วันนี้ (๕ กุมภา) เมืองจันทบูรณ์เตรียม “รับเสด็จ”* บิ๊กตู่ ลงพื้นที่เซ็นเอ็มโอยูเชื่อมโยงแหล่งผลิตกับตลาดผลไม้ไทย
รวมทั้งสร้างมาตรฐานคุณภาพระดับอินเตอร์ กับจีนละกัมพูชา
ต้องให้เครดิตวาสนา (นาน่วม) อีกแระ
ที่พาดหัวข่าวให้อยากอ่าน “เป็นอะไรไม่ได้...ก็ขอเป็น ‘มหาอำนาจ ผลไม้โลก’ ก็แล้วกัน”
พลันให้นึกถึงภาพแปรอักษรงานฟุตบอลประเพณีฯ
บนอัฒจรรย์ มธ. “เป็นสแตนดี้ เป็นนักการเมือง จะเป็นทุกอย่าง แต่ไม่ชำนาญ
ไม่เป็นสักอย่าง จะดีกว่าไหม”
ต้องให้พวก ‘ขอล้าน Like สนับสนุนให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายก’ มาตอบ เห็นเขารณรงค์กันว่าถ้าไม่มีลุงตู่ อะไรหลายอย่างไม่เกิด
แต่ว่าเขาลืมไปอย่าง เรื่อง ‘อัฐยายซื้อขนมยาย’ ในค่ายทหาร หรือกระทั่งอดีต ผบ.ตร.ลูกน้อง คสช.
ถูกสงสัยมีเอี่ยวดอกผลค้ามนุษย์นวลนางในอ่าง สถานอาบนาบ ถึง ๓๐๐ ล้าน
เอาเรื่องแรกก่อน (เรื่องหลังไว้วันหลัง)
ถ้าจำกันได้ไม่นานมานี้มีอื้อฉาวกรณีทัพบกจัดซื้อคอมพิวเตอร์ไอแม็ค รุ่นสเตทออฟดิอ๊าร์ท
ราคาสูงกว่าที่ซื้อขายกันในท้องตลาด ทั้งในเมืองไทยและในอเมริกา
เสร็จแล้วปรากฏว่าคนจัดซื้อและคนจัดขาย เป็นผู้พันคนเดียวกัน
ตอนนั้นโฆษก ทบ. วินธัย สุวารี
ออกมาแก้ตัวหนหนึ่งแล้วว่าไม่เป็นไรลืมเสียเถิด ราคาเป็นแสนที่ว่าน่ะซื้อพร้อมกัน
๓ เครื่อง ทั้งที่หนังสือราชการระบุชัดเจนเป็นราคาต่อหน่วย มีเลข ๑ เจาะจง
ไม่ใช่เลข ๓ แล้วก็เงียบไป
มาตอนนี้ตัวใหญ่ที่สุดในทัพบกออกมาย้ำหัวตะปู
(นี่ก็ชวนให้นึกถึงแปรอักษรปริศนา งานบอลฯ อีกละ)
เพราะมีเรื่องสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้าไปเกี่ยว
ถึงจะเป็นข่าวเก่าเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว แต่เพิ่งโผล่ออกมาแถวหน้า
เพราะถูกบดบังด้วยประเด็นเดินมิตรภาพและสกายว้อค
ข่าวเนชั่นอ้างว่าพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท
ปิดเกมประเด็น “สตง.
เข้าไปตรวจสอบความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง และการมีอยู่จริงของครุภัณฑ์
ในหน่วยวิจัยของกองทัพหน่วยหนึ่ง” ว่าทุกอย่างโปร่งใสไร้ปัญหา
รายละเอียดมีว่า เมื่อ สตง.
