วันจันทร์, กันยายน 23, 2562

'ไอทู้บ ขี้ตู่’ สวมรอยความสำเร็จ 'สุขภาพถ้วนหน้า' อิน นิวยอร์ค ขณะในบ้าน ‘ยาเสพติดเกลื่อนเมือง’


นี่เป็นครั้งที่สองแล้วสินะ ที่ ไอทู้บ แห่งไตแลนเดีย ได้ไปเสนอหน้าในที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติ ตามกำหนดการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเกาะโพเดี้ยมอ่านรายงานสถานะประเทศไทย วันพรุ่งนี้ (๒๓ กันยา)

ไม่รู้ว่าจะอ่านครบหรือเปล่า ตัดตอนที่เกี่ยวกับการเคารพรัฐธรรมนูญของประเทศอารยะ (ถ้ามี) ออกไปอีกไหม คงไม่สำคัญเท่าว่าจะรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับพันธะกรณีต่างๆ ที่มีต่อประชาคมโลก อย่างไรบ้าง

เท่าที่รองโฆษกศำนักนายกฯ โฆษณาไว้มีอยู่สองเรื่อง คือการพัฒนาโลกอย่างยั่งยื่น กับเรื่องประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ถือว่าไทยเป็น โมเดลซึ่งมีเสียง สวด ไล่หลังเครื่องยังไม่ทันลงถึงสนามบินเค็นเนดี้ ว่า ขี้ตู่ อีกแล้ว

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล แจ้งว่านายกฯ ไทยจะทำการรับรองปฏิญญาสองฉบับ ฉบับหนึ่ง เป็นเรื่องที่ไทยเป็นตัวตั้งตัวตี” เพราะ “ได้ทำระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าและประสบความสำเร็จมามากกว่า ๑๗ ปี จึงถือว่าไทยเป็นผู้นำ”

เสียท่ารองโฆษกฯ ละเลยที่จะบอกว่านั่นเป็นผลงานของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ประยุทธ์มักกระแนะกระแหนและโจมตีอยู่เนืองๆ ซ้ำหลังจากยึดอำนาจเขามาได้ไม่นานทำท่าจะยกเลิกโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรคของ  ทักษิณ เสียด้วยซ้ำ
 
ต่อเมื่อประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมให้เลิก รัฐบาล คสช.จึงได้สงบปากสงบคำจากการกล่าวหาว่า ๓๐ บาทสิ้นเปลืองบ้าง ขาดประสิทธิภาพบ้าง ต่อเมื่อเห็นต่างประเทศชมเชยและเอาเป็นแบบอย่างนั่นละ รัฐบาลประยุทธ์จึงได้หันมาฉวยโอกาสชุบมือเปิบเสียเลย

ควรแล้วที่ วัฒนา เมืองสุข บริภาษณ์เอาว่า “ผู้ที่กำลังนำคณะไปเอาหน้ารับรองปฏิญญา คือคนที่เคยคิดจะล้มโครงการแต่ถูกประชาชนต่อต้าน ฝรั่งไม่ได้ปัญญาน้อยเหมือนคนที่กำลังอ่านสุนทรพจน์” เชื่อในเวทียูเอ็นย่อมรู้กันดีว่า “ผู้ที่ริเริ่มโครงการนี้คือใคร”

ส่วนการผลักดันเรื่อง ปลอดยาเสพติด นั่นเป็นประเด็นติดค้างมาจากการประชุมอาเซียน ซึ่งคราวนั้นไทยเป็นประธาน เป็นที่วิจารณ์กันว่าถ้าประยุทธ์อยากเดินชนไหล่ผู้นำนานาชาติอย่างมั่นใจ ไม่เจี๋ยมเจี้ยมเหมือนคราวที่แล้วละก็ ควรต้องใช้เรื่องนี้แปะหน้าผาก

แต่ก็คงจะยากหน่อยสำหรับ ไอทู้บ ประเทศไทย ที่มีรัฐมนตรีเคยติดคุกออสเตรเลียโทษฐานค้ายาเสพติด แต่อ้างว่าทางการไทย ล้างมลทิน ให้แล้ว ข้อสำคัญกว่านั้นช่วงระหว่างการไปร่วมประชุมยูเอ็นสองครั้งของผู้นำไทย ยาเสพติด บูมอย่างยิ่ง ทั้งส่งออกและบริโภคภายใน

