัดงานปาร์ตี้ มีการพาขึ้นรถยนต์ส่วนตัว
ลากขึ้นลิฟต์เข้าไปในห้องพักที่คอนโดมิเนียมหลายชั่วโมง
ก่อนจะแบกร่างลงลิฟต์มาไว้บนโซฟาที่ล็อบบี้”
แสดงว่าต้องมีการเสพยากันถึงขนาดหมดสติไปแล้วเป็นเวลานาน
สะท้อนสภาพสังคมชนิดที่เรียกว่า ‘ยาเสพติดเกลื่อนเมือง’
มันเป็นภาพภูมิหลังที่แตกต่างกันอย่างดำ-ขาว
ระหว่างผู้นำไทยสองคน ที่คนหนึ่งเป็นผู้ทำให้ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นที่ชื่นชมของทั่วโลก
แม้นว่าผลงานการปราบยาเสพติดของเขาจะถูกโจมตีว่า ‘โหดเหี้ยม’
กับอีกคนที่สวมรอยรับความชื่นชมจากชาวโลกกับความสำเร็จในอดีตของประเทศ
ขณะที่ตลอดเวลาของการอยู่ในอำนาจ เขากลับเปิดทางให้ยาเสพติดกลายเป็นผีร้ายทำลายสุขภาพของสังคมหนักหนายิ่งกว่าเดิม
ด้วยข้ออ้างงี่เง่า
“รัฐมนตรีมีมลทินยาเสพติดไม่เสียหาย
ในเมื่อเขาเป็นคนรักชาติ”