ขอเข้าไปตรวจครุภัณฑ์โครงการพัฒนาแอพลิเกชั่นเฉลิมพระเกียรติในหลวง ร.๙ แล้วไม่มีครุภัณฑ์ให้ตรวจ
ทราบภายหลังว่าไปอยู่ที่บ้านของนายทหารรับผิดชอบ เพราะใน ทบ.ไม่มีคลังเก็บ
(บ้านนายทหารคนนั้นคงใหญ่โตมาก)
เอาละ ทั่น ผบ.ทบ.บอกว่าตอนนี้ครุภัณฑ์อยู่ครบหมดแล้ว
และนายทหารยศพันเอกผู้รับผิดชอบ (พันเอก รัตติพล ตันยา) ก็กลับจากลางานไปต่างประเทศมารายงานครุภัณฑ์ครบถ้วนแล้ว
แต่ทีมล่าความจริงของเนชั่นเขาไปค้นเจอว่า
นายทหารยศพันเอกทั่นนี้ “เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย ๔ โครงการ
งบประมาณทั้งสิ้น ๒๒ ล้านบาทเศษ
แต่มีการสั่งซื้อครุภัณฑ์บางอย่างจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
ซึ่งมีชื่อนายทหารยศพันเอกเป็นกรรมการเอง”
พอไปถาม “ประเด็นที่ว่า นายทหารยศพันเอกเปิดบริษัทรับงานและขายครุภัณฑ์ให้กับหน่วยวิจัยของกองทัพ
ในโครงการที่ตนเองเป็นผู้ดูแล” พล.อ.เฉลิมชัย ตอบอย่างสบายๆ สุขุมคัมภีรภาพว่า
“พันเอกรายนี้ได้ลาออกจากบริษัทแล้ว
และการที่ซื้อของจากบริษัทของนายทหารยศพันเอก ก็ได้ของที่ดีและราคาถูกกว่าท้องตลาด”
เรื่องราคานี่ต้องมีใครตอแหลสักคนแน่ สงสัยจะเป็นบริษัทแอ็ปเปิ้ล เพราะ ผบ.ทบ.ของเรานี่คนซื่อมือสะอาด
แต่ข้อเท็จจริงก็ยังปรากฏอีกว่า
ที่ลาออกนั่นผู้พันเพิ่งจะลาออกเมื่อเกิดอื้อฉาวเข้าเนื้อตัว
ขณะที่ภรรยาของผู้พันยังคงเป็นกรรมการบริษัทอัฐยายรายนี้ต่อไป
เนชั่นเขาแขวนเรื่องไว้บนหน้าผา
(‘cliff hanger’) เหมือนหนังซีรี่ส์ “ก็ต้องรอดูว่าทาง
สตง.จะว่าอย่างไร เพราะกองทัพเขาบอกไม่ผิด” คงไม่ต้องรอละมั้ง เนชั่นบอกเอง
ผบ.ทบ.ปิดฝาโลงไปเรียบร้อยแล้วนี่
*ย้อนมาที่ประเด็น ‘รับเสด็จ’ ไม่มีอะไรมาก แค่เขียนผิด เสมียนพิมพ์ดีดจังหวัดจันทบุรีคงมีความตื่นเต้นมาก
ที่จะมีคนใหญ่คนโตของบ้านเมืองมาเยี่ยม
“นอกจากต้องการส่งเสริมให้เป็นเมืองผลไม้ของโลกแล้ว
ยังจะผลักดันอุตสาหกรรมอัญมณี ติดตามการดำเนินงานของวิสาหกิจเพื่อสังคม
การส่งเสริมการท่องเที่ยว และเกษตรอุตสาหกรรม” โอ๊ยครบเครื่องทุกวงจร
คนพิมพ์ดีดคงเผลอไผลคิดไปว่าองค์พระประมุขแห่งรัฐจะเสด็จเยือนจันทบูรณ์
ตลอดเวลาหลายปีพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันไม่ค่อยได้ประทับในพระราชอาณาจักรเสียด้วย
เดือนที่แล้วข่าวจากเยอรมนีรายงานว่าพระองค์เสด็จทรงสกีในแคว้นบาวาเรีย
ทรงพระเกษมสำราญมาก
โถ เสมียนต่างจังหวัดไกลปืนเที่ยงก็เลยพิมพ์พลาดไปบ้างเท่านั้นเอง
ความรับผิดต้องอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดดันเซ็นคำสั่งออกไปโดยไม่อ่านตรวจตราเสียให้ดี
หรือว่า เอ๊ะ ผู้ว่าฯ สมัยรัฐประหารนี่ก็ไกลปืนเที่ยงเหมือนกัน