วันเดียวกับที่ไอทู้บออกเดินทางไปนิวยอร์ค ๒๑ กันยา บนถนนเพชรเกษมตรงเพชรบุรี เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกสิบล้อชนเสาไฟฟ้าพลิกคว่ำ กระสอบบรรจุอาหารสัตว์กระเด็นกระจาย แต่ภายในเป็นห่อยาไอ๊ท์ขนาด ๕ กก. ไม่น้อยกว่า ๓๐ ถุง
 
ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือน ศุลการกรนิวซีแลนด์ตรวจพบและยึด “ยาเสพติดชนิด เมธแอมเฟตามีน หรือ ยาไอซ์ จำนวน ๔๖๙ กิโลกรัม” ที่ส่งไปจากประเทศไทย นับเป็นการจับกุมได้ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศนั้น มูลค่าทั้งสิ้นประมาณ ๔,๖๐๐ ล้านบาท

วิธีการส่งแอบแฝงยัดไว้ภายในสินค้าเครื่องจักรกล ประเภทอุปกรณ์มอเตอร์ไฟฟ้า “๖๐ ตัว แต่ละตัวซุกซ่อนยาบ้าไว้ประมาณ ๘ กิโลกรัม” ทำให้การส่งออกสินค้าไทยที่ตกต่ำอยู่แล้ว กลับมัวหมองลงไปหนักเสียอีกด้วยมิจฉาชีพ


มิหนำซ้ำ ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ข่าวใหญ่ในประเทศที่ฮือฮามากเกี่ยวกับการเสียชีวิตของสาว พริตตี้วัยรุ่นคนหนึ่งบนโซฟาในห้องคอนโดมิเนี่ยมของหนุ่มสังคมนายหนึ่ง จากรายละเอียดข่าวซุบซิบบนสื่อโซเชียลอนุมานได้ว่า

หญิงสาวซึ่งประกอบอาชีพเป็นคนสวยนักแสดงสินค้า รับงานไปให้บริการบันเทิงแก่หนุ่มๆ กลุ่มหนึ่ง เป็นงานเลี้ยงที่มีการดื่มเหล้าและใช้ ยาเสพติดอย่างมากมายเสียจนหญิงสาวหมดสติ แล้วไม่ได้รับการเหลียวแลจากเจ้าของสถานที่ จนมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว

ข่าวล่าสุดบอกว่า “จ่อแจ้งข้อหาเจตนาฆ่า ลัลลาเบล งดเว้นไม่ช่วยเหลือเป็นเหตุให้เสียชีวิต” โดยรายละเอียดบางส่วนระบุว่า “ผู้ต้องสงสัยได้อุ้มร่างของพริตตี้ผู้ตาย ออกจากบ้านที่มีการจัดงานปาร์ตี้ มีการพาขึ้นรถยนต์ส่วนตัว

ลากขึ้นลิฟต์เข้าไปในห้องพักที่คอนโดมิเนียมหลายชั่วโมง ก่อนจะแบกร่างลงลิฟต์มาไว้บนโซฟาที่ล็อบบี้” แสดงว่าต้องมีการเสพยากันถึงขนาดหมดสติไปแล้วเป็นเวลานาน สะท้อนสภาพสังคมชนิดที่เรียกว่า ยาเสพติดเกลื่อนเมือง


มันเป็นภาพภูมิหลังที่แตกต่างกันอย่างดำ-ขาว ระหว่างผู้นำไทยสองคน ที่คนหนึ่งเป็นผู้ทำให้ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นที่ชื่นชมของทั่วโลก แม้นว่าผลงานการปราบยาเสพติดของเขาจะถูกโจมตีว่า โหดเหี้ยม

กับอีกคนที่สวมรอยรับความชื่นชมจากชาวโลกกับความสำเร็จในอดีตของประเทศ ขณะที่ตลอดเวลาของการอยู่ในอำนาจ เขากลับเปิดทางให้ยาเสพติดกลายเป็นผีร้ายทำลายสุขภาพของสังคมหนักหนายิ่งกว่าเดิม ด้วยข้ออ้างงี่เง่า

“รัฐมนตรีมีมลทินยาเสพติดไม่เสียหาย ในเมื่อเขาเป็นคนรักชาติ”