“เดี๋ยวให้ผู้ใหญ่ก็มาคุย มันมีช่อง กฎหมายก็มีช่อง”
ฟังชัดๆ คลิปเสียงปริศนา ต่อรองหลังจับ "เปรมชัย"
6 กุมภาพันธ์ 2561
ที่มา ไทยพีบีเอส
ไทยพีบีเอส ได้รับคลิปเสียงจากแหล่งที่เชื่อถือได้ว่าระหว่างการจับกุม "นายเปรมชัย" และพวกที่ถูกจับในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร มีบทสนทนาปริศนาระหว่างคน 2 คน คล้ายกับการต่อรองอะไรบางอย่าง จึงเป็น "คำถาม"ว่ามีใครเปิดทางเข้าไปล่าสัตว์หรือไม่
ถ้าถามว่าคณะของนายเปรมชัย กรรณสูต เข้าไปในพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี ได้อย่างไร คำพูดที่เจ้าหน้าที่คุยกันในวิทยุว่า ให้อำนวยความสะดวก คณะท่องเที่ยว เพราะเป็นแขกของนาย คำนี้คงตอบชัดเจน และไทยพีบีเอส ได้รับคลิปเสียงจากแหล่งที่เชื่อถือได้ว่าระหว่างการจับกุม มีบทสนทนาปริศนาระหว่างคน 2 คน คล้ายกับการต่อรองอะไรบางอย่าง ทำให้เป็นคำถามว่ามีใครเปิดทางเข้าไปล่าสัตว์หรือไม่
โดยคดีนี้ กลายเป็นข่าวครึกโครมในวันนี้ ภาพที่ปรากฎในคลิปมีซากสัตว์จำนวนหนึ่ง ถูกพบ อยู่ภายในถุงดำ คล้ายหนังเสือดำ ถูกลอกหนังแยกชิ้นส่วน และมองเห็นได้ชัดว่า มีเพียงกะโหลกเสือดำบรรจุอยู่ภายในถุงดำนี่ด้วย ห่างกันไม่ไกลเจ้าหน้าที่พบ กระเป๋า ข้างใน มีกระสุนปืน หลายชนิด พร้อมด้วยกระเป๋าใส่อย่างรัดกุม
ก่อนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยอมรับว่า ผู้ประสานงานของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อิตาเลียนไทย และคนติดตาม รวม 4 คน โทรศัพท์เข้ามา ขออนุญาตเข้าไปเที่ยวป่า จากนั้น ได้ชี้แจงไปว่า ให้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าได้ ตามขั้นตอน
ส่วนการทำหนังสือขออนุญาตผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า อ้างว่า ผู้ประสานงานของนายเปรมชัย ได้ทำหนังสือไว้แล้วแต่เวลากระชั้นชิด จึงลงนามในหนังสืออนุญาตไม่ทัน
วันที่ 3 ก.พ. นายเปรมชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อิตาเลียนไทยและคนติดตาม รวม 4 คน เดินทางไปที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยพิทักษ์ป่า ทินวย - ทิคอง - มหาราช ระยะทาง 30 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางที่เปิดให้ท่องเที่ยวได้
คณะของนายเปรมชัย ใช้รถยนต์ 1 คัน ผ่านเส้นทางถนนอำเภอทองผาภูมิ ถนนรพช. เขาหลวง เข้าพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเส้นทางนี้ ต้องผ่านจุดตรวจค้น สำนักเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ นเรศวร ห่างจากจุดเกิดเหตุ 20 กิโลเมตร แม้มีจุดตรวจค้นแต่คณะของนายเปรมชัย เข้าไปได้
วันต่อมา 4 ก.พ. เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช ได้รับข้อมูลว่า คณะของนายเปรมชัย ลักลอบตั้งแคมป์พักแรม ในจุดห้วยปะชิ อยู่ระหว่างหน่วยทิคอง กับหน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช ห่างจากจุดที่ได้รับอนุญาตให้พัก 5 กิโลเมตร
เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเตือนให้ย้ายกลับ เข้าบริเวณที่กำหนดให้พัก ต่อมาได้ยินเสียงปืนเจ้าหน้าที่ ได้ขอกำลังออกตระเวนค้นหา และตรวจสอบ
จนกระทั่งพบปืน 3 กระบอก และกระสุน รวมถึงซากสัตว์ป่า เช่น ไก่ฟ้าหลังเทา - เนื้อเก้ง จึงควบคุมตัวนายเปรมชัย และคณะไปที่สำนักงานในเวลา 02.40 น.
ต่อมาวันที่ 5 ก.พ. เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติม ในรัศมีประมาณ 20 เมตร พบซากเสือดำ ถูกชำแหละเนื้อ และหนัง และยังพบกระสุนปืนอีกจำนวนมากเกือบ 200 นัด
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก่อนเดินทางเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เจ้าหน้าที่อ้างถึงเสียง วิทยุที่ใช้พูดคุยระหว่างเจ้าหน้าที่ ระบุ มีข้อความให้ "อำนวยความสะดวก คณะท่องเที่ยว เพราะเป็นแขกของนาย"
และนี่เป็นส่วนหนึ่งของเสียง ที่อ้างถึงถึงการพูดคุยกันของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ หลังจากถูกควบคุมตัว
บางช่วงมีข้อความว่า
“หากเหตุการณ์นี้ ไม่มีอะไรแล้ว ก็ขอกันได้ อยากจะส่งลูกน้องบรรทุกมาให้”
อีกทั้งยังมีข้อความ ระบุถึงการนำอาวุธเข้าไปในพื้นที่ป่า
“ถ้า ไม่มีอะไรแล้ว ก็ขอกันได้ อยากได้อะไร จะส่งลูกน้องบรรทุกมาให้เลย”
“เคยส่งรองเท้าแตะ บรรทุกไปเลยนะ100กว่าคู่ คอมแบต ชุด ว.30 เครื่องไปให้เลย”
“ทำธุรกิจก็ต้องเปิดทางนะ”
“มาเที่ยว”
“ไม่น่าพลาด เข้ามาไม่น่าเอาปืนเข้ามา เดี่ยวก็ให้ผู้ใหญ่มาคุย”
"ยึดปืนหรือเปล่า คงไม่ได้ยึดมั้ง ปืนมีทะเบียน"
“เดี๋ยวให้ผู้ใหญ่ก็มาคุย มันมีช่อง กฎหมายก็มีช่อง”
"เอาปืนเข้ามา ไม่ได้เอามาเพื่อป้องกันตัวด้วย แต่เอามายิงสัตว์ป่า"
อ่านข่าวเพิ่มเติม
